....ครั้งหนึ่ง มีเพื่อนรักคู่หนึ่งร่วมเดินทางกันไปในทะเลทรายที่แสนเวิ้งว้าง
ในระหว่างการเดินทางนั้นเอง ทั้งสองเกิดทะเลาะเบาะแว้งมีปากเสียงกันขึ้นมา
หนึ่งในนั้น ได้เผลอตบหน้าเพื่อนร่วมทางของเขาเข้า
เมื่อถูกตบ...แน่นอน ย่อมเจ็บ
เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจที่ถูกเพื่อนรักตบหน้า
คนที่ถูกตบเมื่อโดนเพื่อนรักของเขากระทำดังนั้น
จึงเขียนข้อความหนึ่งไว้บนผืนทรายว่า
" วันนี้...เพื่อนรักที่สุดของเราได้ตบหน้าเรา "
แม้ว่าจะทะเลาะกันจนกระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าว
ในที่สุดทั้งสองก็ยังคงร่วมเดินทางบนทะเลทรายที่แสนเวิ้งว้างนี้กันต่อไป
เมื่อเดินทางไปอีกสักระยะ เขาก็เห็นโอเอซิสแห่งหนึ่งเข้า
ทำให้ทั้งสองดีใจอย่างมากที่พบโอเอซิสแหล่งน้ำกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้างแห่งนี้
ด้วยอารมณ์ดีใจที่ได้พบกับโอเอซิสนี้เอง คนที่ถูกตบหน้า ได้วิ่งไปยังโอเอซิส
ที่อยู่เบื้องหน้า อย่างไม่ลืมหูลืมตา จึงทำให้เขาตกลงไปในบ่อทรายดูด...
โชคยังดีที่เพื่อนร่วมทางของเขา คว้าเขาไว้ได้ทัน
เขาจึงไม่ตกลงไปเสียชีวิตในบ่อทรายดูด
คนที่รอดชีวิตซึ่งเป็นคนเดียวกันกับคนที่ถูกตบหน้านี้
ก็ได้เขียนข้อความลงบนแผ่นหินว่า
" วันนี้...เพื่อนรักที่สุดของเราได้ช่วยชีวิตเราไว้ "
คนที่ช่วยชีวิตซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ตบหน้าก็นึกฉงน จึงถามเพื่อนของเขาว่า
" ขอถามหน่อยเถอะเพื่อน...ว่าทำไมเมื่อเราตบเธอ เธอถึงได้เขียนลงบนผืนทราย
แต่พอเราช่วยชีวิตเธอ เธอจึงเขียนลงบนแผ่นหิน? "
คนที่เขียนจึงตอบว่า...
" เมื่อเราถูกเพื่อนทำร้าย...เราเลือกที่จะเขียนลงบนผืนทราย
เพื่อให้สายลมเป็นลมแห่งการให้อภัย พัดข้อความแห่งความเจ็บปวด
เคียดแค้นเสียใจที่เกิดขึ้นให้เลือนหายไปตามกาลเวลา
แต่เมื่อเพื่อนช่วยเหลือเรา...เราเลือกที่จะเขียนลงแผ่นหิน
เฉกเช่นการจารึกคุณงามความดีไว้ในใจ สายลมไม่อาจพัดหายไปตามกาลเวลา "
จาก ฟอร์เวิร์ดเมล์ นิตยสาร กันเอง ปตท.สผ.
Bookmarks