เรื่องของน้ำหอม…สำหรับคนชอบน้ำหอม


สำหรับคนชอบน้ำหอม ครับ

น้ำ หอม กลายเป็นองค์ประกอบหลักในการแต่งตัวและช่วยสร้างบุคลิกให้กับเราได้ไม่มากก็น้อย
เสน่ห์ของหลายๆ คนไม่เพียงแต่จะอยู่ที่บุคลิกและความเฉพาะตัวของคนคนนั้นแล้ว
ความหอมของกลิ่นกายก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำความรู้จักกับน้ำหอมในแบบที่แตกต่างกันนั้น
ก็มีผลกับการใช้น้ำหอมเพื่อให้เกิดความหอมต่อร่างกายของเรา
ไม่เพียงแต่เคล็ดลับในการเลือกน้ำหอมจะนับเป็นส่วนสำคัญ
การรู้จักใช้น้ำหอมให้ถูกวิธี ดูจะยิ่งช่วยให้กลิ่นหอมของน้ำหอมที่เราเลือกใช้นั้น
ติดอยู่ได้ทนนานอย่าง ที่ควรจะเป็น


รู้จักเลือกน้ำหอม

การเลือกใช้น้ำหอมอย่างเหมาะสม เราควรเลือกกลิ่นหอมที่เข้ากับบุคลิกของตัวเองนับว่าดีที่สุด
และนอกจากนั้น การที่เลือกลักษณะของกลิ่นหอมยังจำเป็นที่จะต้องรู้จักประเภทของน้ำหอม
ที่แบ่งตามความเข้มข้นของน้ำหอมด้วย
น้ำหอมนั้นมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำมันหอมที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยแอลกอฮอล์
(แอลกอฮอล์ทำหน้าที่ช่วยกระจายความหอมไปในการระเหยนั่นเอง )
ในระดับความเข้มข้นของความหอมที่แตกต่างกันไป
น้ำหอมจึงถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
ด้วยระดับความเข้มข้นของกลิ่นหอมได้ออกเป็นดังนี้

• โคโลญจน์ หรือ Eau de Cologne เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 3-5%

• ทอยเล็ตต์ หรือ Eau de Toilette เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 4-8%

• เพอร์ฟูม หรือ Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 15-18% ซึ่งจะมีกลิ่นติดทนนานที่สุด


ลักษณะของขวดหรือ ภาชนะบรรจุน้ำมันหอมนั้น ยังมีผลต่อความคงทนในการเก็บความหอมให้ยาวนาน
ในขณะที่ขวดแบบเปิดฝาจะเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นาน 9 เดือน
ขวบแบบสเปรย์ที่ฝาปิดแน่นหนากว่านั้นเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นานนับปี เป็นต้น



เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอมอยู่ที่การทดลองกลิ่นหอมของน้ำหอมแต่ละกลิ่น
อย่าลืมว่าการเลือกน้ำหอมที่ดีที่สุดอยู่ที่กลิ่นที่เข้ากับบุคลิกของผู้ ใส่
และเนื่องจากกลิ่นหอมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับองค์ประกอบรอบๆ ตัวหลายอย่างด้วยกัน
ก่อนไปเลือกซื้อน้ำหอม ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด
หรือออกกำลังกายที่ทำให้เหนื่อยมากจนเกินไป ซึ่งการกระทำเหล่านั้นจะส่งผลต่อการรับรู้กลิ่น
และทำให้การรับรู้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมนั้นผิดเพี้ยนไป และนอกจากนี้
เรายังไม่ควรไปเลือกซื้อน้ำหอมในเวลาที่เพิ่งจะฟื้นจากอาการเจ็บป่วยไม่ สบาย
หรือเพิ่งจะสูบบุหรี่มา เพราะการกระทำเช่นนี้อาจจะมีผลต่อการรับรู้กลิ่นน้ำหอม
ทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เราสัมผัสมีโอกาสผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงด้วยเช่นกัน
และแน่นอนว่าบริเวณที่เหมาะสำหรับทดลองน้ำ หอม คือบริเวณข้อมือ
ซึ่งไม่เพียงแต่จะสะดวกแล้ว ยังนับเป็นจุดชีพจรที่ทำให้เราได้กลิ่นหอมของน้ำหอมอย่างแท้จริงอีกด้วย
บริเวณจุดชีพจรเต้นนั้นเป็นบริเวณของร่างกายที่ มีอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้กลิ่นหอมของน้ำหอมระเหย
อธิบายได้ง่ายๆ ว่าทำให้เกิดกลิ่นหอมได้ดีนั่นเอง
อีกอย่างที่ควรทำคือทดลองน้ำหอมต่างกลิ่นกันคนละจุดด้วยการใช้ข้อมือคนละข้างกัน
และไล่บริเวณแขนลงไป และควรทิ้งระยะเวลาเอาไว้สัก 20 นาทีหรือถึง 1 ชั่วโมง
แล้วจากนั้นค่อยตัดสินใจเลือกซื้ออีกครั้งหนึ่งจะดีกว่า


สำหรับคนชอบน้ำหอม ครับ





ข้อควรระวังในการใช้น้ำหอม น่าจะอยู่ที่เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ รวมทั้งเครื่องประดับทั้งหลาย
ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ เข็มกลัด เข็มขัด เป็นต้น
เนื่องจากแอลกอฮอล์และเคมีบางอย่างที่เป็นองค์ประกอบของน้ำหอม
( อย่างเช่น น้ำมัน เป็นต้น ) จะมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด
ที่จริงแล้วลักษณะในการใส่น้ำหอมเองยังมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด
อาทิ น้ำมันที่มีผลกับผ้าซาติน หรือแม้แต่ผ้าฝ้ายแบบฟอก
การฉีดน้ำหอมใกล้กับเสื้อผ้ามากเกินไป ทำให้แอลกอฮอล์ปริมาณเข้มข้น
ติดอยู่กับเสื้อผ้ามาก ดัง นั้น การฉีดน้ำหอมควรทำห่างจากตัวอย่างน้อย 30 เซนติเมตร
เพื่อไม่ให้น้ำหอมทิ้งจุดด่างหรือรอยเปียกของน้ำมันเอาไว้บนเสื้อผ้า
ทางที่ดีที่สุดอย่าฉีดโดยตรงลงบนเสื้อผ้าจะดีกว่า
ส่วนเครื่องประดับที่มักจะเกิดปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ที่อยู่ในน้ำหอมนั้น
ส่วนมากมักจะเป็นโลหะผสมพวกโรเดียมไม่เพียงเท่านั้นเครื่องเพชรพลอย อัญมณี
หรือแม้แต่ไข่มุกก็ตามนั้นมีส่วนหมองคล้ำจากการได้รับละอองสเปรย์ที่ มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อีกด้วย
ส่วนที่จะทิ้ง “ รอยตกค้าง ” อันไม่ปรารถนาเอาไว้ให้กับเครื่องแต่งกายของเรา
คือสีที่เป็นอีกส่วนผสมที่ประกอบอยู่ในน้ำหอมนั่นเอง
ดังนั้น จึงไม่ควรฉีดหรือแต้มน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าแต่แต้มลงบนส่วนของร่างกาย
โดยระวังเครื่องประดับต่างๆ ด้วย

แน่นอนว่ากลิ่นหอมของน้ำหอม สร้างเสน่ห์ชวนหลงใหลให้กับเราได้
แต่ในทางกลับกันบางครั้งมันก็อาจทำให้เกิดเป็นกลิ่นฉุนได้หากแตะหรือฉีด
ในปริมาณที่มากเกินพอดี


เคล็ดลับในการแต้มน้ำหอมสำหรับทุกสถานการณ์

• ให้ป้ายหรือฉีดน้ำหอมในบริเวณที่เป็นจุดชีพจร โดยมากจะเป็นบริเวณข้อมือหรือลำคอ
และบางครั้งบริเวณข้อพับที่แขนหรือขาพับก็เป็นที่นิยม ในขณะที่การแตะน้ำหอมบริเวณหลังใบหูนั้นความหอมของน้ำหอมจะไม่ติดอยู่ทนนาน
เนื่องจากแอลกอฮอล์ระเหยได้รวดเร็วนั่นเอง

• การถูข้อมือที่แต้มน้ำหอม 2 ข้างเข้าด้วยกัน ไม่ได้ช่วยให้ความหอมนั้นทั่วถึง
แต่ที่จริงแล้วจะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมอ่อนลง

• การฉีดสเปรย์น้ำหอมในอากาศแล้วใช้วิธีเดินผ่านนั้น จะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายติดตัวเราได้ทั่วดี

• พยายามอย่าใช้โลชั่นที่มีกลิ่นหอมก่อนหน้าที่จะใช้น้ำหอมเนื่องจากกลิ่นจะตีกัน

• ใช้น้ำหอมมากหน่อยหากคุณเป็นคนผิวแห้ง เนื่องจากผิวมันมีน้ำมันช่วยคงกลิ่นให้ติดอยู่ยาวนาน

• ในขณะเดียวกันหากใส่น้ำหอมแล้วต้องอยู่ในที่อากาศเย็นให้เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นแรงกว่าปกติ
เนื่องจากความเย็นหรืออุณหภูมิต่ำจะลดกลิ่นหอมของน้ำหอมให้ลดน้อยลงกว่าที่เป็น
การฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จใหม่ๆ จะช่วยทำให้กลิ่นหอมติดทนนานกว่าปกติ


สำหรับคนชอบน้ำหอม ครับ

มา THAIWEDDINGMALL.COM