ทำดีให้เด็กเห็น


ทำดีให้เด็กเห็น


เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าส่งมาจากจดหมายของผู้อ่านสังฆทานนิวส์ค่ะ

ครั้งหนึ่งในบ้านหลังหนึ่งมีสามี ภรรยา ลูกชายวัย 10 ขวบ และอาม่าแก่ ๆ คนหนึ่ง อาม่าแก่มากแล้วและไม่แข็งแรงมีอาการมือสั่นอยู่ตลอดเวลาทำให้ถือของลำบาก โดยเฉพาะเวลาที่อาม่าทานข้าวร่วมกับครอบครัว อาม่าจะถือขามข้าวได้ลำบากมากและจะทำข้าวหกลงบนโต๊ะตลอดเวลา ลูกสะใภ้อาม่ารำคาญกับเรื่องนี้มากจึงปรึกษากับสามีว่า เวลาอาม่าทานข้าวเขาจะทำข้าวหกเกลื่อนโต๊ะ นางทนไม่ได้เพราะมันทำให้รู้สึกกินข้าวไม่ลง สามีก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเขาไม่สามารถทำให้อาม่าหายมือสั่นได้ แม้ว่าจะเคยพาอาม่าไปหาหมอแล้วก็ตาม

อีกไม่กี่วันต่อมา ลูกสะใภ้ก็พูดกับสามมีเรื่องนี้อีกว่า จะไม่แก้ไขอะไรเลยหรอ นางทนไม่ได้แล้ว หลังจากโต้เถียงกันไปสักพักสามีก็ยอมตามภรรยา โดยเมื่อถึงเวลาทานข้าวเขาจะจัดให้แม่นั่งแยกโต๊ะต่างหากเพียงคนเดียวและให้ใช้ถ้วยข้าวถูก ๆ บิ่น ๆ เพราะอาม่าทำถ้วยแตกบ่อย ๆ เมื่อถึงเวลาทานข้าวทุกครั้งอาม่าจะเศร้าใจมากเพราะอาม่าก็ไม่มีปัญญาจะแก้ไขกับอาการมือสั่นของตัวเองได้ ทำให้นางนึกย้อนไปถึงอดีตที่นางเลี้ยงดูลูกชายด้วยความรักเสมอมา นางไม่เคยบ่นต่อความเหนื่อยยาก และเวลาที่ลูกชายเจ็บไข้นางก็ดูแลอย่างดี ลูกชายมีปัญหาอะไรก็ช่วยแก้ไขทุกครั้ง แต่ตอนนี้อาม่ารู้สึกว่าถูกทิ้ง อาม่าเสียใจมาก

หลายวันผ่านไปอาม่ายังเศร้าใจเรื่องนี้อยู่ รอยยิ้มเริ่มจางหายไปจากใบหน้าของอาม่า หลานชายตัวน้อย ๆ ของอาม่า ซึ่งเฝ้าดูทุกอย่างมาตลอดก็เข้ามาปลอบใจและบอกอาม่าว่า เขารู้ว่าอาม่าเสียใจมากที่พ่อแม่ของเขาทำแบบนี้ แต่หลานชาย ก็มีวิธีที่จะให้อาม่ากลับไปทานข้าวรวมกับทุกคนได้ อาม่ามองหน้าหลานชายแล้วความเริ่มเกิดขึ้นในหัวใจของหญิงชรา จึงเอ่ยถามหลานชายว่าจะทำอย่างไร หลานก็ตอบว่า เย็นนี้ให้อาม่าแกล้งทำชามข้าวของม่าตกแตกเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ อาม่าได้ฟังก็แปลกใจแต่เด็กน้อยยืนยันว่าให้อาม่าทำตามที่บอกแล้วที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ของหลานเอง

และแล้วเมื่อได้เวลาของอาหารเย็นในวันนั้น หญิงชราก็ตัดสินใจลองทำตามที่หลานชายตัวน้อยพูดเพื่อจะดูว่าหลานมีแผนอะไร หญิงชรายกถ้วยข้าวเก่าที่เต็มไปด้วยรอยบิ่นขึ้น แล้วแกล้งปล่อยลงบนพื้นเหมือนกับหลุดมือถ้วยข้าวเก่า ๆ แตกกระจายยับเยิน ลูกสะใภ้เห็นถ้วยแตกเสียหายก็ลุกขึ้นเตรียมจะด่าว่าอาม่า แต่ลูกชายตัวน้อยของนางกลับชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า “อาม่า ...! ทำไมทำชามแตกหมดเลยล่ะครับ นี่ผมกะว่าจะเก็บไว้ให้คุณแม่ใช้ตอนแก่นะเนี่ย แล้วคุณแม่ของผมจะเอาชามเก่า ๆ ที่ไหนใช้กันล่ะทีนี้ ...อาม่านี่ใช้ไม่ได้เลยนะครับ” เมื่อลูกสะใภ้ได้ยินลูกชายตนเองพูดเช่นนั้นก็หน้าซีดและด่าอาม่าไม่ออกอีกต่อไป นางรู้ทันทีว่า สิ่งที่นางทำจะเป็นตัวอย่างให้ลูกชายของนางปฏิบัติต่อนางเมื่อนางแก่ตัวลง นางรู้สึกอับอายและสำนึกกับการกระทำของตัวเอง ตั้งแต่นั้นมาทุกคนก็ทานข้าวรวมกันมาตลอด ไม่มีการแยกโต๊ะอีกต่อไป

เป็นไงค่ะ หลานชายตัวน้อยของอาม่าเก่งใช้ได้เลยนะนี่



ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ สังฆทานนิวส์ ประจำวันที่ 21 มีนาคม – 4 เมษายน 2551
วัดสังฆทาน อ.เมือง จ.นนทบุรี
http://www.SanghathanDhamma.com