คำถาม 1:ขอเรียนถามอาจารย์เกี่ยวกับคู่ที่แต่งงานแล้วแต่ไม่สามารถมีบุตรเกิดจากกรรมหรือไม่
และปัจจุบันคนส่วนมากได้ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเป็นการฝืนกฏแห่งกรรมหลักธรรมที่
พระพุทธเจ้าได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างไรขอบคุณค่ะ
คำตอบ: คุณเข้าใจถูกต้องแล้วครับ เป็นเรื่องของกรรม ในอรรถกถาธรรมบทบาลีภาคที่ 6 (ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พิมพ์พ.ศ.2528:1-5)
มีเรื่องเล่าว่าพระราชกุมารพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่าโพธิราช ทรงอยากมีโอรสธิดา แต่ทรงพยายามเท่าไหร่ก็ไม่มี
วันหนึ่งจึงนิมนต์พระพุทธเจ้ามาเข้าวัง แล้วปูผ้าขาวไว้ ทรงตั้งจิตอธิษฐานในพระทัยว่าถ้าพระพุทธเจ้าทรงเหยียบ
ก็แสดงว่าโอกาสที่จะมีโอรสธิดายังมี แต่ถ้าไม่ทรงเหยียบก็แปลว่าไม่มี
พระพุทธเจ้าเสด็จไปถึงก็ไม่ทรงเหยียบ แม้พระกุมารจะทรงคะยั้นคะยอยังไง
พระองค์ก็ไม่ทรงเข้าไปในพระตำหนักเพราะทรงทราบว่าพระราชกุมารพระองค์นี้ทรงมีพระดำริอย่างไร
ในที่สุด พระอานนท์เถระพุทธุปปัฏฐากจึงขอให้องค์ชายทรงม้วนผ้าเก็บเสีย เพราะพระพุทธเจ้าไม่ทรงเหยียบแน่นอน
พระพุทธเจ้าทรงเฉลยว่าที่พระกุมารกับภรรยาไม่มีบุตรเลย เพราะในอดีตชาติเคยล่องสมุทรแล้วเรือแตกกลางทะเล
แล้วสองสามีภรรยาไปอาศัยอยู่บนเกาะ ระหว่างอาศัยอยู่ก็เอาไข่นกมาปิ้งกินกันหิว
พอไข่นอกไม่พอก็จับนกมาฆ่ากินด้วย คือพากันประมาททั้งคู่ ด้วยผลกรรมนั้น ทำให้กลายเป็นหมัน ไม่มีลูกสืบสกุล
พระพุทธเจ้าจึงสรุปให้ฟังว่าการมีลูกก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของปุถุชน
ถ้ารักตัวเอง อยากให้ตัวเองมีสุขก็จงอย่าทำกรรมชั่ว การทำชั่ว เท่ากับไม่รักตัวเอง (อตฺตานญฺจ ปิยํ ชญฺญา ฯลฯ)
คนทั่วไปไม่มีลูกก็อยากมีลูกเป็นธรรมดา แต่การจับไข่นกหรือฆ่าสัตว์กินเป็นอาหารมาเป็นระยะเวลยาวนานนั้นก็เป็นกรรมหนัก
เพราะไปตัดรอนชีวิตคนอื่นเขา ในเมื่อเป็นกรรมหนักก็ยากจะมีลูกได้ ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็แล้วแต่ ยังไรก็ดี
จะได้หรือไม่ได้ขึ้นกับกำลังกรรมที่เคยทำด้วย กรณีโพธิราชกุมารนั้น ทั้งสามีและภรรยาประมาทและประมาทกันทั้งประถมวัย,
มัชฌิมวัยและปัจฉิมวัย โอกาสมีบุตรจึงไม่มี
ผมไม่ทราบว่า คนที่ไม่มีบุตรหลานสืบสกุลและพยายามจะมีนั้น เคยทำกรรมอะไรไว้ และทำไว้หนักขนาดไหน
ถ้าเขาพยายามทุกวิถีทางแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็แปลว่ากรรมที่เคยทำเป็นครุกรรมครับ แปลว่ากรรมเก่าของเขาควบคุมมิให้เขามีบุตรสืบสกุลครับ
คัดลอกบางส่วนจาก
http://www.bodhinanda.com/webboard.php?id=20&wpid=0007
Bookmarks