10 ประเทศ น่าเที่ยวที่สุด ไทยรั้งอันดับ 42 ตามสิงคโปร์-มาเลเซีย 12/3/2008
สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และเยอรมนี ยังรักษาตำแหน่งประเทศน่าเที่ยวใน 3 อันดับแรกสุดไว้ได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ) รายงานผลการจัดอันดับขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการเดินทาง และท่องเที่ยว (ทีทีซีไอ) ประจำปี 2551 ผ่านเว็บไซต์ การจัดอันดับในปีนี้มีแนวคิดจะสร้างสมดุล ระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การจัดอันดับครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการประกวดด้านความงามของแต่ละประเทศ แต่มีเป้าหมายที่การวัดปัจจัยต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมเดินทาง และการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ นางเจนนิเฟอร์ บลังเก นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส เครือข่ายขีดความสามารถทางการแข่งขันโลก ของดับเบิลยูอีเอฟ ชี้ว่า ประเทศที่ได้อันดับสูงๆ นั้น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนธุรกิจ และกรอบการดำเนินงานด้านกฎข้อบังคับ ประกอบกับการมีสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว และคมนาคม ระดับโลก นอกเหนือจากการมุ่งเน้นในด้านทรัพยากรมนุษย์ และธรรมชาติ
ส่วนประเทศในแถบโอเชียเนียนั้น ออสเตเลีย ติดอยู่ในอันดับ 4 ทั้งยังครองอันดับ 1 ในฐานะประเทศที่มีมรดกโลกทางธรรมชาติมากที่สุดในโลกด้วย รวมถึงอันดับ 5 ด้านทรัพยากรทางวัฒนธรรม ประเทศเอเชียรายอื่นๆ ที่ติดอันดับครั้งนี้ สิงคโปร์ ในอันดับที่ 16 อินโดนีเซีย ที่ 80 ฟิลิปปินส์ ที่ 81 และเวียดนามที่ 96 ขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้านเศรษฐกิจของเอเชีย อย่างฮ่องกงอยู่ที่ 14 ญี่ปุ่นที่ 23 จีนที่ 62 และอินเดีย 65
ไทยติดอยู่ในอันดับ 42 จากทั้งหมด 130 ประเทศ ขยับขึ้นจากอันดับ 43 ในการจัดอันดับครั้งแรก เมื่อปี 2550 ไทยยังจัดอยู่ในอันดับ 10 ของทัศนคติของประชาชนในประเทศ ที่มีความเป็นมิตรอย่างมากต่อนักท่องเที่ยว และยังได้อันดับ 12 ด้านการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากรัฐบาล ซึ่งเป็นระดับเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ซึ่งในปีนี้ติดอันดับที่ 32 ของทีทีซีไอ และดับเบิลยูอีเอฟ จัดให้ไทยอยู่ในลำดับ 20 ในด้านความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และความแข็งแกร่งในการเชื่อมโยงระหว่างการเดินทาง และการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ดี ดับเบิลยูอีเอฟ มองว่า ไทยยังมีจุดอ่อนในบางเรื่อง เพราะแม้การท่องเที่ยวจะเป็นหนึ่งในหลายอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แต่กฎระเบียบข้อบังคับของภาคธุรกิจนี้ ไม่ว่าจะเป็นความเข้มงวดในการเดินทางเข้าประเทศของเรือต่างชาติ ระเบียบด้านวีซ่า และการเริ่มทำธุรกิจในประเทศ ซึ่งไทยติดอยู่ในลำดับที่ 52 ล้วนแต่เป็นอุปสรรค ที่ทำให้อุตสาหกรรมเดินทาง และท่องเที่ยวไม่มีการพัฒนาเท่าที่ควรจะเป็น
Bookmarks