ไปพุ่นกินปลา มาพี่กินข้าว ฮักกันไว้ ดีกว่าซังกัน
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่แสนกันดารในสมัยอดีตและสภาพภูมิอากาศที่ร้อนระอุของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ผู้คนในแถบนี้มีสภาพอารมณ์ปรวนแปร หงุดหงิดง่าย ดังนั้นปัญหาการทะเลาะวิวาทจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ปราชญ์อีสานในสมัยโบราณจึงได้สร้างขนบความเชื่อขึ้นมากมาย เหตุเพื่อสานสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาการทะเลาะเบาะแวง ความระแวงแคลงใจกันและกัน เราจึงเห็นได้ว่าประเพณีวัฒนธรรมในยุคหลัง ๆ เป็นการจัดกิจกรรมโดยอาศัยความเป็นส่วนร่วม ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
แต่เดิมนั้นเราไม่มีศาสนาก็เอาผีสางนางไม้เป็นหลักยึดเพื่อใช้บังคับทางอ้อมให้คนทำตาม ในกาลต่อมาเมื่อพุทธศาสนาเผยแพร่เข้าสู่บ้านเมือง ก็ได้มีการนำเอาความศักดิ์สิทธิ์ ปาฏิหาริย์ของศาสนามาเป็นสิ่งล่อ
พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีอิทธิพลแก่ชาวอีสานเป็นอย่างมาก ในเมื่อเข้าสู่กาลพรรษาชาวบ้านก็จัดเทียนถวายพระภิกษุสงฆ์ตามศรัทธาและเมื่อใกล้สิ้นกาลพรรษาแล้ว ชาวบ้านก็จะพร้อมใจกันบริจาคข้าวปลาอาหารแห้งเงินทองเพื่อไปถวายวัดหมู่บ้านอื่น ๆ หรือไปมอบให้แก่หมู่บ้านที่เกิดเหตุภัยธรรมชาติต่างๆ หรือหมู่บ้านที่ยากจน เรียกว่า การทอดข้าวสาร บ้านใดที่รับการทอดข้าวสารแล้วเมื่อตนเองพร้อมหรือมีกำลังทรัพย์ข้าวของก็จะกลับมาทอดบ้านที่มาทอดให้บ้านตนเอง
คำว่าทอดนั้น เป็นคำที่แฝงความหมายมากกว่าคำว่าถวาย เพราะนัยยะจริง ๆ แล้วหมายถึง การเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างกลุ่มชุมชน โดยจะมีการขับสวดสรภัญญะอีสานเพื่อเป็นเครื่องเสพงัน(มหรสพ) โดยบ้านที่ไปทอดนั้นจะนำคณะสรภัญญะหมู่บ้านตนเองไปด้วย เพื่อไปขับสวดให้หมู่บ้านที่ตนเองไปทอดข้าวสารฟัง หมู่บ้านที่รับทอดข้าวสารก็จะมีคณะสรภัญญะขับสวดเป็นการต้อนรับเช่นกัน หาได้เป็นการประชันขันแข่งเพื่อให้เกิดการแพ้ชนะไม่ หากแต่เป็นไปเพื่อความสามัคคีเท่านั้นเองสถานที่ที่ใช้จัดการทอดข้าวสารนั้นคือ วัด อันเป็นกุศโลบายเพื่อให้ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้จิตใจผู้ร่วมงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ดังคำกลอนอีสานที่ว่า
อันบุญนี่ ศีลธรรมกุศล
บุญบุญนี่สร้างคน ประชาชนเมืองบ้าน
บุญนี่เป็นบุญตุ้ม สามัคคีกลมแก่น
ฝังสายจิตแน่นแฟ้น แก่นมั่นบ่มีลืม
บ้านพุ้นพี้ ไปมาหาสู่
บ้านเมืองฮ่มอยู่ได้ เจริญบ้านฮุ่งเฮือง
ถอดความได้ว่า บุญที่ทำนี้เป็นบุญสร้างคนให้มีความกลมเกลียวเหนียวแน่น สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้านไปมาหาสู่กัน บ้านเมืองก็จะเจริญรุ่งเรือง
เราจะเห็นได้ว่าพิธีกรรมทอดข้าวสาร เป็นเพียงกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ปราชญ์โบราณได้สร้างขึ้นอันมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความสามัคคีระหว่างคนต่อคน ชุมชนต่อชุมชน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงกล่าวได้ว่า การทอดข้าวสาร จึงเป็นพิธีกรรมเพื่อความสมานฉันท์ชาติโดยแท้จริง
Bookmarks