พระเจ้าอโศกมหาราช

พระเจ้าอโศก (271-231 ปีก่อนค.ศ.)

ผู้เป็นพระนัดดาขึ้นครองราชย์ ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์แรกของอินเดียที่มีอาณาจักรกว้างใหญ่ เพราะทรงทำสงครามขยายดินแดนอยู่เสมอ เมื่อคราวที่ทรงยกทัพไปตีเมืองกาลิงกะ ทรงทอดพระเนตรเห็นคนตายและคนทรมานจากสงครามจำนวนมาก ทำ ให้สลดพระทัย จึงทรงยุติการทำสงคราม หันมาใฝ่พระทัยในทางศาสนาแทน ทรงหันมานับถือศาสนาพุทธ แต่ทรงสนับสนุนศาสนาอื่นให้เท่าเทียมกันด้วย ทรงโปรดให้สลักคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าบนแท่งหินไว้ตามที่ต่างๆ ทั่วอาณาจักรของพระองค์ ทรงให้เขียนคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นภาษาบาลี แทนที่จะเป็นภาษาสันสกฤต ทั้งนี้เพื่อให้ คนธรรมดาอ่านได้ ทรงส่งคนไปเผยแพร่ศาสนาพุทธถึงต่างแดน กษัตริย์ของศรีลังกาก็เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธด้วย

ชีวิตความเป็นอยู่ของคนอินเดียสมัยนี้ เป็นช่วงที่รุ่งเรืองการแบ่งชั้นวรรณะในสังคมมีกฎเกณฑ์ที่ผ่อนปรนลงบ้าง มีการแต่งงานกับคนต่างชาติ ต่างเผ่าพันธุ์และคัมภีร์อรรถศาสตร์อนุญาตให้มีการหย่าร้างได้ และหญิงม่ายแต่งงานใหม่ได้ ศาสนาทุกศาสนาได้รับการสนับสนุนจากพ่อค้าและช่างฝีมือ ศาสนาส่วนใหญ่สอนเรื่องอหิงสา และเรียกร้องให้คนทานแต่ผัก (มังสวิรัติ) ในกองทัพยังใช้เทคนิคอยู่เช่นเดิม คือ มี ช้าง ม้า รถรบ และพลเดินเท้า ผู้ที่จะมาบริหารเรื่องการเมือง-เศรษฐกิจต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี การคมนาคมติดต่อเพิ่มขึ้นมากและสามารถติดต่อกันได้กับเมืองหลวง คือ ปัตลีบุตร ใช้แรงงานคนถางป่าเพื่อทำประโยชน์จากที่ดิน มีการขุดเกลือทำเหมืองเหล็กและแร่ธาตุอื่นๆ พวกวรรณะศูทรทำงานกับพ่อค้าและในโรงงาน นับว่าอิสระขึ้น พระเจ้าอโศกทรงใช้ธรรมะมาปกครองบ้านเมือง ไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น ทรงสร้างโรงพยาบาลสำหรับคนและสัตว์ด้วย ทรงให้ปลูกไม้ผลไว้ตามทางเพื่อให้คนเดินทางได้รับประทานและได้อาศัยร่มเงาพักเหนื่อย ทรงสร้างบ้านพักคนเดินทางไว้ทั่วไปด้วย

สมัยราชวงศ์โมริยะ เริ่มต้นงานประติมากรรมสลักหินและงานสถาปัตยกรรม ทำเสาอาคารด้วยหินทราย สลักด้วยลายสัตว์พร้อมคำจารึก เจดีย์ของศาสนาพุทธมีขนาด ใหญ่ขึ้นและตกแต่งมากขึ้น ประติมากรสลักงานชิ้นใหญ่ขึ้น ถ้ำ ตามภูเขาได้รับการตกแต่งใหม่ด้วยงานทางศิลปะ ทางด้านวิชาการตื่นตัวมาก เมืองโบราณอย่างตักศิลารุ่งเรืองขึ้นมาก เพราะเป็นเมืองที่สำคัญทาง วิชาการและการทหาร มีนักศึกษาจากทั่วทุกทิศมาเรียนวิชาแขนงต่างๆ ราชวงศ์โมริยะได้สิ้นสุดลงราว 186 ปีก่อนค.ศ. ตรงกับที่อาณา จักรกรีกเกิดขึ้นมากมายทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียและบัคเทรีย กษัตริย์องค์หนึ่งของกรีก คือ พระเจ้ามีนันเดอร์ทรงหันมานับถือศาสนาพุทธ คนกรีกส่วนใหญ่สมรสกับคนพื้นเมือง คนกรีกและคนเผ่าต่างๆ เหล่านี้เราเรียกว่า ยาวานา (โยนาเป็นภาษาปรากริต หมายความถึง พวกไอโอเนียน, โรมัน, กรีก และชาวตะวันตกอื่นๆ) พวกกรีกนี้เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนความคิดทางศิลปะและวิทยาศาสตร์ระหว่างอินเดียและยุโรป ในขณะเดียวกันก็รับอารยธรรมอินเดียด้วย


ที่มา: http://www.tteen.net/view.php?time=20040612142719