ลักษณะภูมิประเทศในแต่ละภาคของประเทศไทย
ภาคเหนือ
ภาคเหนือประกอบด้วยพื้นที่ของ 9 จังหวัด ได้แก่ 1.เชียงราย 2.แม่ฮ่องสอน 3.พะเยา 4.เชียงใหม่
5.น่าน 6.ลำพูน 7.ลำปาง 8.แพร่ 9.อุตรดิตถ์
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นเทือกเขาสูงทอดยาวขนานกันในแนวเหนือ-ใต้ และระหว่างเทือกเขาเหล่านี้มีที่ราบและมี
หุบเขาสลับอยู่ทั่วไป
เทือกเขาที่สำคัญ คือ เทือกเขาหลวงพระบาง เทือกเขาแดนลาว เทือกเขาถนนธงชัย เทือกเขาผีปันน้ำ เทือกเขาขุนตาล
และ เทือกเขาเพชรบูรณ์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคนี้ ได้แก่ ยอดอินทนนท์(เดิมชื่อ ดอยอ่างกา) อยู่ในจังหวัด
เชียงใหม่ มีความสูงประมาณ 2,595 เมตร
เทือกเขาในภาคเหนือเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำสายยาว 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน แม่น้ำดังกล่าวนี้ไหลผ่าน
เขตที่ราบหุบเขา พื้นที่ทั้งสองฝั่งลำน้ำจึงมีดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก ทำให้มีผู้คนอพยพไปตั้งหลักแหล่ง
ในบริเวณดังกล่าวหนาแน่น
นอกจากนี้ภาคเหนือยังมีแม่น้ำสายสั้นๆ อีกหลายสาย ได้แก่ แม่น้ำกก และแม่น้ำอิง ซึ่งไหลลงสู่ แม่น้ำโขง แม่น้ำปาย
แม่น้ำเมย และแม่น้ำยวม ซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน
---------------------------
ภาคกลาง
ภาคกลางประกอบด้วยพื้นที่ของ 22 จังหวัด ได้แก่ 1.สุโขทัย 2.พิษณุโลก 3.กำแพงเพชร 4.พิจิตร 5.เพชรบูรณ์(ภาคกลางตอนบน)
6.นครสวรรค์ 7.อุทัยธานี 8.ชัยนาท 9.ลพบุรี 10.สิงห์บุรี 11.อ่างทอง 12.สระบุรี 13.สุพรรณบุรี 14.พระนครศรีอยุธยา
15.นครนายก 16.ปทุมธานี 17.นนทบุรี 18.นครปฐม 19.กรุงเทพมหานคร 20.สมุทรปราการ 21.สมุทรสาคร 22.สมุทรสงคราม
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นที่ราบดินตะกอนที่ลำน้ำพัดมาทับถม ในบริเวณที่ราบนี้มีภูเขาโดดๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขา
หินปูนกระจาย อยู่ทั่วไป ภูมิประเทศตอนบนของภาคกลางเป็นที่ราบลูกฟูกคือเป็นที่สูงๆต่ำๆและมีภูเขาที่มีแนวต่อเนื่องจาก
ภาคเหนือ เข้ามาถึงพื้นที่บางส่วนของจังหวัดพิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ส่วนพื้นที่ตอนล่างของภาคกลางนั้นเป็นดินดอนสามเหลี่ยม
ปากแม่น้ำ เจ้าพระยา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน นอกจากแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ตอนล่างของภาคกลางยัง
มีแม่น้ำไหลผ่านอีก หลายสาย ได้แก่ แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำนครนายก เขตนี้เป็นที่ราบกว้างขวางซึ่ง
เกิดจากดินตะกอน หรือดิน เหนียวที่แม่น้ำพัดพามาทับถมเป็นเวลานาน จึงเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกมาก และ
เป็นเขตที่มีประชากรเยอะที่สุด ในประเทศไทย ฉะนั้นภาคกลางจึงได้ชื่อว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของไทย
--------------------------------------------------------------------------------
ภาคอีสาน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยพื้นที่ของ 20 จังหวัด ได้แก่ 1.เลย 2.หนองคาย 3.อุดรธานี 4.สกลนคร 5.นครพนม
6.ขอนแก่น 7.กาฬสินธุ์ 8.มุกดาหาร 9.ชัยภูมิ 10.มหาสารคาม 11.ร้อยเอ็ด 12.ยโสธร 13.นครราชสีมา 14.บุรีรัมย์
15.สุรินทร์ 16.ศรีสะเกษ 17.อุบลราชธานี 18.อำนาจเจริญ 19.หนองบัวลำภู 20 บึงกาฬ
--------------------------------------------------------------------------------
ภูมิประเทศทั่วไปมีลักษณะเป็นแอ่งคล้ายจาน ลาดเอียงไปทางตะวันออกเฉียงใต้มีขอบเป็นภูเขาสูงทางตะวันตกและทางใต้
ขอบทางตะวันตก ได้แก่ เทือกเขาเพชรบูรณ์ และเทือกเขาดงพญาเย็น ส่วนทางใต้ ได้แก่ เทือกเขาสันกำแพง และเทือกเขา
พนมดงรัก พื้นที่ด้านตะวันตกเป็นที่ราบสูง เรียกว่า ที่ราบสูงโคราช ภูเขาบริเวณนี้เป็นภูเขาหินทราย ที่รู้จักกันดี
เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว คือ ภูกระดึง ภูหลวง ในจังหวัดเลยแม่น้ำที่สำคัญของภาคนี้ได้แก่ แม่น้ำชี และแม่น้ำมูล
ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากเทือกเขาทางทิศตะวันตก และทางใต้แล้วไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำให้สองฝั่งแม่น้ำเกิดเป็นที่ราบ
น้ำท่วมถึงเป็นตอนๆ พื้นที่ราบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมักมีทะเลสาบรูปแอก*เป็นจำนวนมาก แต่ทะเลสาบเหล่านี้
จะมีน้ำเฉพาะฤดูฝนเท่านั้นเมื่อถึงฤดูร้อนน้ำก็จะเหือดแห้งไปหมด เพราะดินส่วนใหญ่เป็นดินทรายไม่อุ้มน้ำ น้ำจึงซึม
ผ่านได้เร็ว ภาคนี้จึงมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ และดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้พื้นที่บางแห่งไม่สามารถ
ใช้ประโยชน์ในการเกษตรได้อย่างเต็มที่ เช่น ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งมีเนื้อที่ถึงประมาณ 2ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5
จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ มหาสารคาม ยโสธร และศรีสะเกษ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้พยายามปรับปรุงพื้นที่
ให้ดีขึ้น โดยใช้ระบบชลประทานสมัยใหม่ ทำให้สามารถเพาะปลูกได้จนกลายเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิ
ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ก็ปลูกได้เฉพาะหน้าฝนเท่านั้น หน้าแล้งสามารถทำการเพาะปลูกได้เฉพาะ
บางส่วนเท่านั้น ยังไม่ครอบคลุมบริเวณทั้งหมด
------------------------------------
ภาคตะวันตก
ภาคตะวันตก ประกอบด้วยพื้นที่ของ 5 จังหวัด ได้แก่ 1.ตาก 2.กาญจนบุรี 3.ราชบุรี 4.เพชรบุรี 5.ประจวบคีรีขันธ์
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง ได้แก่ เมือกเขาถนนธงชัย และเทือกเขาตะนาวศรีเป็นแนวภูเขาที่ซับซ้อน
มีที่ราบแคบๆ ในเขตหุบเขาเป็นแห่งๆและมีที่ราบเชิงเขาต่อเนื่องกับที่ราบภาคกลางเทือกเขาเหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดของ แม่น้ำ
แควน้อย (แม่น้ำไทรโยค)และแม่น้ำแควใหญ่(ศรีสวัสดิ์) ซึ่งไหลมาบรรจบกัน เป็นแม่น้ำแม่กลอง
ระหว่างแนวเขามีช่องทางติดต่อกับพม่าได้ ที่สำคัญคือ ด่านแม่ละเมาในจังหวัดตาก และด่านพระเจดีย์สามองค์ ในจังหวัด
กาญจนบุรี
--------------------------
ภาคตะวันออก
ภาคตะวันออก ประกอบด้วยพื้นที่ของ 7 จังหวัด ได้แก่ 1.ปราจีนบุรี 2.ฉะเชิงเทรา 3.ชลบุรี 4.ระยอง 5.จันทบุรี
6.ตราด 7.สระแก้ว
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปคือมีราบใหญ่อยู่ทางตอนเหนือของภาค มีเทือกเขาจันทบุรีอยู่ทางตอนกลางของภาค
มีเทือกเขาบรรทัดอยู่ทางตะวันออกเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา และมีที่ราบ
ชายฝั่งทะเลซึ่งอยู่ระหว่างเทือกเขาจันทบุรีกับอ่าวไทย ถึงแม้จะเป็นที่ราบแคบๆ แต่ก็เป็นพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์
เหมาะสำหรับการปลูกไม้ผล ในภาคนี้มีจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดสะแก้วเป็นจังหวัดที่ไม่มีอาณาเขตจดทะเล
นอกนั้นทุกจังหวัดล้วนมีทางออกทะเลทั้งสิ้น ชายฝั่งทะเลของภาคนี้ เริ่มจากปากแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ไปถึงแหลมสารพัดพิษ จังหวัดตราด ยาวประมาณ 505 กิโลเมตร เขตพื้นที่ชายฝั่งของภาคนี้มีแหลมและอ่าว
อยู่เป็นจำนวนมากและมีเกาะใหญ่น้อยเรียงรายอยู่ไม่ห่างจากฝั่งนัก เช่น เกาะช้าง เกาะกูด เกาะสีชัง เกาะล้าน
เป็นต้น
----------------------
ภาคใต้
ภาคใต้ประกอบด้วยพื้นที่ของ 14 จังหวัดได้แก่ 1.ชุมพร 2.สุราษฎ์ธานี 3.นครศรีธรรมราช 4.พัทลุง 5.สงขลา 6.ปัตตานี
7.ยะลา 8.นราธิวาส 9.ระนอง 10.พังงา 11.กระบี่ 12.ภูเก็ต 13.ตรัง 14.สตูล
--------------------------------------------------------------------------------
ภูมิประเทศทั่วไปมีลักษณะเป็นคาบสมุทรยื่นไปในทะเล ทางตะวันตกของคาบสมุทรมีเทือกเขาภูเก็ตทอดตัวเลียบ
ชายฝั่งไปจนถึงเกาะภูเก็ต ตอนกลางของภาคมีเทือกเขานครศรีธรรมราช ส่วนทางตอนใต้สุดของภาคใต้มีเทืกเขา
สันกาลาคีรีวางตัวในแนวตะวันออก-ตะวันตก และเป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่างไทยกับมาเลเซียด้วย
พื้นที่ทางชายฝั่งตะวันออกมีที่ราบมากกว่าชายฝั่งตะวันตก ได้แก่ ที่ราบในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช
พัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของภาคใต้มีชายหาดเหมาะสำหรับเป็นที่ตากอากาศหลายแห่ง เช่น หาดสมิหลา จังหวัด
สงขลาและหาดนราทัศน์ จังหวัดนราธิวาส เป็นต้น เกาะที่สำคัญทางด้านนี้ ได้แก่ เกาะสมุยและเกาะพะงัน ส่วนชายฝั่ง
ทะเลด้านมหาสมุทรอินเดีย มีเกาะที่สำคัญคือ เกาะภูเก็ต เกาะตะรุเตา เกาะยาวและเกาะลันตา
นอกจากนี้ ในเขตจังหวัดสงขลาและพัทลุงยังมีทะเลสาบเปิด(Lagoon)ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ คือ ทะเลสาบสงขลา มีความยาวจากเหนือจดใต้ประมาณ 80 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุด
ประมาณ 20 กิโลเมตร คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 974 ตารางกิโลเมตร ส่วนเหนือสุดของทะเลสาบเป็นแหล่งน้ำจืด
เรียกว่าทะเลน้อยแต่ทางส่วนล่างน้ำของทะเลสาบจะเค็ม เพราะมีน่านน้ำติดความกับอ่าวไทย น้ำทะเลจึงไหล
เข้ามาได้ ในทะเลสาบสงขลามีเกาะอยู่หลายเกาะ บางเกาะเป็นที่ทำรังของนกนางแอ่น บางเกาะเป็นที่อยู่ของเต่าทะเล
นอกจากนี้ในทะเลสาบยังมี ปลา และกุ้งชุกชุมอีกด้วย
ส่วนชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของภาคใต้มีลักษณะเว้าแหว่งมากกว่าด้านตะวันออก ทำให้มีทิวทัศน์ที่
สวยงามหลายแห่ง เช่น หาดนพรัตน์ธารา จังหวัดกระบี่ หมู่เกาะซิมิลัน จังหวัดพังงา ชายฝั่งตะวันตกของภาคใต้
จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ
แม่น้ำในภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นแม่น้ำสายสั้นๆไหลจากเทือกเขาลงสู่ทะเล ที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำโก-ลก
ซึ่งกั้นพรมแดนไทยกับมาเลเซียในจังหวัดนราธิวาส แม่น้ำกระบุรี ซึ่งกั้นพรมแดนไทยกับพม่าในเขต
จังหวัดระนอง แม่น้ำตาปี ในจังหวัดสุราษฎ์ธานี และแม่น้ำปัตตานี ในจังหวัดยะลาและปัตตานี
-------------------------
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://202.29.138.73/studentweb/soc1/lesson2.html
Bookmarks