ต่อจากตอนที่แล้ว
ดินสีอรุณ
นิทานธรรมบท สำนวนอีสาน
ตอนที่ ๘
เข้านครรับบัญชา
ออนซอนเด้ ออนซอนดินออนซอนหญ้า ออนซอนนาขี่กระต่าย
ฝนตกลงยามได๋ น้ำพัดหนีจากจ้อย
นาน้อยแห่งไง่ผง
ออนซอนฟ้าฮ้องโป้ง ก้ำฝ่ายทางอุดร
ยโสธรสารคามคือสิเทลงพื้น
ไผผู้บืนก้มหน้าสู่ แสนอดสูได้เพียรพ่ำ
ฝนบ่ฮำดำนาหล้า ทั้งตากล้าหล่าเหลือง
มองไปเห็นภาคเบื้อง นภากาศผั่นหงอยเหงา
ใจบ่เบาพอนิด คิดหลายสิเป็นบ้า
เข้าพรรษาผ่านแล้ว
ยังบ่ทันมีแววสิตกสาดให้กล้าป่ง
มีแต่ฮ้องโป้งๆ ปานได๋แหล่วสิหลั่งไหล ฯ
กล่าวถึงราชาไท้ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกา
ทรงบัญชาให้จับเอา บ่าวบาเข้าวังกว้าง
หวังสิลวงไปตายสิ้น พระภูมินทร์เพิ่นคิดอ่าน
คิดอยากฮ่วมเยาวมาล ภรรยาบ่าวบานั้น
กระสันสู่สั่งการ
คิดเอาเถิดพวกท่านผู้ฟังเรื่องกลอนแถลง
เมียฮักไผเขากะแพง ยาดแย่งกันสรรพ์ได๋เด้
มันสิเภท์พังล้ม หลุบจมอย่าสร้างก่อ
ย้อนว่าเป็นเวรหนอ
ผิดทั้งศีลห้าพร้อมให้หนีเว้นหลีกไกล
ตอนนั้นชายผู้ทุกข์ไฮ้ ได้เข้าพบพระราชา
แล้ววันทายอนบ กราบทูลบังคมเบื้อง
พระจอมเมืองมีประสงค์หยังข้า
ตรัสสั่งจับบ่าวบา เข้ามาพี้ให้บอกแน่
ผิดอีหยังแท้ๆ พระองค์เจ้าให้กล่าวขาน
ว่าแล้วภูเบศท่านบ่ช้าอยู่ให้เสียการ
ทรงบรรหารวิธีโกงสิส่งบาไปตายเมี้ยน
“มึงจงเพียรย่างไปหนองน้ำบุ้น
ไปนำดินสีอรุณอยู่วังน้ำมาส่ง
กับทั้งดอกบัวโป้ง ถวายให้ส่งใส่พาน
แนวสุดท้ายว่านั้น คือโกมุทอุบลเขียว
ให้มึงเทียวทางเดิน ข่วมดงมาจงได้
ตะเว็นใสขอให้เดินทางดั้น
กลับมาก่อนแสงตะวัน ค่ำคล้อยต้องถึงถิ่น
ถ้าตะเว็นตกดิน สิปาดคอขาดสิ้น
ชีวินเจ้าต้องพ่ายพัง
เฮาสิคอยอยู่ยั้ง
ภายในปรางค์ เอิ้นถามข่าว
ส่วนว่ามิ่งเมียสาว มึงอย่าห่วงเถิดน่า
ตนข้าสิซ่อยแยง”
บาได้ฟังแล้วฮู้แจ้งประสงค์สิ่งสรรพ์ได๋
พระองค์หมายชีวิตหากบ่ทำกะจำแล้ว
เพิ่นมันแนวเทพฟ้า ทรงเป็นองค์ราชา
เฮาเป็นข้าบ่อาจลื่น
แสนสิคิดขัดขืน แต่บ่มีฮอดปากเว้า
ได้เหงาเศร้าเก่าศรี
โอ้ว่าหมี้เอยหมี้.. ผู้มีตุ่มแหนงหนาม
ยุติธรรมอยู่ใสน้อ สิเอ่ยขออุทธรณ์เรื่อง
เวียงกับวังวนน้ำ แสนไกลกันหลายลี้
เพิ่นอยากได้ดินสี กับปทุมบานแบ้ง
สิหาได้ว่าจั่งได๋
ตอนนี้หยุดพักไว้สาก่อนค่อยคุยกัน
ผู้ประพันธ์กำลังฮอนตัดตอนทอนเรื่อง
ทางสำเนียงสำนวนแหล่สิแวลงโค้งต่าว
กล่าวไว้เพียงท่อนี้สิลงแหล่ก่อนละโยม
ขออภัย เพื่อความสมจริง บางหม่องเลยใช้ภาษาบ่สุภาพ
เผยแผ่ครั้งแรกที่นี้
ศรีเวฬุคามมุนี
sriwaylukammunee@hotmail.com
๗ ก.ย ๒๕๕๑
Bookmarks