ผู้เขียนได้เล่านิทานเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับพ่อค้าสองคนคือพ่อค้าข้าวและพ่อค้าหนังสัตว์ เดินทางผ่านมาถึงวัดแห่งหนึ่งในตอนค่ำ เจ้าอาวาสจึงสั่งลูกวัดให้จัดที่นอนให้ แต่เพราะที่นอนมีให้สำหรับคนเดียวเท่านั้น จึงสั่งลูกวัดว่าให้พ่อค้าข้าวได้นอนที่นอน ส่วนพ่อค้าหนังสัตว์ให้นอนนอกห้อง ในตอนขากลับพ่อค้าทั้งสองก็มาค่ำที่วัดนี้อีก เจ้าอาวาสได้จัดที่นอนให้เช่นเดิม แต่สลับกัน ก่อนกลับพ่อค้าได้กราบขอบคุณหลวงพ่อที่ให้ความเป็นธรรมในเรื่องที่นอน แต่หลวงพ่อกลับตอบไปว่าท่านไม่มีทางทราบว่าพ่อค้าทั้งสองจะกลับมาอีก แต่สามารถอธิบายได้ว่าตอนขาไปนั้น หลวงพ่อต้องการจะให้พ่อค้าข้าวรู้สึกว่าบ้านเมืองนี้อุดมสมบูรณ์ เพื่อกระตุ้นให้พ่อค้าอยากจะซื้อข้าวมาก ๆ ขณะที่พ่อค้าหนังสัตว์คงอยากจะเห็นความยากลำบากเพื่อให้สัตว์ล้มตายเพื่อจะได้โอกาสซื้อหนัง แต่ขากลับนั้น ความรู้สึกของพ่อค้าทั้งสอง จะต้องสลับกันเพราะพ่อค้าข้าวคงอยากจะให้บ้านเมืองข้าวยากหมากแพง เพื่อจะได้ขายข้าวได้ในราคาดี ขณะที่พ่อค้าหนังสัตว์คงอยากจะรู้สึกว่าบ้านเมืองอยู่อย่างสงบ สัตว์เลี้ยงแข็งแรงเพื่อจะขายหนังสัตว์ได้ในราคาดีเช่นกัน

พ่อค้าทั้งสองยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงที่พวกเขารู้สึกเช่นนั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเห็นแก่ได้ ไม่รู้จักเพียงพอ ซึ่งนิทานเรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดเรื่องความรู้จักพอเพียงและมีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ การทำธุรกิจจะต้องไม่คำนึงถึงตัวเองฝ่ายเดียว จะต้องคำนึงถึงผู้อื่นด้วย

ที่มา : (http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=157114)