เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ
เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ
เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

ในขณะที่คนปกติ มีอวัยวะครบ 32 กำลังท้อแท้สิ้นหวังกับชีวิต
แต่ในมุมเล็กๆ ของอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร
กลับมีอีกชีวิตหนึ่งที่แม้ว่าร่างกายไม่สมประกอบ แต่หัวใจของ
' บุญหลาย '
พ่อค้าเร่แห่งบ้านหนองเลิงคำ กลับไม่เคยย่อท้อในความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง
ตรงกันข้ามเขากลับมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ และเป็น ' เสี่ย ' ที่หลายๆ คนรักใคร่


เด็กชายบุญหลายเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความยากจนข้นแค้นของครอบครัว
นางทองฉัน บุญแสง หญิงชาวนา วัย 54 ปี บอกเล่าเรื่องราวของ บุญหลาย หรือ โชติ
ลูกชายคนสุดท้องให้ฟังว่า เมื่อ 25 ปีก่อน หลังให้กำเนิดลูกคนนี้มาเพียงเจ็ดวัน
เขาก็เกิดอาการชัก ตัวเกร็ง ซีดเหลือง กัดฟันแน่น พาไปหาหมอทั้งทางการแพทย์
และไสยศาสตร์ ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นโรคอะไร จนกระทั่งเขาอายุได้ 12 ปี
ก็เกิดอาการชักขึ้นอีก ตอนนั้นโรงพยาบาลประจำอำเภอเพิ่งสร้าง เราเลยพาไปหา
หมอก็บอกว่าอาการที่เกิดกับเขาคือ
' โรคพิการทางสมอง '

เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

นอกจากเรื่องอาการชักที่ติดตัวมาแต่กำเนิด บุญหลาย ยังมีพัฒนาการ
และการเคลื่อนไหวทางร่างกายที่ช้ากว่าเด็กคนอื่น สองขาที่เล็กลีบ
รวมทั้งสมองที่สั่งการช้ากว่าปกติ ทำให้เขาเดินเหิน และสื่อสารกับคนทั่วไปได้ไม่สะดวกนัก
และทันทีที่ บุญหลาย เดินได้ในวัยแปดขวบ...
ทองฉัน ตัดสินใจนำลูกชายเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนในหมู่บ้าน
ทว่า...เมื่อเวลาผ่านไปเพียงเจ็ดวัน ครูใหญ่ของโรงเรียนก็มาหาที่บ้าน
บอกว่าไม่สามารถให้บุญหลายร่วมชั้นเรียนได้ เพราะเขาไม่ยอมหยุดเดินในขณะเรียน
ครูว่าก็ไม่ยอมนั่ง ทำให้เพื่อนๆ ในห้องไม่ได้เรียน
และหลังลูกชายสิ้นสุดชีวิตการเป็นนักเรียนแค่เพียงเจ็ดวัน
ชาวนาการศึกษา ป. 4 อย่างทองฉันก็หันมาสอนหนังสือขั้นพื้นฐานให้ลูกเอง
เท่าที่ความรู้ความสามารถจะเอื้ออำนวย โดยใช้เวลาตอนกลางคืนหลังกลับจากทำนา


' เขาเขียนหนังสือไม่ได้ ถึงตอนนี้ก็ยังเขียนไม่ได้
ถ้าลองให้เขียนชื่อตัวเองนี่ คือเต็มหน้ากระดาษเลยนะ เพราะมือเขาแข็งเกร็ง
ไม่ใช่แค่เรื่องการเขียนนะ แต่เรื่องการสะกดคำหรืออะไรที่เกี่ยวกับตัวอักษรนี่
หัวเขาจะไม่รับแล้วก็ไม่สนใจเลย '
นางทองฉัน กล่าว

เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ
เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความไม่สมบูรณ์...
กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่บุญหลายพอจะเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็ว
และสิ่งนั้นก็กลายเป็นพื้นฐานที่ทำให้เขาหาเลี้ยงชีพ
และยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างทระนงองอาจ
ทั้งๆ ที่ชีวิตอาจไม่ได้โสภาสง่างามมากนัก


ปัจจุบัน ' บุญหลาย ' ในวัยเบญจเพส มีกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง
ด้วยการรับซื้อพืชผักต่างๆ เช่น พริก กระเทียม มะนาว หัวหอม ฯลฯ มาตระเวนขาย
เขาเรียนรู้วิชาทำอยู่ทำกินจากบุพการี สมัยเมื่ออายุได้ 14 ปี
และยึดเป็นอาชีพนับแต่นั้นมา โดยก่อนหน้านี้บุญหลายช่วยพ่อแม่ขายผักได้สองสามปี
ก็เริ่มหันมารับซื้อของเก่าจำพวกลวดทองแดง เศษเหล็กตามหมู่บ้าน
โดยช่วงแรกนั้นเด็กชายยืมเงินพี่มาลงทุน ครั้นทำได้ไม่กี่ปีหนี้สินดังกล่าวก็หมดไป
กระทั่งเริ่มมีเงินก้อนแรกเป็นของตัวเอง


' แรกๆ เขาไปขายเอาเปอร์เซ็นต์ก่อน เจ้าของคอยเก็บตังค์อย่างเดียว
เสร็จแล้วก็จะแบ่งกำไรให้บุญหลาย ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอก
มารู้อีกทีตอนที่เถ้าแก่เขาเอาเงินมาให้ เขาเอาเงินมาให้ทีเดียว 20,000 บาท
แล้วบอกเงินของบุญหลาย เราเห็นก็งง ไม่กล้ารับเงิน เถ้าแก่เขาก็เลยอธิบายให้ฟัง
เลยรู้ว่าเป็นของเขาจริง เถ้าแก่พวกนี้รักบุญหลายกันทุกคน
พวกเขาบอกว่าบุญหลายเป็นคนซื่อสัตย์ ขยันทำงาน แล้วก็ไม่เคยโกงเงินแม้แต่บาทเดียว
หลังจากทำไปได้ราวสี่ปีคนอื่นๆ หันมาทำกันมากขึ้น บุญหลายจึงเบนเข็มหันมาขายผักในตลาดแทน '

ทองฉัน บอกเล่าเรื่องราวของลูกชายด้วยรอยยิ้ม

เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ
เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

ทุกๆ วัน บุญหลายจะตื่นนอนก่อนไก่ขันตั้งแต่ตีสาม...
ออกไปคนเดียวท่ามกลางความมืด ค่อยๆ ใช้สองขาลีบเล็กผิดรูป
ปั่นจักรยานไม่มีเบรกด้วยความรวดเร็ว ขณะที่แขนข้างหนึ่งยกขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลโซมกายเป็นระยะ
สายตาจ้องมองพื้นถนนมากกว่าเส้นทางเบื้องหน้า เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร
เพื่อเลือกซื้อของจากพ่อค้าขายส่งในตลาด แล้วนำไปขายปลีกตามหมู่บ้านต่างๆ
ซึ่งแม้สินค้าของบุญหลายอาจไม่ได้ขายดีแบบเทน้ำเทท่า
แต่ก็ไม่มีสักครั้งทีจะมีของเหลือติดตัวกลับมาบ้าน
หากเขาไม่ได้ตั้งใจนำกลับมาให้ญาติพี่น้อง


' มอ สระอี นอ กระเทียม มอ สระอี นอ บักนาว (มะนาว) มาแล้ว หะ... หะ... ห้าหน่วยสิบบาท เร็วว... '
พ่อค้าหนุ่มลูกอีสานผู้อยู่ในทรงผมแบบบรูซ ลี กำลังป่าวประกาศเสียงดังถึงสินค้าที่อยู่ท้ายจักรยาน
ซึ่งนอกจากจะสะกดคำผิดแล้ว...
ดูเหมือนคำว่ามะนาวกับกระเทียมของเขาจะเขียนเหมือนกันอีกต่างหาก


เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

สาเหตุที่สินค้าของบุญหลายขายดีจนหมดเกลี้ยงทุกวัน
ไม่ได้เป็นเพราะความเห็นอกเห็นใจของผู้ซื้อ แต่ยุทธวิธีการขายแบบไม่เอากำไรมาก
เน้นขายได้เยอะๆ คือ ขายถูกกว่าราคาตลาดเกือบทั่วตัว ลูกค้าส่วนใหญ่จึงหันมาซื้อของของเขา
เพราะมันถูกกว่า พูดง่ายๆ ว่า กินน้อยๆ แต่กินนานๆ กินได้ตลอด


' กำไรนิดๆ หน่อยๆ ก็พอแล้วไม่ต้องเอาม่า... ม่า... มากหรอก
บางคนสนิทกัน ผมก็ถุ... แถมให้เขาบ้าง ขายแบบนี้ คนเขาก็ซื้อเราเยอะ
ไม่ต้องใช้เวลานา... นา... นานก็หมด '


นอกจากวิธีถูกเข้าว่า บุญหลายยังใช้วิธีการสับเปลี่ยนสินค้าไปตามราคาของตลาด
เขาจะสำรวจราคาของอยู่ตลอดเวลาว่าช่วงไหนผักหรือผลไม้แต่ละชนิดมีราคาเท่าใด
เพื่อที่จะนำสินค้าราคาถูกมาขายในช่วงนั้น ซึ่งวิธีการนี้ทำให้เขาไม่ต้องประสบภาวะ
ข้าวยากหมากแพงดังเช่นพ่อค้าคนอื่นๆ เพราะไม่ว่าราคาข้าวของจะขึ้นลงยังไง
ยอดขายและกำไรของเขาก็ยังคงอยู่เท่าเดิม


เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ
เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ
เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

สำหรับที่ไปที่มาของฉายา ' เสี่ย ' ที่ชาวเลิงนกทามอบหลายๆ คนเรียกนั้น
วิเชียร เนาวนิตย์ พ่อค้าขายส่งผักเล่าว่า ผมว่าคนสมองดีๆ อย่างเราๆ นี่ยังทำงาน
ยังขยันสู้เขาไม่ได้เลยนะ ของเรานี่ยังเหลือ ของเขาขายหมดทุกวัน...
คนที่นี่บางคนเห็นเขาขยันทำงานขายของหมด มีเงินมีทอง ทั้งๆ ที่ร่างกายไม่ดี
ก็เลยแซวแล้วก็เรียกเขาติดปากว่า ' เสี่ยบุญหลาย ' แล้วที่เป็นเสี่ยอีกอย่าง คือ
ความที่บุญหลายชอบเลี้ยงคนอื่น ใครแถว บขส. (บริษัท ขนส่ง จำกัด)
อยากกินอะไรเขาก็เลี้ยงหรือเวลามีเทศกาล งานประจำปี
เขาก็มักจะซื้อลูกอมเป็นถุงไปหว่านแจกที่หน้าเวทีเลย
ทั้งเด็กๆ และคนแถวนั้นก็จะแย่งกันเก็บ

นอกจากน้ำใจที่แผ่เผื่อไปถึงเพื่อนมนุษย์นอกบ้านแล้ว
พ่อค้าหนุ่มรู้ดีว่าการดูแลคนอื่นจะไม่มีประโยชน์
หากคนที่บ้านไม่เคยได้รับสิ่งดีๆ จากเขา โดยทองฉันเล่าถึงวัตรปฏิบัติของลูกชายว่า
ทุกวันเขาจะซื้อกับข้าวมาให้เรา บางทีก็ซื้อขนมติดไม้ติดมือมาให้หลานๆ
ยิ่งถ้าช่วงต้นเดือนเขาจะซื้อของกินของใช้มาเป็นลังเผื่อเอาไว้เลย
แล้วเขาไม่ได้ซื้อให้แต่พ่อกับแม่นะ พี่และญาติคนอื่นๆ เขาก็ซื้อให้ด้วย


เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ
เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา บุญหลายมีท่ารถบขส. เป็นบ้านหลังที่สอง
มันเปรียบได้กับอาณาจักรส่วนตัวและโลกอีกใบหนึ่งของเขา
แทบทุกวัน หลังบ่ายโมง หากใครต้องการพบบุญหลาย
เป็นอันรู้กันว่าให้ไปหาตัวได้ที่ท่ารถ บขส. ที่นี่ชายหนุ่มจะทำตัวตามสบาย ยิ้มแย้ม แจ่มใส
ซึ่งหากว่างจากการโบกรถให้ผู้โดยสาร
เขาก็จะไล่แซวหยอกล้อกับพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง
นอกจากจะมาโบกรถและไล่แซวแม่ค้าจนกลายเป็นความบันเทิงของชีวิต
บุญหลายยังมาที่นี่เพื่อจะนั่งรถโดยสารออกไปดูโลกกว้าง
บ่อยครั้งที่เขามักขอติดรถไปเที่ยวยังจังหวัดอื่นๆ เพราะบุญหลายเป็นหนุ่มชอบเที่ยว
เขาออกเดินทางมาแล้วหลายจังหวัด ซึ่งเวลาเดินทางแต่ละครั้ง
เขาจะพกเงินไปเองครั้งละ 1,000-1,500 บาท ซึ่งเป็นเงินของเขาเองติดตัวไปด้วย


' เขาบอกว่าเขาคงจะดีใจมากถ้าแม่ได้ไปเที่ยวกับเขา เพราะเขาอยากให้แม่ได้เห็นเหมือนที่เขาเห็น '
ทองฉันเล่าถึงความฝันลึกๆ ของลูกชายที่มีต่อตนเอง

ท่ามกลางลมหายใจและเวลาชีวิตที่น้อยลงทุกวัน
มนุษย์ที่มีศักยภาพอันสมบูรณ์บางจำพวกกลับไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้นมาใช้ชีวิต
อย่างที่ตัวเองต้องการ แต่สำหรับ ' บุญหลาย ' หนุ่มลูกอีสานคนนี้
เลือกที่จะออกไปใช้ชีวิตตามแรงปรารถนาของหัวใจ...
แม้ชีวิตอาจจะไม่ได้มีแต้มต่อใดๆ เลยก็ตาม


ข้อมูลจากและภาพประกอบจาก
นิตยสาร ฅ ฅน ปีที่ 3 ฉบับที่ 9 (33) เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551