กว่าจะสารภาพก็สายเสียแล้ว



มีเด็กน้อยคนหนึ่ง เป็นลูกคนเดียวของแม่ พ่อตายแต่ยังเล็ก แม่ก็เลี้ยงดูมาจนเป็นหนุ่ม หนุ่มน้อยคนนี้ชอบทำอะไรเอาแต่ใจตนเอง ชอบทุบตีแม่เวลาแม่ไปส่งข้าวให้ไม่ทันก็จะดุด่าทุบตี เขามีหน้าที่ต้อนแพะไปเลี้ยง ถึงเวลาเที่ยงวัน แม่ก็เอาข้าวไปส่งทุกวัน ถ้าไปช้าลูกก็จะดุด่าทุบตี

วันหนึ่ง หนุ่มน้อยคนนี้กำลังเลี้ยงแพะอยู่เห็นแม่แพะให้ลูกกินนมอย่างทะนุถนอม ทั้งเลียขนให้ด้วย เขาฉุกคิดขึ้นมาว่า "นี่ขนาดสัตว์ยังรักลูกขนาดนี้ แล้วแม่เราละ แม่เราเป็นคนคงจะรักลูกมากกว่าสัตว์เป็นไหน ๆ " คิดได้ก็ร้องไห้ อยากไปขอโทษแม่ ก็พอดีใกล้เวลาอาหารเที่ยง แม่ก็เดินมาส่งอาหาร หนุ่มน้อยเห็นก็รีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อกล่าวคำขอโทษ แม่เห็นลูกวิ่งมาก็ตกใจกลัวลูกจะทุบตีเป็นบาปแก่ลูก ก็เลยวิ่งหนี ลูกเห็นแม่วิ่งหนีก็วิ่งตาม พอดีแม่ไปเจอบ่อน้ำก็คิดว่า เราโดดน้ำตายดีกว่าจะตายด้วยน้ำมือลูก เดี๋ยวลูกจะเป็นบาป จึงบอกว่า "แม่เอากับข้าววางไว้นี้นะ กินซะ" เสร็จแล้วก็กระโดดลงบ่น้ำตาย ลูกมาถึงก็ได้แต่ร้องให้เสียใจ บ่นกับตัวเองว่า "สายเสียแล้ว"

จาก จุลสารอนุศาสน์ กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก ฉบับที่ 3 ปีที่ 11 ประจำเดือน กรกฎาคม 2251