*กฏแห่งกรรมฤๅสวรรค์ลำเอียง*
โบราณมีคำกล่าวว่า *"* *ผู้ที่มีโชคลาภวาสนาครบทั้ง ห้าจึงจะเรียกว่า
เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์" *แต่ทุกวันนี้จะหา
ใครที่มีครบถ้วนสมบูรณ์แบบได้บ้างไหม? คนที่อายุยืนแต่ขัดสนเงินทอง
ไม่พอกินพอใช้ ถึงแม้ อายุ ๑๐๐ ปี แต่ก็อยู่อย่างยากจนอัตคัต บุคคลประเภทนี้
จัดว่ามีบุญวาสนา *"**ฉางโซ่ว"* (อายุยืน) แต่ขาด* "** ฟู่กุ้ย" *(เงินทอง)
*บางคนเกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์มั่งคั่งร่ำรวย*
ความเป็นอยู่สุขสบาย แต่อยู่ได้ไม่ถึงบั้นปลายชีวิตต้องมาลาตาย ในวัยหนุ่มสาว
คนประเภทนี้จัดว่ามีบุญวาสนา *"** ฟู่กุ้ย"* (เงิน ทอง) แต่ขาด *"**ฉางโซ่ว"* (
อายุยืน)
*บางคนเกิดมาทรัพย์สินสมบัติพรั่งพร้อม *
ชีวิตยืนยาว จนชราวัย แต่ต้องอับเฉาเพราะสุขภาพย่ำแย่ชนิดที่ว่าสาม
วันดีสี่วันป่วยไม่หยุดหย่อน คนประเภทนี้จัดว่ามีบุญวาสนา *"** ฉางโซ่ว"*
(อายุยืน)
และ *"**ฟู่กุ้ย"* (เงินทอง) แต่ขาด *"** คังหนิง" (*สุขภาพแข็งแรง)
*บางคนร่ำรวยเงินทอง มีชื่อเสียง มีหน้ามีตา* *
*
อะไร ก็ดีไปหมดจริงแล้วน่าจะมีความสุข แต่ทำไมชีวิตกลับมีเรื่อง วุ่นๆ
มากมายให้ต้องเป็นทุกข์เป็นกังวล ชนิดที่ว่า *ความวัว
ไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก* ไม่เคยได้อยู่อย่างเป็นสุข เหมือนชาวบ้านเขา
บ้างก็อายุมากแล้วต้องเผชิญกับปัญหา ร้อยแปด สู้รบปรบมือแก่งแย่งกันไม่สิ้นสุด
คนประเภทนี้มี มาตรฐานสูง หรือเรียกว่าเป็นคนยึดติด ยึดติดมากใจก็เป็น ทุกข์มาก
ชีวิตยากพบความสงบ เพราะตกอยู่ในความมืดมน ไม่มีแสงธรรมสาดส่อง
จึงต้องประสบกับความทุกข์ตั้งแต่ แรกเกิดจนถึงวันตาย เรียกว่าไม่มีบุญวาสนา *"*
* ฮ่าวเต๋อ"* คือ ใจเป็นทุกข์เพราะขาด* "**ความสงบร่มเย็น"* นั่นเอง
*อย่างไรก็ดี*
บางคนถึงแม้ว่าจะจนแสนจน แต่ก็ไม่เคย น้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา
มีความพอใจในชีวิตที่เรียบง่าย
รู้จักประคับประคองชีวิตให้ดำเนินไปอย่างปกติและมีความสุข ตามอัตภาพ
เมื่อวาระสุดท้ายมาถึงก็จากโลกนี้ไปด้วยความ สงบ เช่นนี้เรียกว่าถึงจะขาด
*"**ฟู่กุ้ย"
* (มั่งมีศรีสุข) แต่ก็ยังมี บุญวาสนา* "**ซั่นจง"* คือตายด้วยอาการสงบสุข
*อีกประการ มีให้เห็นเป็นประจำทุกวันตามข่าวหรือในหน้าหนังสือพิมพ์*
เป็นโศกนาฏกรรมที่จบชีวิตคนด้วย อย่างน่าเศร้าสลด เช่น ผู้ประสบอุบัติเหตุรถชน
รถคว่ำ ถูก ยิง ถูกฆ่า ถูกวางเพลิง เผานั่งยาง ฯลฯ มีไม่น้อยในคน
เหล่านั้นที่จัดว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่การงานดี มีฐานะ
แต่วาระสุดท้ายต้องตายอย่างทุกข์เวทนา ผู้โชคร้าย
ที่เสียชีวิตในสภาพเช่นนี้ถือได้ว่าไม่มีบุญวาสนา *"** ซั่นจง"* นั่นเอง
*ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นตัวอย่างของชีวิตที่ยังไม่สมบูรณ์ทั้งสิ้น *
หากใครที่มีบุญวาสนาครบทั้ง ๕ ประการนั้น
ถือได้ว่าเป็นชีวิตที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ที่สุด เพราะบุญวาสนา
ทั้งห้าประการนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์พึงปรารถนามากที่สุดในชีวิต
แต่ทว่าจะทำอย่างไรเราถึงจะมีสิทธิ์เป็นผู้ครอบครองวาสนา ทั้งห้าประการนี้
คำตอบก็คือต้องบำเพ็ญปฏิบัติฯ เพราะการ บำเพ็ญคือการแสวงเหตุ
การปฏิบัติคือลงมือหว่านเมล็ดพันธุ์ ในพระสูตรกล่าวไว้ *"** หว่านพืชเช่นไร
ย่อมได้รับผลเช่นนั้น"* ด้วยเหตุนี้
เมื่อท่านได้เข้าใจเหตุที่มาของบุญวาสนาครบทั้งห้า ประการ
แล้วเริ่มต้นลงมือแก้ไขปรับปรุงชีวิตเสียใหม่ เมื่อ
เมล็ดพันธุ์คือเหตุที่ปลูกไว้ดีแล้วถึงเวลาสุกงอม หวังได้เลยว่า
ผลบุญวาสนาทั้งห้าประการนี้ย่อมตกผลมาถึงท่านในไม่ช้า
Bookmarks