หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 12

หัวข้อ: ถึงคนที่แต่งงานแล้ว และยังไม่ได้แต่งงาน

  1. #1
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ โชติ
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    ที่อยู่
    bbk
    กระทู้
    700

    ถึงคนที่แต่งงานแล้ว และยังไม่ได้แต่งงาน

    fwd mail ดีดี ที่อยากให้เพื่อนได้อ่าน

    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วกินใจมาก
    ลองอ่านและซึมซาบความรู้สึกอย่างช้า ๆ

    "เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากชั้นไป....
    เธอควรเป็นคนที่จูงมือชั้นออกไป "

    ในวันแต่งงานของผม ผมจูงมือภรรยาของผมในอ้อมแขน
    รถแต่งงานจอดหน้าที่พักของเรา
    เพื่อนเจ้าบ่าวบอกผมว่า ผมควรจะอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน
    ดังนั้นผมจึงทำตาม
    เธอเขินอายในอ้อมแขนผม

    ผมช่างเป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุขที่สุดในโลก...
    นี่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วสิบปี... ในวันถัดๆ มาทุกอย่างก็เหมือนเดิม

    เรามีลูกด้วยกัน...ผมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว...
    เมื่อเราเริ่มมีฐานะที่ดีขึ้น...
    ความห่างของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน...
    ทุกๆเช้าเราออกจากบ้านไปด้วยกันแล้วก็ถึงบ้านเวลาเดียวกัน
    ลูกเราเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน
    ดูเหมือนความรักของเราช่างน่าอิจฉายิ่งนัก...

    แต่แล้ว
    ความสงบสุขก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมิได้คาดหมาย....

    เจนเข้ามาในชีวิตของผม .... ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน...
    เจนเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง..
    หัวใจผมเต้นแรงด้วยความรัก...

    ที่นี่...เป็นอพาร์เมนท์ที่ผมซื้อให้เธอ...
    เธอบอกว่า คุณเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคน ถวิลหา...

    คำพูดของเธอทำให้ผมนึกถึงภรรยาผม...
    ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ ๆ ..เธอบอกว่า
    วันที่คุณประสบความสำเร็จ
    ผู้ชายอย่างคุณจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา...

    ผมเริ่มรู้สึกลังเล...
    ผมรู้ว่าผมกำลังทรยศภรรยาผม...
    แต่ผมก็ได้ทำลงไปแล้ว....
    ผมปลีกตัวออกจากเจน "
    วันนี้คุณไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เองแล้วกันน๊ะ
    ผมต้องเข้าออฟฟิศ " ...
    แน่นอน... เธอไม่ค่อยพอใจนัก เพราะผมสัญญากับเธอว่าเราจะไปด้วยกัน...

    ในตอนนั้น...ความรู้สึกถึงการหย่าร้างเริ่มวิ่งเข้ามาในความคิดผม....
    ทั้งที่จริงๆแล้วผมไม่เคยมีความคิดนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
    แต่ผมก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกกับภรรยาของผม....
    ไม่ว่าผมจะพูดกับเธอดีสักเพียงใด...
    เธอจะต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน...
    จริง ๆ แล้วเธอเป็นภรรยาที่ดีมาก... ทุก ๆ
    เย็นเธอจะวุ่นวายกับการทำอาหาร..ในขณะที่ผมนั่งอยู่หน้าทีวี ทานอาหารเสร็จเราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน...
    หรือ... ถ้าผมจะเลือกเป็น...นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์....
    มองเรือนร่างอันงดงามของเจน...
    ช่างเป็นอะไรที่น่าฝันถึงเสียจริง

    วันนึงผมพูดทีเล่นทีจริงกับภรรยาของผมว่าจะเธอจะทำยังงัยถ้าเราหย่ากัน...
    เธอจ้องมองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...และเธอก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร..
    เธอมั่นใจว่าการหย่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวเธอมาก...
    ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าหากเธอรู้ว่าเรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง... เธอจะเป็นอย่างไร

    วันนึงภรรยาผมมาที่ออฟฟิศ...สวนทางกับเจนที่เพิ่งจะออกไปพอดี...
    พนักงานทุกคนทำหน้าตาเลิกลัก... เหมือนกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่างจากเธอ....
    เธอเหมือนจะรับรู้มันได้... แต่เธอก็ยิ้มน้อย ๆกับพนักงานทุกคน....
    แต่ผมก็สังเกตุเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเธอภายใต้รอยยิ้มนั้น

    ในที่สุด...เจนก็บอกกับผมว่า...หย่ากับเธอน๊ะ..แล้วเราอยู่ด้วยกัน..ผมพยักหน้า....

    ผมจะลังเลอีกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว....ผมตัดสินใจบอกภรรยาผมในอาหารค่ำ..
    ผมมีอะไรจะบอกคุณ... เธอนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ...
    ผมสังเกตุเห็นแววตาอันเจ็บปวดของเธอ...มันทำให้ผมพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดไม่ออก..
    แต่ท้ายที่สุดผมก็พูดออกไป...

    ผมต้องการหย่า...

    เธอดูไม่ตกใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเลย...
    ผมย้ำกับเธออีกครั้ง...เธอเขวี้ยงตะเกียบในมือทิ้ง...
    แล้วตะโกนใส่หน้าผมว่า..คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...เราไม่ได้คุยกันอีกเลยคืนนั้น...

    เธอร้องไห้อย่างหนัก...

    ผมรู้ว่าเธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงานของเรา...
    แต่ผมเองไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้...เป็นเพราะใจผมได้ให้เจนไปหมดแล้วงั้นเหรอ...
    ผมคงไม่สามารถบอกเธออย่างนั้นได้..มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก...

    ผมร่างสัญญาการหย่าร้างขึ้น...ระบุว่า..เธอเป็นเจ้าของบ้าน...
    ทุกๆ อย่างในบ้าน ทั้งรถ... หุ้นบริษัท 30% ผมยกให้เธอหมด....

    เธอเหลือบมองกระดาษที่ผมร่างขึ้นแล้วฉีกมันทิ้ง...
    มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น...
    ผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยมาเป็นระยะเวลาสิบปีกลายเป็นคนแปลกหน้ากันภายในหนึ่งวัน...
    ผมไม่สามารถคืนคำที่ผมพูดไปได้...

    เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด...
    สำหรับผมแล้ว...การร้องไห้ของเธอเหมือนเป็นการปลดปล่ยยความสับสนของตัวผมเอง...

    หลังจากที่ผมกลุ้มใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม..ในที่สุด...มันก็เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริงๆ เสียที

    คืนนั้น...ผมกลับถึงบ้านค่อนข้างดึก...
    เห็นเธอเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ..ผมหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพลีย...
    ผมตื่นขึ้นมาอีกทีแล้วพบว่า...

    เธอเขียนเงื่อนไขการหย่าร้างว่าเธอไม่ต้องการสิ่งใดจากผม...
    แต่เธอต้องการให้ผมให้เวลาเธอหนึ่งเดือนเพื่อตั้งตัวสำหรับการหย่า...
    และในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ...
    ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอต้องการให้ลูกจบการศึกษาซึ่งกำลังจะมาถึงเสียก่อน..
    เธอไม่อยากให้ลูกต้องเห็นความล้มเหลวในการแต่งงานของพ่อแม่ก่อนเวลานั้นจะมาถึง...

    รัชต์..คุณจำได้มั๊ย...วันที่เราแต่งงานกัน...คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดในวันที่เราเข้าเรือนหอ..
    ผมพยักหน้า..นั่นเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของชั้น...

    ชั้นมีเรื่องขอร้อง...
    ชั้นอยากให้คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดจากห้องนอนไปถึงด้านล่างทุกวันนับจากวันนี้ไปจนถึงวันที่เราต้องแยกจากกัน
    ผมยอมรับด้วยความเต็มใจ...ผมรู้ดีว่า เธอคิดถึงวันดีๆ เหล่านั้น...
    และเธอต้องการให้ชีวิตการแต่งงานเธอจบลงด้วยความทรงจำที่ดี

    ผมบอกเจนถึงเงื่อนไขที่ภรรยาผมตั้งขึ้นในการหย่าร้าง...
    เธอหัวเราะถึงความไร้สาระของเงือนไข....
    ภรรยาผมบอกกับผมว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...เธอจะต้องยอมรับผลของการหย่าร้างให้ได้...

    คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง....

    เราไม่ได้ถูกต้องตัวกันเลยนับแต่วันที่ผมขอเธอหย่า...ความจริงเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันด้วยซ้ำไป...

    พอถึงวันที่ผมประคองเธอลงจากห้องวันแรก...มันจึงทำให้ผมทำตัวไม่ถูก...
    ลูกชายเราตบมือแล้วพูดด้วยความดีใจว่า

    ว้าว...วันนี้พ่ออุ้มแม่ลงจากห้องด้วย....มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น......
    เธอบอกว่าอย่าบอกลูกเราถึงเรื่องของเรา...ผมพยักหน้า...ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม...
    ผมขับรถไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์..แล้วเลยไปออฟฟิศ

    วันถัดมา...ความรู้สึกขัดเขินเริ่มน้อยลงไป...เธอซบบนอกผม...
    เราใกล้ชิดกันมากจนผมได้กลิ่นน้ำหอมของเธอ...
    ผมถึงได้ตระหนักว่า....เธอไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว...เธอเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้ามากขึ้น

    ในวันที่สาม...เธอกระซิบบอกผมว่าสวนกำลังรื้ออยู่ให้เดินระวังด้วย...

    ในวันที่สี่...มันช่างเหมือนกับว่าเราเป็นคู่รักที่หวานชื่นมาก...ภาพของเจนเริ่มเลือนลางไป...

    วันที่ห้าและหก..เธอคอยเตือนผมในเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่นเธอวางเตารีดไว้ที่ไหน..
    ผมควรจะระวังอะไรบ้างตอนทำอาหาร...และอื่นๆ อีกมากมาย...
    ความสนิทสนมของเราเพิ่มมากขึ้นทุกที...ผมไม่ได้บอกเจนถึงเรื่องนี้เลย...
    ผมรู้สึกว่าผมอุ้มเธอง่ายขึ้นทุกวันโดยไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอเลย...

    หรือบางทีคงเป็นเพราะผมแข็งแรงขึ้น...แต่แล้วผมก็พบว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด...
    เป็นเพราะว่าเธอผอมลงจนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าเดิมได้..นั่นต่างหากที่ทำให้ผมอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น
    ผมรู้ดีว่าเธอพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้...
    ลูกของเราร้องขึ้นว่า พ่อได้เวลาอุ้มแม่แล้วน๊ะ...
    สำหรับลูกแล้ว...การได้เห็นพ่ออุ้มแม่เป็นภาพที่เขามีความสุขที่สุด....
    เธอเอื้อมมือไปกอดลูกไว้แน่น...ผมทนมองภาพนั้นไม่ได้จริง ๆ
    ผมกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย

    และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง....ผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด...เท้าผมแทบจะก้าวไม่ออก......เธอบอกกับผมว่า...

    ความจริงแล้ว...ชั้นอยากให้คุณอุ้มชั้นไปจนเราแก่เถ้า...ผมกอดเธอแน่น...และผมก็ตระหนักว่า..
    ชีวิตคู่ของเราขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน...ผมขึ้นรถทันทีเพื่อจะไปยังจุดหมายใหม่..
    ผมลังเลเล็กน้อย..

    แต่ในที่สุดแล้ว..ผมก็มาพบเจนจนได้....เธอเปิดประตูออก...ผมบอกเธอว่า
    เจน..ผมขอโทษ...ผมจะไม่หย่า....เธอมองหน้าผม แตะหน้าผากผม.. คุณสบายดีหรือเปล่า
    เจน...ผมขอโทษ...ผมขอโทษจริง ๆ...ผมจะไม่หย่ากับภรรยาผม...
    ชีวิตการแต่งงานของเราน่าเบื่อมันเป็นเพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อย...
    ผมขาดการเอาใจใส่ในตัวเธอ....มันไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน....
    ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว....ว่าตั้งแต่วันที่ผมอุ้มเธอเข้าบ้าน...เธอมีลูกให้ผม...ผมควรจะประคองเธอไปจนแก่...
    เจนตบหน้าผมอย่างแรงและกระแทกประตูใส่ผม....

    ระหว่างทางกลับบ้านผมแวะร้านดอกไม้....
    พนักงานขายดอกไม้ถามว่าจะเขียนว่าอะไร....ผมให้เธอเขียนว่า...ผมจะอุ้มคุณทุกเช้าจนกว่าเราจะแก่

  2. #2
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ sompoi
    วันที่สมัคร
    Mar 2007
    ที่อยู่
    japan
    กระทู้
    5,708
    บล็อก
    23
    ถึงจะลงซํากับบอร์ดเรื่องสั้น(ม้างคะ? ถ้าจำไม่ผิด) แต่ก็ยังอยากอ่านมันอยู่ดีค่ะ..

  3. #3
    เป็นความรักที่ประทับใจ...มันช่างเข้ากับชีวิตคู่ของเด็กน้อยในตอนนี้แท้น้อ...แทนที่อยู่กันมานานจะเข้าใจกันอย่างดีแต่กลับยิ่งห่างเหินไปทุกที...แค่เรื่องความสุขของอีกคนกะไม่สามารถยอมรับได้...ช่างน่าสงสารจังเลย ชีวิตคู่ของฉานนนนนนนนน

  4. #4
    คนเมืองแป๊ะ
    Guest

    ดูวีดีโอ YouTube ออนไลน์

    คนเฮาเวลาเบื่อกันหลายๆให้คิอฮอด ช่วงชีวิตที่ดีๆๆสิ่งที่ดีไของกันและกันไว้ บางสิงบางอย่างผ่านไปแล้วมันเอาคืนบ่ได้ ได๋ครับ จังในเรื่องให้คืนดีกัน กะความรู้สึกบ่คือเก่าดอก จงเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ ในโลกนี้บ่อมีอีหยังดีที่สุดดอกครับ แต่ว่าอีหยังตางหากที่เหมาะสมกับชีวิตเฮาซั่นตั๋วขะน้อยยยยย

  5. #5
    อ่านกี่ครั้งก็ได้แง่คิดที่ดี
    เสียดายความดีที่มีให้
    เสียดายหัวใจและเวลา
    เสียดายที่ที่โดนหลอกตลอดมา
    เสียดายคุณค่าความจริงใจ

  6. #6
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ lukhin_inter
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    ที่อยู่
    อิสานใต้ ประเทศไทย
    กระทู้
    1,860
    อ่าน กี่ ครั้ง ก็ได้แง่คิดที่ดีตลอด
    ที่สำคัญ เรา ต้องลดน้ำหนักให้ได้
    เราต้องไม่อ้วน แม่น บ่ จ๊ะ ::) ::)

    ขอบคุณ จ้า จริง ๆ กะเคยอ่านนะ
    แต่ อ่านกี่ครั้ง ก็ประทับใจ
    ปัญหา ทุกอย่าง ย่อมมีทางออกเน๊าะ
    ออก บ่ ได้ กะออกตรงทางเข้าเน๊าะ ...
    ขอบคุณ จ้า
    อุปสรรคเป็นได้ทั้งบันไดให้ก้าวขึ้นไป...หรือ
    เป็นภูผาที่ขวางกั้น...ขึ้นอยู่กับว่าจะมองมุมไหน

  7. #7
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ โชติ
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    ที่อยู่
    bbk
    กระทู้
    700
    ขอโทษนะคับที่ลงซ้ำสำหรับท่านที่เคยอ่านแล้ว
    สำหรับผมแล้วครั้งแรกที่ผมอ่านจบลง ผมรู้สึกน้ำตาคลอแบบไม่รู้ตัว สิ่งที่ผมบอกตัวเองคือว่าทำไมผมไม่เคยอ่านมันก่อนหน้านี้ สิ่งที่ผมคิดคืออยากให้ทุกคนที่กำลังมีความรัก หรือกำลังจะหมดรัก ได้ให้โอกาสตัวเอง ให้โอกาสคนที่เรารัก และรักเรา
    ...การที่จะเลิกกับใครสักคนนั้นแสนง่าย แต่การที่จะเริ่มต้นใหม่นั้นมันยากเนาะ
    ...เวลาที่ผ่านพ้นไปจะมีใครสักกี่คนที่มีโอกาสแก้ตัว ขอให้ทุกท่านสมหวังในความรักคับ

  8. #8
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ฝนหลวง
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    1,235
    :g:g:g:g:g:g

    แม่นอีหลีคับมื่อแลงสิอุ้มแม่น้องเดียร์เบิ่งกอนน้า::)

  9. #9
    Super Moderator สัญลักษณ์ของ หมูน้อย
    วันที่สมัคร
    Jul 2007
    ที่อยู่
    เหนือสุดในสยาม
    กระทู้
    1,977
    บล็อก
    17
    อืม..เป็นข้อความที่ดีนะค่ะ
    แต่ว่า..อ่านไปอ่านมาตกใจเล็กน้อย..
    เจนเข้ามาในชีวิตของผม .... ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน...
    เจนเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง..
    หัวใจผมเต้นแรงด้วยความรัก...


    ...ตกใจหม่องนิละจ้า..เฮาเจน(สาวโรงงานคือยังบ่ทันมีแฟน..คือยังบ่ทันได้มีผุบ่าวละ)
    คือเป็นข่าวน้อบาดนิ.....ตกใจเบิดเลย
    ..ความแน่นอนคือความบ่แน่นอน..ความรักเปลี่ยนเสมอก่อไผ๋
    มีลมพัดผ่านมาก็ย้อมเอนไหวเป็นธรรมดา

    ...ผู้หญิงในบทความ..เป็นคนที่ฉลาดนะ..ฉลาดคิดที่จะ
    ที่จะหาทางออกอย่างฉลาดให้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
    จากที่อ่านแล้วเธอไม่ใช้อารมณ์..หรือความโกรธในการตัดสินปัญหาเลย
    เธอกับพิกวิกฤตให้เป็นโอกาส..เยี่ยม..จริงๆๆเลย 8)8)8)
    "รัก" และ "กำลังใจ" ฉันมีไว้เพื่อแบ่งปัน

  10. #10
    ส.มักม่วน
    Guest
    [COLOR="Magenta"]ซึ้งดีนะ มักอ่านอยู่จ้า อ่านจักรอบกะซึ้งคือเก่าล่ะจ้า[/COLOR]

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •