กำลังแสดงผล 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3

หัวข้อ: 16คำทำนาย..

  1. #1
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
    วันที่สมัคร
    Dec 2007
    กระทู้
    169

    ดูวีดีโอ YouTube ออนไลน์ 16คำทำนาย..

    วันหนึ่ง​​พระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถี​ได้เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ในราตรีกาล ครั้นล่วงปัจฉิมยามใกล้รุ่ง​ได้ทอด​พระเนตรเห็น ​พระสุบินนิมิตอันใหญ่หลวง ถึง 16 ประการอัน​เป็น​พระสุบิน​ที่แปลกประหลาด จึงทรงตก​พระทัยตื่นบรรทม​และครั้นรุ่งเช้า​ ก็​ได้ให้พวกพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนักทำนายพวกพราหมณ์ปุโรหิต ก็พากันทำนายว่า ​เป็น​พระสุบิน​ที่ร้าย ​และว่า​พระองค์​จะ​ต้องประสบภัยอันตราย 3 ประการ ไม่เสียราชทรัพย์ก็​จะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หรือไม่ก็​ต้องสวรรคต อย่างใดอย่างหนึ่ง​​และแนะให้​พระองค์ทำพิธีบูชายัญสัตว์ ​เพื่อสะเดาะห์เคราะห์​เมื่อ​พระนางมัลลิกา ​พระมเหสีทราบเรื่อง​เข้าจึงทูลให้​ไปขอคำแนะนำจาก​พระพุทธเจ้า ซึ่ง​พระพุทธองค์ก็​ได้ทรงทำนายว่าเหตุร้ายนั้น​​จะมีแน่นอน เพียง แต่มิใช่เกิดแก่​พระเจ้าปเสนทิโกศลหรือแว่นแคว้นของ​พระองค์ แต่เหตุร้ายเหล่านี้​จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่วๆ ​ไป​และแก่​พระศาสนาของ​พระพุทธองค์ในภายภาคหน้า​เมื่อล่วงเลย​พุทธกาล​ไปแล้ว​ 2500 ปี ​เมื่อศาสนาเสื่อมลง (กล่าวกันว่าอายุของพุทธศาสนาในกัลป์นี้ ยืนยาวเพียง 5,000 ปี หลังจากนั้น​​ต้องรอยุคของ​พระศรีอาริยเมตตไตรย์​พระพุทธเจ้าองค์ต่อ​ไปเสด็จมาโปรดสัตว์)

    ​ความฝันของ​พระเจ้าปเสนทิโกศล ​และคำทำนายของ​พระพุทธเจ้า​ทั้ง 16 ประการ ประกอบด้วย

    1.ทรงฝันว่า มีโคตัวผู้สีเหมือนดอกอัญชัญ 4 ตัว ต่างคิด​จะชนกันก็พากันวิ่งมาสู่ท้อง​พระลานหลวงจาก 4 ทิศ ฝูงชนต่างรอดูโค​ทั้งสี่ก็ส่งเสียงคำรามลั่น แต่แล้ว​ต่างก็ถอยออก​ไป ไม่ชนกัน -​พระพุทธเจ้า​ได้ทรงทำนายว่า ในอนาคตในชั่วศาสนาของ​พระองค์​เมื่อโลกหมุน​ไปถึงจุด​ที่เสื่อมลง มนุษย์ไม่ตั้งอยู่​ในศีลในธรรมฝนฟ้าจักแล้ง ทุพภิกขภัยจักเกิดขึ้น​ คล้ายเมฆตั้งเค้า​จะมีฝนมีเสียงคำรามกระหึ่ม แต่แล้ว​ก็ไม่ตก กลับเลย​หาย​ไปเหมือนโคตั้งท่า​จะชนกัน แต่ไม่ชนกันฉะนั้น​

    2. ทรงฝันว่าต้นไม้เล็กๆ ​และกอไผ่​ที่โตเพียงคืบบ้าง ศอกบ้าง ก็ออกดอกออกผลแล้ว​ -​พระพุทธองค์ทรงทำนายว่า ต่อ​ไป​เมื่อโลกเสื่อม มนุษย์​แม้​จะมีอายุเยาว์มีวัยยังไม่สมบูรณ์ก็​จะมีราคะ กล้า ​และสมสู่กันตั้ง แต่อายุยังน้อย​และ​จะมีลูก แต่เด็กๆ เหมือนต้นไม้เล็กๆ แต่ก็มีผลแล้ว​

    3.ทรงฝันว่า ทรงเห็นแม่โคใหญ่ๆ พากันดื่มนมของฝูงลูกโค​ที่เพิ่งเกิด -ทรงทำนายว่า ต่อ​ไปในอนาคตการเคารพนบนอบผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ครูบาอาจารย์​จะเสื่อมถอย คนเฒ่าคนแก่พ่อแม่​เมื่อหมด​ที่พึ่งหาเลี้ยงตนไม่​ได้ ก็​ต้องง้อ ต้องประจบเด็กๆดัง​ที่แม่โค​ที่​ต้องกินนมลูกโคฉะนั้น​

    4. ทรงฝันว่าผู้คนไม่​ใช้วัวตัวใหญ่ ​ที่สมบูรณ์แข็งแรงเทียมแอกลากเกวียนกลับ​ไป​ใช้โครุ่นๆ ​ที่ยังปราศจาก​กำลังมาลาก​เมื่อมันลากเกวียนให้แล่นไม่​ได้ มันก็สลัดแอกนั้น​เสีย - ทรงทำนายว่าในภายหน้า​เมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่​ในธรรมแทน​ที่​จะยกย่อง​และมอบหมายหน้า​ที่ ให้​กับผู้มีสติปัญญา ​ความรู้กลับ​ไปมอบยศศักดิ์ให้​กับคนหนุ่ม​ที่อ่อนหัด ด้อยประสบการณ์ทำให้ปฏิบัติหน้า​ที่​ได้ไม่ดี กิจการต่างๆ ก็ไม่สำเร็จก็เหมือน​ใช้โครุ่นมาเทียมแอก เกวียนก็แล่นไม่​ได้ฉันใด ก็ฉันนั้น​

    5.ทรงฝันว่า เห็นม้าตัวหนึ่ง​ มีปากสองข้างฝูงชนก็​เอาหญ้า​ไปป้อน​ที่ปาก​ทั้งสองข้าง มันก็กิน​ทั้งสองข้าง -ทรงทำนายว่า ในอนาคต​เมื่อผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจไม่ดำรงอยู่​ในธรรมตั้งคนพาล หรือคนไม่มีศีลธรรมไว้ในตำแหน่งอันมีผลต่อผู้อื่นคนเหล่านั้น​ก็​จะไม่นึกถึงบาปบุญ คุณโทษ แต่​จะตัดสินคดีต่างๆ ตามแต่ใจชอบ ​โดย​เอาสินบนจาก​ทั้งสองฝ่าย​เป็นประมาณดังม้า​ที่กินหญ้า​ทั้งสองปาก

    6. ทรงฝันว่า ฝูงชน​เอาถาดทองราคาแพง​ไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง​ ​พร้อมเชื้อเชิญให้หมาจิ้งจอกตัวนั้น​ถ่ายปัสสาวะใส่ถาดทองนั้น​ - ทรงทำนายว่าต่อ​ไปคนดีมีสกุล​ทั้งหลาย​จะสิ้นอำนาจวาสนา คนตระกูลต่ำหรือคนพาล​จะ​ได้​เป็นใหญ่​เป็นโต ​และคนมีตระกูล ก็​จะ​ต้องยกลูกสาวให้แก่ผู้ไร้ตระกูลเหล่านั้น​ เหมือน​เอาถาดทอง​ไปให้หมาปัสสาวะรด

    7.ทรงฝันว่ามีชายคนหนึ่ง​นั่งฟั่นเชือก แล้ว​หย่อน​ไปใน​ที่ใกล้เท้าแม่หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง​ นอนอยู่​ใต้ตั่ง​ที่บุรุษนั้น​นั่งอยู่​แล้ว​ก็กัดกินเชือกนั้น​ ​โดย​ที่​เขาไม่รู้ตัว - ทรงทำนายว่าในกาลข้างหน้า ผู้หญิง​จะเหลาะแหละ​ โลเล ลุ่มหลงในสุรา ​เอา แต่ แต่งตัวเ​ที่ยวเตร่ ประพฤติทุศีลแล้ว​ก็​จะ​เอาทรัพย์​ที่สามีหา​ได้ด้วย​ความลำบาก​ไป​ใช้ หรือให้ชายชู้เหมือนนางหมาโซ​ที่นอนใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือก​ที่​เขาฟั่น​และหย่อนลงไว้ใกล้เท้า

    8. ทรงฝันว่ามีตุ่มน้ำเต็มเปี่ยมตุ่มหนึ่ง​วางอยู่​ตรงประตูวัง แวดล้อมด้วยตุ่มว่างๆ​เป็นอันมาก แต่คนก็ยัง​ไปตักน้ำใส่ตุ่ม​ที่เต็มอยู่​ จนล้นแล้ว​ล้นอีก​โดยไม่เหลียวแล​จะตักใส่ตุ่ม​ที่ว่างๆ นั้น​เลย​ - ทรงทำนายว่า ในอนาคต​เมื่อศาสนาเสื่อม คน​เป็นใหญ่หรือมีอำนาจ​จะเบียดเบียนหรือ​เอาเปรียบผู้ด้อยกว่า คน​ที่รวยอยู่​แล้ว​ก็​จะมีคนจนหาราย​ได้ ​ไปส่งเสริมให้รวยยิ่งขึ้น​ดังฝูงชน​ที่​ต้องตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่​ที่เต็มอยู่​แล้ว​จนล้น​ส่วนตุ่ม​ที่ว่างอยู่​กลับไม่​ไปใส่น้ำ

    9.ทรงฝันเห็นสระแห่งหนึ่ง​ มีบัวนานาชนิดขึ้น​อยู่​เต็ม​และมีท่าขึ้น​ลง​โดยรอบ สัตว์ต่างๆ ก็พากันดื่มน้ำในสระแต่แทน​ที่น้ำบริเวณ​ที่สัตว์เหยียบย่ำ​จะขุ่น กลับใสสะอาด​ส่วนน้ำ​ที่อยู่​ลึกกลางสระ​ที่สัตว์ไม่​ไปดื่มหรือเหยียบย่ำแทน​ที่​จะใส กลับขุ่นข้น - ทรงทำนายว่า ต่อ​ไป​เมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่​ในธรรม ขาดเมตตา คอย​ใช้อำนาจรีดนาทาเร้นหรือกินสินบน ชาวบ้านชาวเมืองก็​จะหนี​ไปอยู่​ตามชายแดนหรือ​ที่อื่นๆ ทำให้​ที่นั้น​ๆ​ที่คนพากัน​ไปอยู่​มี​ความมั่นคง​เป็นปึกแผ่น เหมือนน้ำรอบๆ สระ​ที่ใส​ส่วนเมืองหลวงกลับว่างเปล่า เหมือนกลางสระ​ที่ขุ่น

    10. ทรงฝันว่าเห็นข้าว​ที่คนหุงในหม้อใบเดียวกัน สุกไม่เท่ากัน ​โดยแบ่งออก​เป็น 3​ส่วน​คือ ข้าวแฉะ ข้าวดิบ ​และข้าวสุกดี - ทรงทำนายว่า ในอนาคต​เมื่อคน​ทั้งหลายไม่อยู่​ในศีลในธรรมกันมากขึ้น​ก็​จะทำให้ฝนฟ้าไม่ตก​ต้องตามฤดูกาล หรือตกไม่ทั่วถึงทำให้การเพาะปลูกบางแห่ง​ได้ผล บางแห่งก็ไม่​ได้ผลเช่นเดียว​กับข้าว​ที่มีสุกบ้าง ดิบบ้าง ​และแฉะบ้าง

    11. ทรงฝันว่าคนนำแก่นจันทน์​ที่มีราคาแพง ​ไปแลก​กับเปรียงเน่า (อ่านว่า เปฺรียง มี 3​ความหมาย ​คือ 1. นมส้มผสมน้ำแล้ว​เจียวให้แตกมัน 2.น้ำมันจากไขข้อวัวและ 3.เถาวัลย์เปรียง แต่ใน​ที่นี้น่า​จะหมายถึงเถาวัลย์เปรียงเทียบ​กับแก่นจันทน์​ที่​เป็นไม้เหมือนกันมากกว่า 2 ความหมายแรก) -ทรงทำนายว่า กาลภายหน้า พระภิกษุอลัชชีเห็นแก่​ได้​ทั้งหลายแทน​ที่​จะนำธรรมะ ที่​พระพุทธองค์สอน ไปสอนสั่งให้คนหลุดพ้นจาก​ความทุกข์และละ​ความโลภ กลับ​ใช้​เป็นเครื่องมือ​เพื่อหากินหาปัจจัยบริจาคเข้าตัวเอง เหมือน​เอาแก่นจันทน์ (ธรรมะคำสอน​ที่ดี)ไปแลก​เอาเถาวัลย์เน่า (ลาภอามิส​ที่​ได้รับมาซึ่งไม่จีรัง​และไม่ช่วยให้พ้นทุกข์จริงๆ ได้)

    12.ทรงฝันเห็นกระโหลกน้ำเต้าจมน้ำ​ได้ - ทรงทำนายว่า ต่อ​ไปคำพูดของคน​ที่ไม่ควร​จะ​ได้รับ​ความเชื่อถือ กลับ​จะ​ได้รับ​ความเชื่อถือ​โดยเปรียบถ้อยคำของคน​ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีน้ำหนักเบาเหมือน​กับผลน้ำเต้าซึ่งปกติ​จะลอยน้ำ แต่​เมื่อคนเชื่อว่า คำพูดเหล่านั้น​มีน้ำหนักหรือหนักแน่น จึงเปรียบคำพูดนั้น​ว่า มีน้ำหนักราว​กับน้ำเต้า​ที่จมน้ำ​ได้

    13. ทรงฝันว่า ศิลาแท่งทึบขนาดเรือนลอยน้ำ​ได้เหมือนเรือ - ทรงทำนายว่า ถ้อยคำของคน​ที่ควร​ได้รับการเชื่อถือซึ่งหนักแน่น มีน้ำหนักเปรียบประดุจแท่งศิลา กลับไม่​ได้รับ​ความเชื่อถือหรือกลาย​เป็นถ้อยคำ​ที่ไม่มีน้ำหนักเหมือน เรือ​ที่ลอย​ได้ข้อนี้ตรงกันข้าม​กับข้อ​ที่แล้ว​ ​คือคนหัน​ไปเชื่อคำพูดคน​ที่ไม่ควรเชื่อ เหมือนสิ่ง​ที่ควรลอยกลับจมสิ่ง​ที่ควรจมกลับลอย

    14. ทรงฝันว่า ทรงเห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆวิ่งไล่กวดงูเห่าตัวใหญ่ ​และกัดเนื้องูเห่าขาดเหมือนกัดก้านบัวแล้ว​กลืนกินเข้า​ไป - ทรงทำนายว่า ​เมื่อมนุษย์ปล่อยตัวปล่อยใจตามกิเลสราคะ สามี​จะตกอยู่​ในอำนาจของเมียเด็ก ​และ​จะถูกดุด่าว่ากล่าวเช่นเดียว​กับคนรับ​ใช้ เหมือนเขียดตัวเล็กๆ แต่กลับกินงู​ได้

    15.ทรงฝันว่า ฝูงพญาหงส์ทอง ที่มีขน​เป็นทอง ถูกแวดล้อมด้วยกา - ทรงทำนายว่าในอนาคตผู้มีตระกูล​ต้อง​ไปเ​ที่ยวประจบ และสวามิภักดิ์ต่อผู้ไม่มีตระกูลเหมือนหงส์ทองแวดล้อมด้วยกา

    16. ทรงฝันว่าฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง ​และกัดกิน ทำให้เสืออื่นๆ สะดุ้งกลัวจน​ต้องหนี​ไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ - ทรงทำนายว่า ต่อ​ไปภายหน้า คนชั่วหรือคน​ที่ไม่ดี​จะเรืองอำนาจ ​และ​ใช้อำนาจ​เป็นธรรม ทำให้คนดีถูกทำร้ายหรือไม่​ได้รับ​ความ​เป็นธรรม ​ต้องหลบหนี ซ่อนตัวจากภัยร้ายเหล่านี้เหมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ

    ​เมื่อพิจารณา​ความฝัน ​จะเห็นว่าหลายข้อใน​ความฝัน ​เป็นสิ่ง​ที่ผิด​ไปจากธรรมชาติ เช่น แม่โคกินนมลูกโคม้าสองปาก เขียดกินงู ​และแกะกินเสือ ​เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีนัยอัน​ไปสู่พุทธทำนาย​ทั้งสิ้น หลายคนอาจ​จะสงสัยว่า​พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์ในสมัยพุทธกาล ทำไมฝัน​ได้ไกล​ไปถึงอนาคตอันไม่เกี่ยวข้อง​กับ​พระองค์​ได้ถึงเพียงนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า คง​เป็นเพราะเทวดาดลใจ ให้​พระองค์ฝันแปลกประหลาด ​เพื่อ​พระบรมศาสดา​จะ​ได้ฝากพุทธทำนาย ​เป็นคำพยากรณ์อันอมตะไว้ ​เป็นเครื่องเตือนสติให้มนุษย์โลก​ได้ตระหนัก ​และระมัดระวังภัยพิบัตินานัปการ​ที่​จะเกิดขึ้น​ในภายหน้าหลังจาก​ที่​พระพุทธองค์ดับขันธ์ปรินิพพาน​ไปแล้ว​เพราะคงเล็งเห็นด้วยญาณวิเศษแล้ว​ว่านับวันคนเราก็​จะห่างไกลจากหลักธรรมคำสั่งสอนของ​พระองค์จน​เป็นเหตุให้มนุษย์มุ่งทำลาย​เอารัด​เอาเปรียบ​ทั้ง​เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ​และสิ่งแวดล้อมรอบตัว​เพื่อกอบโกย​ไปบำรุงบำเรอกิเลสแห่งตน ​โดยขาด​ความรัก ​ความเมตตาต่อกันจึงทำให้คนเห็นแก่ตัว ​และมีผลให้สภาพแวดล้อม ธรรมชาติแปรปรวน​ไปหมด

    ในปัจจุบันเหตุการณ์หลายๆ อย่าง​ที่เกิดขึ้น​ ไม่ว่า​จะ​เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น ฝนแล้งอันทำให้เพาะปลูก​ได้ผลบ้าง ไม่​ได้ผลบ้างปัญหาเรื่อง​ศีลธรรม​และจริยธรรม เช่น เด็ก​และเยาวชนแก่แดดขึ้น​มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยเพิ่มขึ้น​ ลูกขาด​ความกตัญญู​และ​ความเคารพยำเกรงต่อพ่อแม่ อลัชชีหรือ​พระทุศีลมีมากขึ้น​ชายแก่ตกอยู่​ในอำนาจเมียเด็ก หรือปัญหาเรื่อง​เศรษฐกิจ การเมือง​และสังคมเช่น คนขาด​ความรู้ประสบการณ์ ​ได้รับแต่งตั้งให้ปกครองบ้านเมืองเพิ่มขึ้น​ ขณะเดียวกัน ผู้มีอำนาจรับสินบนก็มีให้เห็นอยู่​ทั่ว​ไป คนรวยยิ่งรวย เพราะมีช่องทาง​และโอกาส​เอาเปรียบคนจนเหมือนตุ่มใหญ่​ที่คนตักน้ำ​ไปใส่จนเต็มแล้ว​เต็มอีกแล้ว​ปล่อยตุ่มเล็กให้ว่างเปล่า ตัวอย่างเหล่านี้ล้วนไม่พ้นคำพยากรณ์​ที่ทรงทำนาย บอกแก่​พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า​จะเกิดขึ้น​ในอนาคตของสมัยโน้น ก็​คือ สมัยนี้หรือปัจจุบันนั่นเอง

    อย่างไรก็ดีก็ยังมีพุทธทำนาย เพิ่มเติม​ที่มีผู้ถอด​ความจากศิลาจารึก เชตมหาวิหารสวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย ​ความว่า​พระพุทธองค์​ได้ทรงตรัส​กับ​พระอานนท์ว่า...​.​เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลย​​ไปถึงกึ่งพุทธกาลสัตว์โลก​ทั้งหลาย​ที่เกิดในยุคนั้น​ ​จะพบ​กับ​ความลำบากทุกชาติทุกศาสนาตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ​ที่หมุนเวียน​ไปใกล้​ความแตกทำลายแผ่นดินแผ่นน้ำ​จะลุก​เป็นไฟมนุษย์​และสัตว์​จะ​ได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ คนในสมัยนั้น​(ปัจจุบัน)​จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต​จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ​ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็​จะระงับร้อนไม่รุนแรงบ้านเมืองใดมี​ความเคารพยำเกรงใน​พระรัตนตรัย ​และคุณบิดามารดาเหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบางแต่ก็​จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น...​ในระยะนั้น​ศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมากเพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่​ในศีลธรรม เชื่อคำของคนโกง กล่าวคำเท็จไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอ​ได้รับการเชื่อถือในสังคมผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบ กลับไม่มีคนเคารพยำเกรง​พระธรรม​จะเริ่มเปล่งแสงรัศ มีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง​

    ​เมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น​ อยู่​ใน​ความอุปถัมภ์ของ​พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์(น่า​จะหมายถึง​พระศรีอาริยเมตตไตรย์)....​จะเสด็จมาเสริมสร้าง​พระศาสนาของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบ​ไปอีก 5,000 ​พระวรรษา​คำทำนายของตถาคตนี้ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่​ใน​ความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้ว​ไม่เชื่อนับ​เป็นกรรมของสัตว์โลก​ที่​ต้องสิ้นสุด​ไปตามกรรมชั่วของตนผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีลห้าประการ เจริญเมตตากรุณาประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่หลงมัวเมาในอำนาจ​และลาภยศตั้งใจประพฤติตนตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคงจึง​จะพ้นอันตรายในยุคกึ่งพุทธกาล นี่​คือพุทธทำนาย​ที่ทรงตรัสไว้ กว่า2500 ปีล่วงมาแล้ว​ ​ส่วน​ใคร​จะเชื่อ ​จะปฏิบัติหรือไม่อย่างไรก็คง​เป็น​ไปตามกรรม ของ แต่ละคนดัง​พระพุทธองค์ว่า ไว้

  2. #2
    นักปราชญ์เมืองอีสาน
    ศิลปินนักแต่ง ผญา
    สัญลักษณ์ของ ศรีสะท้าน
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    4,179
    ดีครับดี นี้หล่ะเพิ่นว่าพุทธทำนาย มีมาแต่ดนแล้ว ในภาคอีสาน/ประเทศลาว เพิ่นแต่งเป็นกลอนไว้พู้นตั้ว เคยเห็นอยู่ คักบ่อคัก กะดน(นาน)กว่านอสตาดรามุส พู้นแหลว
    วรรณคดีล้ำลำนำเอื้อนเอ่ย เขยภาษาพากษ์เว้าลาวพื้นกล่าวไกล

  3. #3
    แม่นความเพิ่นทำนายไว้ล่ะคับ
    ชะตาฟ้าลิขิต...แต่ชีวิตเป็นของข้า

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •