กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: ทอดข้าวสาร

  1. #1
    พิมล มองจันทร์
    Guest

    ทอดข้าวสาร

    ไปพุ่นกินปลา มาพี่กินข้าว ฮักกันไว้ ดีกว่าซังกัน

    เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่แสนกันดารในสมัยอดีตและสภาพภูมิอากาศที่ร้อนระอุของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ผู้คนในแถบนี้มีสภาพอารมณ์ปรวนแปร หงุดหงิดง่าย ดังนั้นปัญหาการทะเลาะวิวาทจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

    ปราชญ์อีสานในสมัยโบราณจึงได้สร้างขนบความเชื่อขึ้นมากมาย เหตุเพื่อสานสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาการทะเลาะเบาะแวง ความระแวงแคลงใจกันและกัน เราจึงเห็นได้ว่าประเพณีวัฒนธรรมในยุคหลัง ๆ เป็นการจัดกิจกรรมโดยอาศัยความเป็นส่วนร่วม ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

    แต่เดิมนั้นเราไม่มีศาสนาก็เอาผีสางนางไม้เป็นหลักยึดเพื่อใช้บังคับทางอ้อมให้คนทำตาม ในกาลต่อมาเมื่อพุทธศาสนาเผยแพร่เข้าสู่บ้านเมือง ก็ได้มีการนำเอาความศักดิ์สิทธิ์ ปาฏิหาริย์ของศาสนามาเป็นสิ่งล่อ

    พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีอิทธิพลแก่ชาวอีสานเป็นอย่างมาก ในเมื่อเข้าสู่กาลพรรษาชาวบ้านก็จัดเทียนถวายพระภิกษุสงฆ์ตามศรัทธาและเมื่อใกล้สิ้นกาลพรรษาแล้ว ชาวบ้านก็จะพร้อมใจกันบริจาคข้าวปลาอาหารแห้งเงินทองเพื่อไปถวายวัดหมู่บ้านอื่น ๆ หรือไปมอบให้แก่หมู่บ้านที่เกิดเหตุภัยธรรมชาติต่างๆ หรือหมู่บ้านที่ยากจน เรียกว่า การทอดข้าวสาร บ้านใดที่รับการทอดข้าวสารแล้วเมื่อตนเองพร้อมหรือมีกำลังทรัพย์ข้าวของก็จะกลับมาทอดบ้านที่มาทอดให้บ้านตนเอง

    คำว่าทอดนั้น เป็นคำที่แฝงความหมายมากกว่าคำว่าถวาย เพราะนัยยะจริง ๆ แล้วหมายถึง การเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างกลุ่มชุมชน โดยจะมีการขับสวดสรภัญญะอีสานเพื่อเป็นเครื่องเสพงัน(มหรสพ) โดยบ้านที่ไปทอดนั้นจะนำคณะสรภัญญะหมู่บ้านตนเองไปด้วย เพื่อไปขับสวดให้หมู่บ้านที่ตนเองไปทอดข้าวสารฟัง หมู่บ้านที่รับทอดข้าวสารก็จะมีคณะสรภัญญะขับสวดเป็นการต้อนรับเช่นกัน หาได้เป็นการประชันขันแข่งเพื่อให้เกิดการแพ้ชนะไม่ หากแต่เป็นไปเพื่อความสามัคคีเท่านั้นเองสถานที่ที่ใช้จัดการทอดข้าวสารนั้นคือ วัด อันเป็นกุศโลบายเพื่อให้ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้จิตใจผู้ร่วมงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ดังคำกลอนอีสานที่ว่า

    อันบุญนี่ ศีลธรรมกุศล
    บุญบุญนี่สร้างคน ประชาชนเมืองบ้าน
    บุญนี่เป็นบุญตุ้ม สามัคคีกลมแก่น
    ฝังสายจิตแน่นแฟ้น แก่นมั่นบ่มีลืม
    บ้านพุ้นพี้ ไปมาหาสู่
    บ้านเมืองฮ่มอยู่ได้ เจริญบ้านฮุ่งเฮือง


    ถอดความได้ว่า บุญที่ทำนี้เป็นบุญสร้างคนให้มีความกลมเกลียวเหนียวแน่น สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้านไปมาหาสู่กัน บ้านเมืองก็จะเจริญรุ่งเรือง

    เราจะเห็นได้ว่าพิธีกรรมทอดข้าวสาร เป็นเพียงกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ปราชญ์โบราณได้สร้างขึ้นอันมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความสามัคคีระหว่างคนต่อคน ชุมชนต่อชุมชน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงกล่าวได้ว่า การทอดข้าวสาร จึงเป็นพิธีกรรมเพื่อความสมานฉันท์ชาติโดยแท้จริง

  2. #2
    นักปราชญ์เมืองอีสาน
    ศิลปินนักแต่ง ผญา
    สัญลักษณ์ของ ศรีสะท้าน
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    4,179
    ผู้ข้ากะบ่ค่อยได้ไปทอดนำเพิ่นดอก ข้าวสารนี้กะดาย ส่วนมากสิหนักไปทางหว่านข้าวสาร สาธุการยามฟังเทศน์ บุญผะเหวดเดือน๔ค้อยพากันต้อยแต่งกัณฑ์หลอน ไปซั้นหละ ลางเทือข้าวสารเหมิด ดึกข้าวต้มกะปานนั้น กะว่าสิดึกใส่ผู้สาว แต่เล็งบ่แน่ ใส่กงหลังแม่ผู้สาวตุ๊บโลด...เขาเจ้าป้อยว่าสั่น อิ อิ
    วรรณคดีล้ำลำนำเอื้อนเอ่ย เขยภาษาพากษ์เว้าลาวพื้นกล่าวไกล

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •