.....อดีต....
......การถ่ายภาพมีทั้งความเหมือนและความต่างกับชีวิต
ทั้งสองสิ่งเหมือนกันตรงที่ เมื่อไรก็ตามที่วัตถุหนึ่งถูกบันทุกภาพไว้
แล้วก็ไม่มีวันที่มันจะหายไปไหนได้ แม้สีอาจซีด หรือความคมชัดอาจเลือน
แต่เค้าโครงของความเป็นวัตถุก็จะยังคงอยู่อย่างนั้น
เช่นเดียวกัน สิ่งหนึ่งเมื่อเริ่มต้นขึ้นกับชีวิตแล้ว
คุณไม่สามารถกำจัดจนมันสิ้นซากไปจากความทรงจำได้
จะจำได้มากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความประทับใจกับมันมากเพียงใด
แม้บางช่วงเวลาบางขณะ จะดูคล้ายกับว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างได้เสื่อมสลายจากระบบความทรงจำไปหมดแล้ว
แต่แท้ที่จริง มันเพียงแต่ซุกตัวอยู่ที่ใดสักที่ในใจ เพื่อรอเวลาที่จะปรากฏตัวขึ้น
หากประสบกับอะไรบางอย่างที่คล้าย ๆ กันนั้นอีกครั้ง
แต่ชีวิตมีเงื่อนไขมากกว่านั้น ช่วงเวลาที่บุคคลหรือเหตุการณ์หนึ่ง
ยังอยู่ในอายุขัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางอารมณ์ได้
จึงเป็นเวลาที่มีค่ามากพอ ที่ทำให้คุณค้องทุ่มเทเพื่อให้ทุกอย่างบังเกิดผลสูงสุด
จนว่าที่ เวลา จะลดทอนความสำคัญของมันลง
และผลักดันให้มันเดินลึกเข้าไปในจิตใจ
จนกลายเป็นอดีตส่วนบุคคลที่เรียกว่า ความทรงจำ

........ในโลกของความเป็นจริงนั้น มนุษย์หลายคนกลับทำตัวเป็นนักสะสมความขมขื่น
ที่ชอบนักในการกักเก็บด้านมืดของสิ่งที่เกิดขึ้นไว้ในความทรงจำ
คนพวกนี้มักรู้สึกดีเพียงเล็กน้อยกับสิ่งสวยงามที่ชีวิตประสบ
แต่เก่งนักเมื่อถึงคราวต้องปลุกเร้าความทรงจำอันชั่วร้ายให้ขยายใหญ่
เกินกว่าที่มันเป็นจริง ๆ
ที่จริงแล้วชีวิตไม่ได้วุ่นวายอย่างที่เคยคิดว่ามันเป็นสักนิด
และหน้าที่ของการเป็นมนุษย์ก็ง่ายแสนง่าย
เพียงเลือก ... ในวาระที่เลือกได้
และเปิดโอกาสให้โชคชะตาได้ทำหน้าที่ของมันบ้าง ................อดีตเรากลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เราสร้างอนาคตได้ เพียงแค่ขณะนี้คุณเริ่มหรือยัง ... อย่ากลัวที่จะยอมรับว่าเราไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมในทุกอย่าง
เพราะการหลงตัวเองจะเปรียบเสมือนเส้นผมบางๆที่บังตา
ไม่ให้คุณมองเห็นคนอื่นและสิ่งรอบข้าง... คุณว่าแม่นบ่ ... (จริงไม๊ ) ...


[radio]http://psaekim.googlepages.com/Simplyme-06-last.wma[/radio]