เรื่องเล่าในห้องเรียน ตอนเพ็ญนภา คนที่ครูไม่สามารถช่วยเหลือได้
เรื่องเล่าในห้องเรียนเรื่องที่ 6 คือเรื่อง เพ็ญนภา คนที่ครูไม่สามารถช่วยเหลือได้
.....เพ็ญนภา นักเรียนชั้น ม.5 ผลการเรียนระดับสามกว่า จากการเรียนในชั้น ม.4 ขึ้นมาอยู่ ม 5 ได้ประมาณเดือนกว่า เหตุเกิดใกล้กับวันไหว้ครู จำได้ดีว่าเกิดขึ้นกลางเดือนมิถุนายน สาวน้อยคนนี้เป็นคนเงียบๆ นั่งอยู่หลังห้องเรียน ข้าพเจ้าจะให้เบอร์โทรศัพท์นักเรียนไว้เวลามีอะไรพิเศษที่สามารถติดต่อได้ทันที
.....วันที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเป็นวันอาทิตย์หลังจากทำพิธีไหว้ครูไปแล้ว ขณะกำลังรีดผ้าอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไปรับสายพบว่าเป็นเพ็ญนภาพูดมา คุณครูขา หนูอยากพบคุณครูมาก คุณครูมาพบหนูทีนะคะที่โรงเรียนค่ะ หนูจะรอนะคะ ข้าพเจ้ารับปากและรีบออกมาจากบ้านเพื่อไปโรงเรียน เนื่องจากบ้านไกลจากโรงเรียนมาก เมื่อเข้ามาถึงโรงเรียนก็ไม่พบเพ็ญนภา ถามภารโรงและครูเวร ก็บอกว่าเห็นอยู่แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าไปไหน ข้าพเจ้าก็ได้แต่พกความงุนงงสงสัยว่าอะไรเกิดขึ้นกับเพ็ญนภา เป็นห่วงแต่ขี่มอเตอร์ไซด์วนรอบก็ไม่พบ
.....วันจันทร์เปิดเรียนตามปกติ ไม่พบเพ็ญนภามาโรงเรียน ถามใครก็ไม่มีใครทราบ ข้าพเจ้ายิ่งกังวลใจมากขึ้น ถามเพื่อนว่าเขาอยู่บ้านไหน เพื่อนก็ไม่ทราบ บอกแต่ว่าเพ็ญนภาอยู่กับป้าและลุง เพราะพ่อกับแม่แยกกันอยู่ แม่เพ็ญนภาไปขายของที่ตลาดคลองเตย กรุงเทพ ส่วนพี่รับจ้างก่อสร้างทั่วไป โดยนำเพ็ญนภามาให้ลุงกับป้าเลี้ยง ข้าพเจ้าก็ได้แต่รอและเป็นห่วงมาก จนสองวันถัดมา พ่อของเพ็ญนภาเข้ามาในโรงเรียน นั่งร้องไห้อยู่ใต้ถุนอาคารเรียนขอพบครูที่ปรึกษา ครูที่ปรึกษาคือข้าพเจ้าลงไปพบพ่อของเพ็ญนภาถามว่า
เห็นลูกสาวผมไหมครับคุณครู ข้าพเจ้ายิ่งงง หนักเข้าไปใหญ่ ก็เลยถามว่า
เกิดอะไรขึ้น คำตอบก็คือเพ็ญนภาหนีออกจากบ้านป้าและลุง ตั้งแต่วันอาทิตย์ แล้วซึ่งหมายถึง
วันที่ข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์ ข้าพเจ้าได้เล่าให้ฟังว่าเพ็ญนภาโทรศัพท์มาหาและเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
พ่อของเพ็ญนภาร้องไห้กลับไปโดยไม่บอกสาเหตุอะไรเลย
.....วันรุ่งขึ้นมาอีก มานั่งร้องไห้หาลูกอีก ข้าพเจ้าลงไปพบและปลอบใจว่าจะพยายามค้นหาให้พบให้ได้ แกก็เลยกลับไป
.....วันจันทร์ คราวนี้มีป้าและลุงมาขอเข้าพบ และขอพบเพื่อนผู้หญิงของเพ็ญนภา ซึ่งเรียนต่างห้องกัน เด็กหญิงคนนั้นได้บอกว่า หลังจากที่พ่อเพ็ญนภา ได้ตบเพ็ญนภาจนเลือด กลบปากที่โรงพยาบาลเพราะมาเฝ้าแม่ของเพื่อนผู้หญิงคนนี้ พ่อเพ็ญนภาที่เมามากมาตามลูกสาวและตบหน้าลูกสาวและดุว่ากล่าวหลายครั้ง เพราะมาเฝ้าแม่เพื่อนคนนี้ ไม่ยอมกลับบ้าน เพ็ญนภาหนีจากโรงพยาบาลที่เฝ้าไข้ โดยไม่มีเสื้อผ้าติดตัวนอกจากชุดที่ใส่มา เงินก็ไม่มีมากอาจจะไม่ถึงห้าสิบบาท ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าจึงถึงซึ่งบางอ้อ แต่ก็ไม่พูดมาก พอดีเพื่อนในห้องที่เป็นหัวหน้าห้องมาบอกว่า ครูครับเมื่อคืนเพ็ญนภาโทรศัพท์มาถึงผมครับ เขาบอกว่าไปอยู่กลับแม่เขาที่กรุงเทพๆ ครับ ข้าพเจ้าจึงโทรศัพท์กลับไปเบอร์ที่เพ็ญนภาโทรมา พบว่าเป็นเบอร์ของโทรศัพท์สาธารณะ ไม่สามารถติดต่อได้ จึงขอเบอร์โทรแม่ของเพ็ญนภา จากลุง กับป้า พบว่าโทรไปแม่ของเพ็ญนภาบอกว่าลูกไม่ได้ลงมาอยู่ด้วย และลูกก็ไม่รู้ที่อยู่ของแม่ในกรุงเทพด้วย ข้าพเจ้ายิ่งเป็นห่วงมากที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้นกลับเพ็ญนภา จากนั้นก็ไม่ได้ข่าวของเพ็ญนภาเลย ทั้งจากเพื่อนและจากพี่น้องของเพ็ญนภา ข้าพเจ้าพยายามติดตาม แต่ไม่สามารถติดตามได้จนบัดนี้
.....เป็นอุทาหรณ์สำหรับการกระทำของพ่อที่มีต่อลูก บางครั้งบางเรื่องครูก็ไม่สามารถไปแทรกตรงกลางได้ วันนั้นข้าพเจ้ายังเสียใจจนบัดนี้คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ คิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะรุนแรงเกินเอื้อมถึงได้ ไม่อย่างนั้นคงโทรให้ครูเวรสกัดไว้ก่อน ซึ่งก็คงพอบรรเทาได้และช่วยเหลือได้ อย่างไรก็ตาม ก็ขออวยพรให้สาวน้อยอย่างเพ็ญนภาคงไม่พบชะตากรรมที่ยอดแย่ลงไปอีกนะคะ
.....จบเรื่อง เพ็ญนภา คนที่ครูไม่สามารถช่วยเหลือได้
Bookmarks