บึงฉวาก...สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล
หากยังจำได้ ย้อนกลับไปเมื่อกลางปี 2546 นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศพากันหลั่งไหลไปเที่ยว สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี กันอย่างล้นหลาม ส่งผลรถราติดยาวเหยียดหลายกิโลฯ ห่างมาหลายปี เพิ่งมีโอกาสกลับไปเยือนสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง “บึงฉวาก” ณ วันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง และเมื่อได้ไปเห็นก็แทบไม่เชื่อสายตา เพียงแค่ไม่กี่ปีผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาจนยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศแล้ว

บึงฉวาก...สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล

นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ให้รายละเอียดว่า เดิม ทีบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ มีอาคารแสดงพันธุ์สัตว์ น้ำ 2 หลัง จัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดราว 110 ชนิด ถือเป็นแหล่งรวมพันธุ์ปลาน้ำจืดที่มากที่สุดในประเทศไทย และมีอุโมงค์น้ำจืดเป็นแห่งแรกของประเทศด้วย ต่อมานายบรรหาร ศิลปอาชา อดีต นายกรัฐมนตรี ผู้ทุ่มเทให้กับการพัฒนาบึงฉวาก มาโดยตลอดเล็งเห็นว่าขณะนี้หลายจังหวัดจัดสร้างอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเหมือนกัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวบึงฉวากน้อยลง จึงคิดสร้างความแปลกใหม่ให้ที่นี่ แตกต่างจากที่อื่นๆ ด้วยการจัดสร้างอาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 3 ขึ้น เป็นตู้ปลาทะเลทั้งหมด ใช้งบประมาณจากกรมประมง 200 ล้านบาท และ อบจ.สุพรรณบุรี 250 ล้านบาท ตั้งชื่อว่า บึงฉวาก สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล ฉะนั้นอย่ารอช้า ตามไปดูอะควาเรียมน้ำเค็มแห่งใหม่กัน

บึงฉวาก...สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล

จุดแรกภายในอาคารชั้นล่าง เราพบกับ ตู้ปลาทรงกระบอก ที่ใหญ่และสูงที่สุดในเมืองไทย มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร สูง 6.80 เมตร ตู้นี้จะเห็นเจ้าปลาบลูแท็งก์ ปลาแยลโล่แท็งก์ ปลาข้าวเม่าน้ำลึก ปลาโนรี ปลาบลูเดมเซล ปลาตะกรับเหลืองยักษ์ และปลาพยาบาล ที่มีสีสันสวยงาม แหวกว่ายกันอย่าง มีความสุข ขณะที่ด้านหลังจะเป็น บ่อ TOUCH POOL ขนาดกว้าง 2.50 เมตร ยาว 5.00 เมตร เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสตัวสัตว์ทะเลที่เลี้ยงไว้ในบ่อได้อย่างใกล้ชิด อาทิ ปลาดาวหมอน ปลาดาวเงิน ปลิงทะเล ฉลามกบเล็ก กระเบนจุดฟ้า ปูเสฉวน และเม่นทะเล

บึงฉวาก...สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล

จากนั้นขึ้นบันไดเลื่อนสูง 4 เมตร ไปยังห้องโถงชั้น 2 ที่ตั้งของตู้แสดงพันธุ์สัตว์ทะเลแปลกๆ เช่น ปลาไหลมอเรย์ กุ้งมังกรอันดามัน ปูแมงมุมยักษ์ และหอยนิติ ต่อจากห้องนี้จะเข้าสู่อุโมงค์เทียมที่รวบรวมภาพจำลองใต้ท้องทะเลไว้ให้ชม ก่อนจะเข้าสู่อุโมงค์จริงๆ ที่มีตู้แสดงพันธุ์ปลาทะเลให้ดูกันจนจุใจ ตู้แรกชื่อ ตู้เปิดโลกใต้ทะเล สูงถึง 9 เมตร สูงที่สุดในเมืองไทย จุน้ำได้ 1,100 ลบ.ม. ในตู้จะเห็นปลากระเบนนกขนาดต่างๆ ปลากะพงแดง ปลากะพงเหลืองลายฟ้า ปลาทูนทอง ปลานกขุนทองนโปเลียน ปลาค้างคาว ปลาช่อนทะเล ปลาโมง และปลาฉลามครีบดำ แหวกว่ายไปมาเหนือหัวเรา



หลังจากผ่านตู้เปิดโลกใต้ทะเลแล้วจะเข้าสู่ ตู้ยักษ์ใต้สมุทร ตู้นี้จุน้ำได้ 660 ลูกบาศก์เมตร ลึก 4 เมตร อุโมงค์มีความยาว 12.50 เมตร และมีทางเลื่อนแนวราบตลอดความยาวอุโมงค์ เพื่อความสะดวกสบายในการชม ตู้นี้จะเห็นปลาหมอทะเลตัวใหญ่ยักษ์ ปลากระเบนท้องน้ำ และเจ้าเต่าทะเล แหวกว่ายกันอย่างอลังการ ส่วนด้านข้างห้องโถงมี ตู้ปะการังสีฟ้าจากโอกินาวา ซึ่งเนรมิตปะการังในตู้ให้มีลักษณะคล้ายกับปะการังในทะเลโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ปลาในตู้นี้มี ปลาอมไข่ ปลาม้าลาย ปลาโดมิโน ปลานกแก้วเหลือง ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ และปลาผีเสื้อชนิดต่างๆ สวยงามน่าชมมาก



จากนั้นไปสัมผัสทางเลื่อนแนวราบที่มีความยาวถึง 25 เมตร เข้าไปชมตู้ปลาที่ใหญ่และยาวที่สุดในอาคารหลังนี้ ตู้นี้มีน้ำลึก 4 เมตร ความจุ 1,100 ลบ.ม. ชื่อว่า ตู้แนวปะการัง เราจะเห็นฝูงปลาสวยงามขนาดใหญ่หลากหลายชนิด เช่น ปลาปักเป้าสายพันธุ์ต่างๆ ปลาผีเสื้อลายตรง ปลาผีเสื้อเหลือง ปลาบลูแท็งก์ ปลาฟอกเฟส ปลาสินสมุทร ปลามาแจสติก ปลาคราวน์ทริกเกอร์ ปลาวัวปิกัสโซ่ ปลาวัวส้ม ปลาวัวน้ำเงิน และอื่นๆ ดูแล้วเพลินตาจริงๆ ภายในตู้ตกแต่งด้วยปะการังเทียมและซากเรืออับปาง คล้ายได้ลงไปดำดูในท้องทะเลจริงๆ หรือจะมุดหัวเข้าไปในช่องกระจกใส ซึ่งทำขึ้นพิเศษเพื่อให้เห็นปลาในตู้ได้ตลอดทางเดิน เปรียบเสมือนอยู่ในเรือดำน้ำที่อยู่ใต้ทะเลแล้วมองดูฝูงปลา ก็รู้สึกสนุกตื่นเต้นไปอีกแบบ



ไฮไลต์อีกอย่างของที่นี้ อยู่ที่ อุโมงค์ปลาฉลาม หรือตู้ชุมนุมพยัคฆ์ร้ายแห่งท้องทะเล ตู้นี้จะได้พบกับฝูงปลาฉลามขนาดใหญ่หลากชนิด เช่น ปลาฉลามเสือทราย ปลาฉลามเสือดาว ปลาฉลามครีบดำ และปลาฉลามขี้เซา อุโมงค์ปลาฉลามนี้มีความยาว 16 เมตร กว้าง 6 เมตร มีน้ำลึก 6 เมตร เป็นอุโมงค์ปลาที่กว้างที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้





หลังผ่านความหวาดเสียวภายในตู้ปลาฉลามแล้ว เราจะได้ชมความสวยงามของ ตู้สีสันสิมิลัน เป็นตู้ที่ตกแต่งด้วยปะการังสีชมพู และกัลปังหาที่สวยงาม มีปลาหลากสีแหวกว่ายให้ดูอย่างเพลิดเพลิน หน้าตู้มีอะคริลิค ตกแต่งเป็นรูปโค้งเว้าแบบจอภาพยนตร์และมีเก้าอี้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน หลังนั่งชมฝูงปลาสวยๆ จนอิ่มใจ ก็ย้อนกลับสู่ด้านหน้าอาคารอีกครั้งหนึ่ง และก่อนออกจากอาคารจะเป็นห้องจำหน่ายของที่ระลึก ซึ่งมีของน่ารักๆจากบึงฉวากหลากหลายรูปแบบ ให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านเป็นของขวัญของฝาก



นอกจากอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทั้ง 3 หลังแล้ว บึงฉวากยังมีสัตว์ป่าหายากหลากชนิดให้ได้ชม ไม่ว่าจะเป็นเสือโคร่ง เสือดาว เสือลายเมฆ เสือขาวสิงโต นกน้ำชนิดต่างๆ นกกระจอกเทศ อูฐ ม้าลาย และเกาะกระต่าย โดยจัดแสดงอยู่ใน ศูนย์พัฒนา การจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก หากใครสนใจเรื่องต้นไม้ใบหญ้า ต้องไม่พลาดไปเยี่ยมชม อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพ เพราะที่นี่ได้รวบรวมผักพื้นบ้านจากทั่วภูมิภาคของประเทศมาจัดแสดงไว้ หรือใครจะพาครอบครัวมาพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศธรรมชาติริมบึงน้ำ นอนเอกเขนกบนบ้านต้นไม้ที่หรูหรา สะดวกสบาย หรือจะมากับหวานใจ ที่นี่ก็มีให้ บริการเช่นกัน



ปิดเทอมนี้ ถ้ายังไม่รู้ว่าจะพาลูกหลานไปเที่ยวไหน ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน และการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและโลกใต้ทะเลที่ดีที่สุด ถูกที่สุด และคุ้มค่าเงินที่สุด ในระยะทางไม่ไกล กรุงเทพฯเพียงแค่ 160 กิโลเมตรเท่านั้น สนใจขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ โทร. 0-3543-0033 และ 0-3543-0044 ทุกวันในเวลาราชการ.

ที่มาจาก นสพ.ไทยรัฐ