สัพเพ สัตตา
เสียงร้องขอ ชีวิต จิตหวาดหวั่น เสียงห้ำหั่น เข่นฆ่า น่าสยอง
เสียงซวบซาบ คมดาบเชือด เลือดไหลนอง เสียงหวีดร้อง สะท้อนจิต สะกิดใจ
เสียงสัพเพ สัตตา พาให้คิด ว่าชีวิต นี้มีค่า กว่าสิ่งไหน
อเวรา อย่ามีเวร อย่าเป็นภัย ชีวิตใคร ใครก็หวง อย่าล่วงเกิน
ท่องสัพเพ สัตตา มาแต่ไหน ยังเข้าใจ ในเนื้อแท้ แค่ผิวเผิน
ยังฆ่าบ้าง กินบ้าง อย่างเพลิดเพลิน ยังใช้เงิน ซื้อชีวิต อนิจจัง
สัตว์เกิดกาย มาใช้กรรม ที่ทำไว้ เป็นเป็ดไก่ กุ้งปู เป็นหมูหมา
ตามต้นเหตุ ผลกรรม ที่ทำมา มิใช่ฟ้า ประทานไว้ ให้คนกิน
มีปัญญา แต่ไฉน จึงไม่คิด มองชีวิต แต่กลับเห็น เป็นทรัพย์สิน
เสียงกรีดร้อง ก่อนตาย ใครได้ยิน น้ำตาริน เมื่อถูกเชือด เลือดกระเซ็น
พูดว่าเขา เกิดมา เป็นอาหาร เขาลนลาน หนีตาย มีใครเห็น
เขาจนใจ พูดไม่ได้ เถียงไม่เป็น ช่างเลือดเย็น เข่นฆ่า ไม่ปราณี
มีพืชผัก มากมาย นับไ่ม่หมด ทุกกลิ่นรส สดใส หลากหลายสี
ธรรมชาติ จัดวาง ไว้อย่างดี สัตว์วิ่งหนี พืชเต็มใจ ให้กินมัน
เพราะเรากิน เขาจึงฆ่า เอามาขาย เราสบาย แต่สัตว์โลก ต้องโศกศัลย์
ท่องสัพเพ สัตตา มาทุกวัน เมตตากัน โปรดอย่าฆ่า และอย่ากิน
เนื้อสัตว์ กับ เนื้อคน
นั่งเพ่งพิศ ซากศพ บนโต๊ะข้าว โอ้หนอเรา ช่างอนาถ อดอยากเหลือ
ชีวิตเขา สังขารเขา ไม่จุนเจือ อร่อยเหลือ ซากศพสัตว์ นานาพรรณ
ไม่ต่างกับ เดรัจฉาน เช่นนกแร้ง ที่ยื้อแย่ง อสุภะ ในไพรสันต์
ไม่ต่างกับ เสือสิงห์ คร่าชีวัน ที่ไล่ล่า สัตว์อ่อนแอ มากลืนกิน
ถ้าเช่นนี้ หากฉุดคร่า มวลมนุษย์ ถึงที่สุด บุตรญาติ ทั้งชายหญิง
นำมาทุบ ผ่าเชือด เฉือนชีวิน แล้วแล่ ทอดปิ้งผัด ให้สวยงาม
จัดขึ้นโต๊ะ เครื่องเคียง เรียงประดับ ให้พร้อมพักตร์ รูปพรรณ หลากหลายสี
เราก็ควร กินได้ ไม่อัปปรีย์ เพราะสดสี เยี่ยงเนื้อสัตว์ คล้ายคล้ายกัน
ท่านลองกรีด เนื้อตน สักนิดเถิด หากไม่เกิด เจ็บปวด กลับกระสันต์
ท่านก็จง กินเข้า ให้เร็วพลัน สัตว์เหล่านั้น คงสนุก ดังท่านเป็น
ท่านลอง เอาฆ้อนทุบ ถลกหนัง เสียโดยพลัน อย่าแชเชือน รีบรู้เห็น
หากท่านนั้น ยังเป็นสุข อยู่ร่มเย็น ท่านก็เป็น ซากศพ ไร้อารมณ์
สรรพสัตว์ มีวิญญาณ มีชีวิต มิรู้ผิด รู้ชอบ รู้เหมาะสม
แต่มนุษย์ ใจประเสริฐ ทุกผู้คน กลับทำตน มิรู้ชอบ มิรู้ควร
มิว่าสัตว์ ประเสริฐ หรือเดรัจฉาน ล้วนต้องการ รักษาชีิพ ด้วยแหนหวง
เรากินเขา เขากินเรา คิดชั่งตวง ก็เหมาะควร ยุติธรรม ที่ควรเป็น
เสียงโหยหวน ทรมาน เพราะเจ็บปวด ในงานบวช งานแต่ง ที่เคยเห็น
ทั้งงานศพ ใดใด มิเคยเว้น ให้งานเป็น ลานประหาร คร่าชีวัน
สาธุชน ผู้มุ่งหวัง มหาสุข ใฝ่วิมุติ ล่วงกรรม พ้นโศกศัลย์
แม้นบำเพ็ญ ปฎิบัติ ทุกคืนวัน ภาวนา ถึงแสนพัน จบธารณี
หากปากหนึ่ง พร่ำสวด พุทธสูตร แต่ปากหนึ่ง ยังเหม็นสูบ เลือดเนื้อ เหมือนภูติผี
ยังเสพ เนื้อหนัง เครื่องใน เห็นว่าดี หมื่นธารณี พุทธมนต์ ก็ป่วยการ
บำเพ็ญ กิจการใด ให้ชะงัก เพราะหน่วงหนัก ผลกรรม ที่ประหาร
แ้ม้นตอนนี้ รุ่งเรือง กายกล้าแข็ง มีเรี่ยวแรง วังชา อย่างที่เห็น
พอกรรมถึง บุญหมด ทุกลำเค็ญ ส่อให้เห็น พยาบาท ของนายเวร
แค่คนเรา ถูกเอาเปรียบ หรือมองหน้า ก็แทบบ้า โกรธคลั่ง สยดสยอง
แล้วเหล่าสัตว์ ถูกฆ่า เลือดเจิ่งนอง ย่อมหมายปอง แก้แค้น ทุกชาติไป
สาธุชน ผู้เมตตา มีความคิด ตรึกสักนิด ตรองสักหน่อย ด้วยเหตุผล
หากสัตว์นั้น เป็นอาหาร ของผู้คน เหตุไฉน ลนลานหนี สุดกำลัง
โปรดหันมา กินอาหาร เว้นเลือดเนื้อ เพื่อกอบเกื้อ วาสนา ให้สุขสันต์
ขมากรรม อโหสิ ให้แก่กัน พ้นโศกศัลย์ โรคร้าย ภัยนานา
สารอาหาร จากพืชผัก และถั่วเหลือง มีเหลือเฟือ มากหลาย ให้เลือกหา
ไร้สารพิษ สารเร่งเนื้อ เจือปนมา ล้วนแต่ เป็นสารบ้า ก่อมะเร็ง
อย่าเพียงแต่ อร่อยลิ้น สนุกปาก กรรมวิบาก สนองผล ให้รู้เห็น
อันใครฆ่า ใครกิน อย่างเลือดเย็น สื่อให้เห็น ความไร้ มนุษยธรรม
พระพุทธะ มหาเทพ โพธิสัตว์ ทรงการุญ ส่ำสัตว์ อยู่เสมอ
ทรงประพฤติ เป็นแบบอย่าง ยากได้เจอ ทรงสอนสั่ง มวลมนุษย์ ประพฤติตาม
จงเลิกกิน เลิกกิน เลือดเนื้อเขา จงคิดเอา คิดเอา ถึงเขาบ้าง
หากเป็นเรา เป็นเรา จะครวญคราง ถูกประหาร ฉุดคร่า จากวงศ์วาน
การละเว้น เลือดเนื้อ ศีลข้อหนึ่ง แสดงถึง กรรมมหันต์ หากประหาร
ด้วยซื้อกิน เขาจึงฆ่า รับประทาน ทั้งผู้ฆ่า ผู้กิน บาปเท่ากัน
หากงดเนื้อ หนึ่งมื้อ กินพืชผัก หมื่นชีพ พักรอดตาย เป็นสุขสานต์
หากหนึ่งมื้อ กินสัตว์ มิต้องนาน หมื่นชีพผลาญ มุ่งสู่ มฤตยู
กุศลหนัก บุญญาสูง หากละเนื้อ เป็นสิ่งเืกื้อ เป็นพื้นฐาน ปวงกุศล
เรียกว่า จิตเมตตา สมเป็นคน มิใช่ เยี่ยงสัตว์ป่า ที่กินกัน
หากผู้ใด ฟังแล้ว สะกิดจิต ให้พินิจ เห็นตาม จะเกิดผล
รีบประพฤติ เพียรตาม อย่าเล่ห์กล ย่อมหลุดพ้น บ่วงเวร ถึงนิพพาน
Bookmarks