...คืนวันที่ 30 ธันวาคม บ่าวเซียงน้อย เดินทางออกจาก สมุทรปราการ โดยได้รับการประสานมาจาก สมาชิก ทาง อ.วังหิน ศรีสะเกษ ให้แวะเยี่ยมก่อนค่อยไปอุบลฯ พอดีไปถึง อ.วังหิน ตี 2 ครึ่ง ทีมงานต้อนรับบ่า่วเซียงน้อย ก็จัดออเดิร์ฟ ส้มปลาตองสดและปิ้ง (ปลากราย)และก้อยเนื้อสดๆ มาให้ชิมไปพรางๆก่อน พร้อม 285 อิอิ
....พอไกล้สว่างหน่วยล่าพิเศษ(ล่าหนู)ก็กลับมาถึงบ้าน ได้มาเยอะเหมือนกัน ทําการเผา สับเป็นชิ้นบอกว่าจะทําแกงคั่วซดนํ้าร้อนๆให้กิน ว่าซ้าน
...วัสดุอุปกรณ์เท่าที่ผมนั่งสังเกตุดูห่างๆ (ไปในนามแขกรับเชิญพิเศษเขาไม่ให้ยุ่งให้กินอย่างเดียว 555) มีพริกไทยสดอ่อน ใบกระเพรา ตะไคร้ เป็นหลัก
...วิธีทํา เขานําหนูที่สับเป็นชิ้นพอประมาณ นําไปคั่วในหม้อไส่ตะไคร้หั่นที่เตรียมใว้ คนไปเรื่อยๆ จนนํ้าในหม้อแห้งพอดีเนื้อหนูที่สับก็จะเกือบสุก เสร็จแล้วเติมนํ้าเปล่าในปริมาณที่พอดีกับเนื้อหนู พอนํ้าเดือดสักพัก ใส่พริกไทยอ่อน ใบกระเพรา และปรุงรสตามใจชอบ ปิดฝาหม้อใว้สักพัก ตักเสิร์ฟได้เลย จะได้กลิ่นพริกไทย ผสมกระเพรา และซดนํ้าร้อนๆจะได้รสชาติไปอีกแบบ ซึ่งต่างจากคั่วหนูธรรมดา สรุปแล้ว แวะเยี่ยมพี่น้อง อ.วังหิน ศรีสะเกษ กลับถึงศรีเมืองใหม่ อุบลฯ เที่ยงตรง 555+ ตามมาชมภาพกันครับ
....เช้าตรู่ พี่น้องฟ้าวตื่นมาต้อนรับ ได้ยินว่าบ่าวเซียงน้อยตัวเป็นๆแวะมายาม อิอิ
....ไปถึงดึกโพด หน่วยล่าหนูยังไม่มา เผิ่นเลยได้ส้มปลาตอง ทั้งปิ้งและสด พร้อมด้วย ก้อยเนื้อสดขมแป๋ตาย กินรอไปพรางๆก่อน อิอิ
....หนูที่ได้มาสับให้ได้ชิ้นพอเหมาะ
....ตักกันออกมาแบบร้อนๆเลย
....นี่ละครับ หน้าตาแกงคั่วหนู ซดร้อนๆ แซบคัก หอมกลิ่นพริกไทย กระเพรา
...กระทู้ต่อไปพบกับ งานแต่ง และแวะเยี่ยมชม คาราโอเกะ ทางศรีเมืองใหม่ ครับ อิอิ
Bookmarks