การโทษกรรมให้เป็นคุณ (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)



การโทษกรรมที่มักจะโทษกันมาก
มีทั้งคุณและมีทั้งโทษ




ควรทำความเข้าใจให้ดี จะได้ไม่ทำการโทษกรรมให้เป็นโทษ แต่ถ้าการโทษกรรมให้เป็นคุณ พูดเช่นนี้อาจจะมีบางคนฟังแล้ว ไม่เข้าใจชัดนักว่าหมายความว่าอย่างไร จะอธิบายตามที่เข้าใจว่าถูก ไม่ผิด

คือมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง ต่างๆ กัน แม้อะไรที่เกิดขึ้นจะให้ความทุกข์แก่ชีวิต เมื่อรู้แล้วเห็นแล้ว ไม่ปรารถนาให้เกิดเช่นนั้น ไม่ปรารถนาให้เป็นไปเช่นนั้น แต่ก็ไม่อาจทำให้เป็นไปสมปรารถนาได้ ความทุกข์ หรือความเคราะห์ร้ายคงเกิดอยู่ ไม่หมดไป

ตามความรู้สึกนึกคิดของผู้เผชิญเคราะห์กรรมนั้น
ก็ย่อมยกให้เป็นเรื่องของกรรม
ที่มุ่งให้หมายถึงกรรมไม่ดีว่า กำลังเข้าครอบครองชีวิตของเขา

จึงเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนวุ่นวายต่างๆ นานาไม่รู้จบไม่รู้สิ้น
ตรงนี้ที่สำคัญ ที่จะเกิดโทษหรือเกิดคุณก็ตรงนี้
ตรงที่คิดโทษกรรมว่าเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนร้อยแปดประการ

คิดให้ดี คิดให้เป็นปัญญา
คิดให้เป็นคุณ ก็คือต้องคิดให้เด็ดขาดลงไปว่า
กรรมที่กำลังเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตเรา
ที่กำลังทำให้เดือดร้อนต่างๆ นานา
จะต้องไม่สามารถทำให้เราต้องตกอยู่ใต้อำนาจของกรรมโดยเด็ดขาด

กรรมจะทำให้เราเดือดร้อนไม่ได้
เราจะไม่ยอมให้กรรมบัญชาให้เราคิด
หรือให้เราพูด หรือให้เราทำ ไปตามอำนาจความกดดันบัญชาใช้ของกรรม
อันจะนำให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ชีวิตต่อไป

ที่สำคัญคือแม้กรรมจะเป็นเหตุให้ต้องเป็นทุกข์เดือดร้อนหนักหนาก็ตาม เราจะไม่ยอมแพ้ จะไม่ยอมเดือดร้อน จะรับกรรมที่เข้ามาสู่ชีวิตอย่างไม่ยอมเป็นทุกข์ เพราะความทุกข์ไม่ได้อยู่ที่อะไรอื่น ความทุกข์อยู่ที่ใจ ความทุกข์อยู่ที่ความคิด ถ้าเราไม่ยอมแพ้กรรม ไม่ยอมคิดให้เป็นทุกข์ เราก็จะไม่ทุกข์แน่นอน เพราะความทุกข์อยู่ที่ความคิด พระพุทธศาสนารับรองไว้เช่นนี้ จะไม่เป็นอื่น.

การโทษกรรมให้ถูกก็เป็นคุณ
คือรู้ว่ากำลังเผชิญปัญหาเดือดร้อนรุนแรงร้อยแปด
ก็รู้ทันกรรม คือรู้ว่ากรรมกำลังเข้ามาก่อความเดือดร้อนให้ชีวิตแล้ว
จะไม่แพ้กรรมโดยเด็ดขาด คือจะไม่ยอมให้กรรมสั่งให้คิดจนเป็นทุกข์เดือดร้อนไปตามบัญชาของกรรม ไม่ยอมคิดให้เป็นทุกข์เสียอย่าง


ต่อให้กรรมจะเข้ามาทำฤทธิ์ทำเดชกับเราเพียงไร ก็ไม่มีที่กรรมจะทำสำเร็จ กรรมจะทำให้เป็นทุกข์ไม่ได้ สำคัญที่เราต้องเก่งให้จริงในการสู้กับกรรม หัวเด็ดตีนขาดไม่ยอมแพ้กรรมคือจะไม่คิดให้เป็นทุกข์ ไม่คิดให้ทุกข์ใจก็จะไม่ทุกข์ ทุกข์ก็จะไม่เกิดแก่เราได้

จะเหนื่อยยากลำบากตรากตรำต้องทำงานหนักเพียงไร เพราะความยากจนนักหนาก็ตาม เมื่อรู้ทันว่ากรรมกำลังเข้ามาครอบครองชีวิตเราแล้ว เราจะต้องชนะกรรม จะต้องไม่ยอมให้กรรมชนะเรา

นั่นก็คือเหนื่อยยากลำบากกายก็ให้เหนื่อยให้ยากให้ลำบากไป ต้องไม่มีความทุกข์ใจในความเหนื่อยยากนั้น กรรมหรือจะชนะเราได้ ไม่มีทาง สำคัญที่สุดอยู่ที่ต้องระวังความคิดให้ดี อย่าคิดให้เป็นทุกข์อย่างยอมแพ้กรรม ต้องไม่คิดให้เป็นทุกข์กรรมจะชนะไม่ได้แน่นอน.


: แสงส่องใจ อาสาฬหบูชา กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก