กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: งา . . . จิ๋วแต่แจ๋ว

  1. #1
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
    วันที่สมัคร
    Dec 2007
    กระทู้
    169

    ดูวีดีโอ YouTube ออนไลน์ งา . . . จิ๋วแต่แจ๋ว

    งา . . . จิ๋วแต่แจ๋ว
    ผู้คนในแถบเอเชียรู้จักใช้ประโยชน์จากธัญพืชเมล็ดเล็กๆ อย่างงามานานตั้งแต่โบราณกาล ชาวไอยคุปต์ใช้เมล็ดงาป่นแทนแป้งธัญพืช ชาวจีนก็รู้จักงามากว่า 5,000 ปี โดยนำเมล็ดงาไปเผาเพื่อใช้ทำแท่งหมีกจีนที่คุณภาพดี ส่วนชาวโรมันผสมเมล็ดงาบดกับขนมปังเป็นอาหารแสนอร่อย ไทยเราเองก็มีขนมที่ทำจากงาหลายอย่าง เช่น ขนมงาตัด ชาวอินเดียนิยมใช้น้ำมันงาทาหน้าท้องเมื่อปวดประจำเดือน ส่วนชาวธิเบตใช้หยดจมูกข้างละ 1 หยดเพื่อช่วยให้นอนหลับและลดความกระวนกระวาย

    เห็นไหมว่าถึงจะเม็ดเล็กแต่สรรพคุณไม่ได้จิ๋วตามขนาด ในเมล็ดเล็กๆ นี้อัดแน่นไปด้วยสารอาหารต่างๆ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือน้ำมัน มีอยู่ประมาณ 44-62% เป็นไขมันที่มีคุณภาพดี เพราะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง และไม่เกิดการเหม็นหืนง่าย เนื่องจากมีสารกันหืนตามธรรมชาติ และยังช่วยลดคอเรตเตอรอลในเลือดได้ด้วย
    ในเมล็ดงาอุดมไปด้วยวิตามินบีทุกชนิด ยกเว้นวิตามินบี 12 จึงช่วยในการบำรุงสมอง ประสาท และป้องกันโรคเหน็บชา ส่วนเกลือแร่จะมีมากถึง 4.1-6.5% ที่สำคัญก็คือ พวกธาตุเหล็ก ไอโอตีน สังกะสี แคลเซียม และฟอสฟอรัส ดังนั้นงาจึงเป็นแหล่งของสารอาหารที่สำคัญ ที่ช่วยบรรเทาโรคบางชนิดได้ เช่น โรคเหน็บชา โรคปวดตามข้อกระดูก เป็นต้น



    ส่วนโปรตีนก็มีอยู่ไม่น้อยกว่า 20% เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง มีกรดอะมิโนที่จำเป็นอยู่ครบทุกชนิด โดยเฉพาะเมธิโอนิน ซึ่งมีมากกว่าที่พบในถั่วเหลือง ใครที่รับประทานมังสวิรัติ หรืออาหารเจ ก็ควรบริโภคเมล็ดงาร่วมกับเมล็ดถั่วด้วย จึงจะได้รับสารอะมิโนที่จำเป็นอย่างเพียงพอ




    หากใครที่มีอาการที่เกิดจากระบบประสาท เช่น นอนไม่หลับ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เป็นเหน็บชา ปวดเมื่อยตามตัว แขน ขา เบื่ออาหาร ท้องผูก หรือเมื่อยล้าสายตา ลองหันมารับประทานเงาเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหล่านี้ได้


    ประโยชน์จากงา

    - เพิ่มความชุ่มชิ้นและบำรุงผิวพรรณ และต้านอนุมูลอิสระ โดยใช้น้ำมันงาทาผิวเพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดและลม ทำให้ผิวนุ่ม และช่วยรักษาแผลเล็กน้อยได้ ใช้ทาผิวหน้าจะทำให้ผิวตึงขึ้น เมื่อทาบริเวณจมูกจะช่วยกระชับรูขุมขน ป้องกันริ้วรอยบนผิวหน้า ทำให้ดูอ่อนเยาว์
    - บำรุงและเคลือบเส้นผม ป้องกันการแก่ตัวและยืดอายุเซลล์ผิวหนัง กระตุ้นการงอกของเส้นผม และเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตรอบๆ รูขุมขน บนหนังศีรษะ
    - มีสรรพคุณด้านแบคทีเรีย รา และไวรัส สามารถแก้การอักเสบ สำหรับสตรีสามารถใช้น้ำมันงาผสมน้ำ ชำระจุดสงวนจะช่วยป้องกันโรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดอาการคัน
    - มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเมื่อซึมซับลงไปใต้ผิวหนังแล้วจะทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น น้ำมันงาช่วยควรคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ให้เป็นปกติ จึงมีสรรพคุณต้านการเกิดมะเร็งด้วย
    - ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดบางชนิด มีผลการวิจัยว่า สามารถทำให้หลอดเลือดแดงดีขึ้น ลดการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด โดยน้ำมันงาจะช่วยจับสารพิษในกระแสเลือด และนำไปสู่การขจัดออกจากร่างกายต่อไป
    “งามีแคลเซียมมากกว่าพืชผักชนิดอื่นถึง 40 เท่า และมีฟอสฟอรัสมากกว่าพืชผักอื่นๆ 20 เท่า ซึ่งธาตุทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นแร่ธาตุที่สำคัญมากๆ ในการเสริมสร้างกระดูก”


    Tips

    ใช้น้ำมันงาดิบนวดตัว เพื่อขจัดอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเข่า เคล็ดขัดยอก ทำให้กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวย่น ดูอ่อนเยาว์ เนื่องจากน้ำมันงาดิบสามารถซึมผ่านผิวได้ทุกชั้น



    สำหรับผู้ที่เป็นไซนัส ใช้มันงาดิบหยอดจมูก 1-2 หยด จะได้ผลดี
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health plus

  2. #2
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    ขอบคุณสำหรับข้อมูล ดี มีสาระครับผม 8)

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •