...สืบเนื่องจากตอนที่แล้ว เมื่อน้องชายคนถัดจากผม(น้องสาม) เริ่มโตแล้ว
แม่จึงตัดสินใจอุ้มท้องอีกครั้ง.. เพื่อหวังว่าครอบครัวของเราจะได้ลูกสาวกะเขาบ้าง
เพราะแม่คงคิดในใจแล้วว่าลำพังสามชาย ที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า
และหนึ่งในนั้นอาจจะได้เป็น วมต. อะไรวะ..งง
...เก้าเดือนที่แม่เฝ้าถนุถนอมอุ้มท้อง..หวังเพื่อจะได้
เจ้าหญิงตัวน้อยๆ(ของอ้าย) อย่างที่แม่ และเราทั้งสามคนเฝ้ารอคอย แต่ฝันของพวกเราก็ไม่เป็นจริง
เมื่อน้องคนที่สี่ของผมก็เป็นบักเถิ่ก(ผู้ชาย)อีกแล้ว...แม่พูดกับผมและน้องชาย
แบบหมดหวังว่า..ถ้าอยากได้น้องสาวอีก คงไม่ได้แล้วลูกเอ้ย...เพราะแม่ทำหมันแล้ว
ณ เวลานั้นผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำหมันหมายถึงอะไร(แบบว่าไร้เดียงสาเอาซะมากๆ)
แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการเข้าใจในเวลานั้น
ลึกๆ ในใจแม่คงคิดว่าที่อยากได้ลูกสาวบ้างคงเพราะ เนื่องจากถ้าครอบครัวนั้น
มีแต่ลูกชาย จะขาดดุลทางการค้า(น่ะคิดรอบคอบซ่ะด้วยแม่เรา) สาเหตุก็คงเป็นเพราะ
หากในวันข้างหน้าลูกชายอยากแต่งงาน...แม่ก็ต้องหาเงินค่าดองมาแต่งเมียใหู้ลูกชาย
ทั้งสี่คน แม่ยังพูดเล่นกับพวกเราเลยว่า....ถ้าอยากได้เมียก็ให้วิ่งตามเขาเอาน่ะลูกเอ้ย
(แล่นนำผู้สาว นั้นนา) แม่ไม่มีปัญญาแต่งเมียให้แล้วละ เมื่อให้กำเนิดครบสี่ยอดกุมาร
(ไม่ใช่กุมารทองน่ะครับ) ครอบครัวของเราก็ต้องหน้าตั้งตา ทำนา ทำไร่ รับจ้างไปตามประสา
ครอบครัวที่ยากจน...
ผมเองได้แยกตัวออกมาจากครอบครัวด้วยวัยเพียง 13 ขวบ
ด้วยสถานภาพทางครอบครัวเลี้ยงดูไม่ไหว ผมต้องมาอาศัยอยู่กับยาย ...
เรื่องการศึกษาของผมคงไม่ต้องพูดถึง....ก็เพียงแต่ได้อาศัยไปเรียนตามวััดตามวา
เพราะยายจะชอบไปทำบุญทุกวัน ด้วยไม่มีเงินซื้อหนังสือมาอ่าน ผมก็อาศัยหาอ่านตัวหนังสือที่เขาเขียนไว้ตาม ข้างกำแพงวัดบ้าง ตามโบสถ์บ้าง ฯ
ส่วนมากก็จะมีคำซ้ำๆกัน เช่น นายดำ ขาวดี ชาตะ 11 21 มรณะ เมื่อ 22 74
จนผมเดินผ่านก็จำได้แทบทุกที่.....
โปรดติดตามตอนต่อไป...ที่นี่เร็วๆนี้
Bookmarks