กลอนดอกสร้อย รำพึงในป่าช้า
เคยจำได้ว่าเคยท่องกลอนดอกสร้อยบทนี้
ท่องแล้วเกิดภาพดีมาก คิดถึงคนที่ตายไป
แล้วถูกฝัง หรือเก็บไว้ในสุสาน ต้องว้าเหว่
และเดียวดาย ว่างเปล่า
แต่จำชื่อท่านผู้ประพันธ์ไม่ได้ค่ะ
...วังเอ๋ยวังเวง...
หง่างเหง่ง ย่ำค่ำระฆังขาน
ฝูงควายผ้ายลาทิวากาล
ค่อยค่อยผ่านท้องทุ่งมุ่งถิ่นตน
ชาวนาเหนื่อยอ่อนต่างจรกลับ
ตะวันลับอับแสงทุกแห่งหน
ทิ้งทุ่งให้มืดมั่วทั่วมณฑล
และทิ้งตนตูเปลี่ยวอยู่เดียวเอย
....ความเอ๋ยความรู้....
เป็นเครื่องชี้ชูทางสว่างไสว
หมดโอกาสที่จะชี้ต่อนี้ไป
ละห่วงใยอยากรู้ลงสู่ดิน
อันความยากหากให้ไร้ศึกษา
ย่นปัญหาความรู้อยู่แค่ถิ่น
หมดทุกข์ขลุกแต่กิจคิดหากิน
กระแสวิญญาณงันเพียงนั้นเอย
....ห่วงเอ๋ยห่วงอะไร....
ไม่ยิ่งใหญ่เท่าห่วงดวงชีวิต
แม้นคนลืมสิ่งใดได้สนิท
ก็ยังคิดขึ้นได้เมื่อใกล้ตาย
ใครจะยอมละทิ้งซึ่งสิ่งสุข
เคยเป็นทุกข์ห่วงใยเสียได้ง่าย
ใครจะยอมละแดนแสนสบาย
โดยไม่ชายตาใฝ่อาลัย
Bookmarks