-
เตือนเส้นก๋วยเตี๋ยว ยิ่งนุ่ม เหนียว ยิ่งอันตราย
เตือนเส้นก๋วยเตี๋ยว ยิ่งนุ่ม เหนียว อยู่ได้นาน ยิ่งอันตราย โดยเฉพาะเส้นใหญ่อันตรายที่สุด แฉโรงงานผลิตกว่าร้อยละ 50 ไม่ได้มาตรฐาน ชี้กระบวนการผลิตมีวัตถุกันเสียปนเปื้อนอื้อ แถมใช้น้ำมันเก่าผสมน้ำมันพืชมีสารก่อมะเร็ง สารส้มก่อให้เกิดโรคประสาท ไตอักเสบ ระบบกระดูกและโรคมะเร็ง
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่อาคารเอสเอ็ม ทาวเวอร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) แถลงข่าว แกะซอง มองเส้น มหันตภัยร้ายแฝงเร้นในก๋วยเตี๋ยว โดยมี ผศ.ดร.บัณฑิต อินณวงศ์ ผู้ประสานงานชุดโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ฝ่ายอุตสาหกรรม กล่าวว่า
ได้ออกสำรวจโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเส้นก๋วยเตี๋ยว ตั้งแต่ปี 2549-2551 พบว่า โรงงานส่วนใหญ่มีปัญหาตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิต การจัดการ ตัวผลิตภัณฑ์ การขนส่ง ตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าที่ผลิตเมนูก๋วยเตี๋ยว เกี่ยวกับการผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างถูกวิธี
รวมไปถึงผู้บริโภค ที่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคก๋วยเตี๋ยวอย่างถูกต้อง เพราะคนซื้อไม่ได้มีความรู้ในการเลือกซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ถูกสุขลักษณะ อีกทั้งคนกินก็ไม่เคยทราบว่า เส้นก๋วยเตี๋ยวที่กินเข้าไปนั้น ผลิตอย่างไร จึงทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการรับประทานเส้นก๋วยเตี๋ยวโดยไม่รู้ตัว
ผศ.ดร.บัณฑิตกล่าวอีกว่า จากการสำรวจโรงงาน 10 แห่ง ปี 2551 พบว่า โรงงานทั้ง 10 แห่ง เกิน 50% ใช้สารที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าปลอดภัยต่อร่างกายหรือไม่
เนื่องจากทุกโรงงาน ต่างใช้น้ำมันหัวเชื้อ ที่ยังไม่มีผลวิจัยสรุปได้ว่าน้ำมันหัวเชื้อ ซึ่งเมื่อผสมกับน้ำ มีลักษณะคล้ายน้ำนมนั้น มีสารเคมีชนิดใดผสมอยู่บ้าง เพราะ 80% จากการตรวจสอบยังไม่พบสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่ 20% ที่เหลือยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีอันตรายหรือไม่
ทั้งนี้ การผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวยังเติมสารวัตถุกันเสียหลายชนิด เพื่อให้เส้นก๋วยเตี๋ยว เหนียว นุ่ม อยู่ได้นานตามความต้องการของผู้บริโภค หรือพ่อค้า แม่ค้า แต่ในความเป็นจริงเส้นก๋วยเตี๋ยวหากไม่ใส่วัตถุกันเสีย
โดยเฉพาะเส้นใหญ่ที่มีสารวัตถุกันเสียมากปนเปื้อนมากกว่าเส้นเล็ก เส้นบะหมี่ หรือเส้นหมี่ เพราะเป็นเส้นที่เสียเร็วที่สุด เก็บไว้ได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น ดังนั้น เส้นก๋วยเตี๋ยวที่โรงงานผลิตเพื่อจัดจำหน่ายอยู่ในขณะนี้เก็บได้ถึง 7 วัน แสดงว่าใช้วัตถุกันเสียเยอะมาก
ส่วนวัตถุกันเสียที่ใช้มาก ได้แก่ สารส้ม หรือแอมโอเนียม อะลูมินัม ซัลเฟต ที่พบมาก และปริมาณที่ใช้เกินกว่าที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานน้ำดื่มบรรจุขวดไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ในเส้นก๋วยเตี๋ยวมีปริมาณอะลูมินัม อยู่ 620 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
หมายความว่า หากรับประทานก๋วยเตี๋ยว 1 ชามต่อวัน มีเส้นก๋วยเตี๋ยวในชามประมาณ 100 กรัม แสดงว่าได้รับอะลูมินัม ประมาณ 64 มิลลิกรัมต่อ 1 ชาม หากรับประทานตลอดทั้งวัน คือ 3 มื้อจะได้รับอะลูมินัม 184 มิลลิกรัม
และหากรับประทานก๋วยเตี๋ยวสัปดาห์ละ 7 มื้อ ก็จะได้รับ 22.32 กรัมต่อปี ซึ่งจากงานวิจัยในต่างประเทศ หากคนเราได้รับอะลูมินัมต่ำกว่า 5 มิลลิกรัมต่อวันจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพ แต่เมื่อร่างกายได้รับตั้งแต่ 50-200 ไมโครกรัมต่อลิตร
จะทำให้เกิดผลต่อระบบการทำงานของระบบประสาท การทำงานของไต และกรวยไตต้องทำงานหนักมากกว่าปกติก่อให้เกิดการอักเสบ และมีผลต่อระบบกระดูก รวมทั้งเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
อันตราย จากเส้นก๋วยเตี๋ยวนั้นมีสูงมาก โดยเฉพาะเส้นก๋วยเตี๋ยวสด อย่างเส้นใหญ่ ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่มีการเติมวัตถุกันเสียหลายชนิด เช่น กรดเบนโซอิค ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ฯลฯ เพื่อยับยั้งเชื่อรา และจุลินทรีย์ ไม่ให้เจริญเติบโต
ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐานกำหนดไว้ คือ 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่จากการตรวจพบวัตถุกันเสียในเส้นก๋วยเตี๋ยวเกินกว่าเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนด ทั้งสิ้น ผศ.ดร.บัณฑิตกล่าว
Tags for this Thread
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks