หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 11

หัวข้อ: ดินสีอรุณ ตอน 8

  1. #1
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ศรีเวฬุคามมุนี
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    กระทู้
    64

    ดินสีอรุณ ตอน 8

    ต่อจากตอนที่แล้ว

    ดินสีอรุณ
    นิทานธรรมบท สำนวนอีสาน
    ตอนที่ ๘


    เข้านครรับบัญชา

    ออนซอนเด้ ออนซอนดินออนซอนหญ้า ออนซอนนาขี่กระต่าย
    ฝนตกลงยามได๋ น้ำพัดหนีจากจ้อย
    นาน้อยแห่งไง่ผง

    ออนซอนฟ้าฮ้องโป้ง ก้ำฝ่ายทางอุดร
    ยโสธรสารคามคือสิเทลงพื้น

    ไผผู้บืนก้มหน้าสู่ แสนอดสูได้เพียรพ่ำ
    ฝนบ่ฮำดำนาหล้า ทั้งตากล้าหล่าเหลือง

    มองไปเห็นภาคเบื้อง นภากาศผั่นหงอยเหงา
    ใจบ่เบาพอนิด คิดหลายสิเป็นบ้า

    เข้าพรรษาผ่านแล้ว
    ยังบ่ทันมีแววสิตกสาดให้กล้าป่ง
    มีแต่ฮ้องโป้งๆ ปานได๋แหล่วสิหลั่งไหล ฯ

    กล่าวถึงราชาไท้ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกา
    ทรงบัญชาให้จับเอา บ่าวบาเข้าวังกว้าง

    หวังสิลวงไปตายสิ้น พระภูมินทร์เพิ่นคิดอ่าน
    คิดอยากฮ่วมเยาวมาล ภรรยาบ่าวบานั้น
    กระสันสู่สั่งการ

    คิดเอาเถิดพวกท่านผู้ฟังเรื่องกลอนแถลง
    เมียฮักไผเขากะแพง ยาดแย่งกันสรรพ์ได๋เด้

    มันสิเภท์พังล้ม หลุบจมอย่าสร้างก่อ
    ย้อนว่าเป็นเวรหนอ
    ผิดทั้งศีลห้าพร้อมให้หนีเว้นหลีกไกล

    ตอนนั้นชายผู้ทุกข์ไฮ้ ได้เข้าพบพระราชา
    แล้ววันทายอนบ กราบทูลบังคมเบื้อง

    พระจอมเมืองมีประสงค์หยังข้า
    ตรัสสั่งจับบ่าวบา เข้ามาพี้ให้บอกแน่
    ผิดอีหยังแท้ๆ พระองค์เจ้าให้กล่าวขาน

    ว่าแล้วภูเบศท่านบ่ช้าอยู่ให้เสียการ
    ทรงบรรหารวิธีโกงสิส่งบาไปตายเมี้ยน

    “มึงจงเพียรย่างไปหนองน้ำบุ้น
    ไปนำดินสีอรุณอยู่วังน้ำมาส่ง
    กับทั้งดอกบัวโป้ง ถวายให้ส่งใส่พาน
    แนวสุดท้ายว่านั้น คือโกมุทอุบลเขียว
    ให้มึงเทียวทางเดิน ข่วมดงมาจงได้

    ตะเว็นใสขอให้เดินทางดั้น
    กลับมาก่อนแสงตะวัน ค่ำคล้อยต้องถึงถิ่น
    ถ้าตะเว็นตกดิน สิปาดคอขาดสิ้น
    ชีวินเจ้าต้องพ่ายพัง

    เฮาสิคอยอยู่ยั้ง
    ภายในปรางค์ เอิ้นถามข่าว
    ส่วนว่ามิ่งเมียสาว มึงอย่าห่วงเถิดน่า
    ตนข้าสิซ่อยแยง”


    บาได้ฟังแล้วฮู้แจ้งประสงค์สิ่งสรรพ์ได๋
    พระองค์หมายชีวิตหากบ่ทำกะจำแล้ว

    เพิ่นมันแนวเทพฟ้า ทรงเป็นองค์ราชา
    เฮาเป็นข้าบ่อาจลื่น

    แสนสิคิดขัดขืน แต่บ่มีฮอดปากเว้า
    ได้เหงาเศร้าเก่าศรี

    โอ้ว่าหมี้เอยหมี้.. ผู้มีตุ่มแหนงหนาม
    ยุติธรรมอยู่ใสน้อ สิเอ่ยขออุทธรณ์เรื่อง

    เวียงกับวังวนน้ำ แสนไกลกันหลายลี้
    เพิ่นอยากได้ดินสี กับปทุมบานแบ้ง
    สิหาได้ว่าจั่งได๋

    ตอนนี้หยุดพักไว้สาก่อนค่อยคุยกัน
    ผู้ประพันธ์กำลังฮอนตัดตอนทอนเรื่อง
    ทางสำเนียงสำนวนแหล่สิแวลงโค้งต่าว
    กล่าวไว้เพียงท่อนี้สิลงแหล่ก่อนละโยม

    ขออภัย เพื่อความสมจริง บางหม่องเลยใช้ภาษาบ่สุภาพ


    เผยแผ่ครั้งแรกที่นี้
    ศรีเวฬุคามมุนี
    sriwaylukammunee@hotmail.com
    ๗ ก.ย ๒๕๕๑

  2. #2
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ sompoi
    วันที่สมัคร
    Mar 2007
    ที่อยู่
    japan
    กระทู้
    5,708
    บล็อก
    23
    กำลังม่วนแม๋ะเจ้าค่า...ตะซังเนาะพระยาอันนิ ..หึยยยย...อินๆแล่วว..::)
    มองต่าง..อย่างปลง

  3. #3
    มาอินคักแทะน้อเอื้อยมิค อิอิอิ :g:g
    ...เปรียบแม่เช่น โคมทองของชีวิต

    ช่วยชี้ทิศ ช่วยนำทาง ช่วยสร้างสรรค์

    ให้ความรัก ให้ความรู้ ชูชีวัน

    ลูกจึงมั่นกตัญญูบูชาคุณ..........เพื่อแม่ แพ้บ่ได้

  4. #4
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197
    ขอเป็นกำลังใจกับผลงานดีๆ นะคะ

  5. #5
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ หลานพระรถ
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    ที่อยู่
    เมืองพระรถธานี, ชลบุรี
    กระทู้
    343
    ขอบคุณสำหรับปริศนาที่ให้ติดตามคะ...:g

  6. #6
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ พิณอิสระ
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    ขอนแก่น อุดรธานี และสุรินทร์
    กระทู้
    503

    ขอบพระคุณอีกครั้งครับท่าน

    ขออภัยด้วยนะครับหากจะล่วงเกินนิดหนึ่ง สำหรับตอนที่แปดนี้ คำว่า อรซร น่าจะใช้ออนซอน นะครับ เพราะ อรซร หมายถึง งาม ส่วน ออนซอน หมายถึง สะออน ครับ
    คำว่า แห้งไง ผมว่าน่าจะเป็นคำอ่านว่า แห่งไง่ (ดินแห่งไง่ผง) เพียรพร่ำ คำอีสานเป็นเพียรพ่ำ ฝนบ่ฮ้ำ น่าจะเป็น ฝนบ่ฮำ คำว่า กระสั้นสู้ น่าจะใช้ กระสันสู่ และคำว่า ตะเวิน มีสองที่ คิดว่าเป็น ตะเว็น นะครับ ขออภัยด้วยนะครับที่บังอาจแก้คำ ผมชอบอ่าน และอ่านแล้วอ่านอีกครับ แต่แต่งไม่เป็นครับ ขอบพระคุณมาก

  7. #7
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ศรีเวฬุคามมุนี
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    กระทู้
    64

    ขอบพระคุณ "พิณอิสระ"

    โมทนาหลายๆ เด้อสำหรับแก้คำผิด สะกดผิด กับคำแนะนำ

    ถ้าบ่เป็นการรบกวน ซอยติงแน่เด้อ เพื่อความสมบูรณ์ต่อไป

    ตอนนี้กำลังพิจารณาตรวจแก้ตามคำแนะนำ

  8. #8
    นักปราชญ์เมืองอีสาน
    ศิลปินนักแต่ง ผญา
    สัญลักษณ์ของ ศรีสะท้าน
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    4,179
    ในส่วนตัวผมเข้าใจดีคะรับท่านผู้อ่านและท่านผู้แต่งกะดาย มันเป็นการยากที่สิเขียนให้ถืกต้องตามแบบ บางคำถืกเสียงแต่บ่ถืกรูป หรือถืกรูปแต่บ่ถืกเสียง เพราะเป็นการนำเอาคำอีสาน/คำลาวมาเขียนด้วยอักษรภาษาไทย สิให้ถืกต้องทั้งเหมิดคงบ่ได้ เหมือนดั่งเฮาเอาอักษรภาษาไทยเขียนทับศัพท์ภาษาอังกฤษทำนองนั้นหล่ะ แต่ก็เป็นการดีที่ได้เห็นพี่น้องสมาชิกแสดงความคิดเห็นท้วงติง ถือเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนะและความฮู้กันขอรับ
    วรรณคดีล้ำลำนำเอื้อนเอ่ย เขยภาษาพากษ์เว้าลาวพื้นกล่าวไกล

  9. #9
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ sompoi
    วันที่สมัคร
    Mar 2007
    ที่อยู่
    japan
    กระทู้
    5,708
    บล็อก
    23
    เข้าใจและเห็นด้วยคืออ้ายศรีเป็นอย่างยิ่ง ..ขนาดว่าจะของมักอ่านป่านนี่ยังแต่งได่บ่อดีเทื่อเลย..เฮ้อ..ส่อยติส่อยเตือนนำแน่ะเด้อจ้า..เอ๋า ท่านศรีเวฬุคามมุนี.หย่าวต่อโลดจ้า...อิอิ..:g
    มองต่าง..อย่างปลง

  10. #10
    ขอติดตามผลงานตอนต่อไปยุเด้อคับ จั่งได๋กะเขียนมาให้อ่านเรื่อยๆเด้อคับ8):g:g
    ...เปรียบแม่เช่น โคมทองของชีวิต

    ช่วยชี้ทิศ ช่วยนำทาง ช่วยสร้างสรรค์

    ให้ความรัก ให้ความรู้ ชูชีวัน

    ลูกจึงมั่นกตัญญูบูชาคุณ..........เพื่อแม่ แพ้บ่ได้

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •