-
Maximum learning
ศิลปิน นักเขียน
นักเรียนนอกยุคแรก
นักเรียนนอกยุคแรก
เรามักจะเข้าใจว่านักเรียนไทยเริ่มไปเรียนเมืองนอกกันในตอนปลายรัชกาลที่ ๕
เห็นได้จากพระเจ้าลูกยาเธอหลายพระองค์ที่เสด็จไปศึกษาต่อในยุโรปในยุคนั้น
แต่ในความเป็นจริง ยุคนักเรียนไทยไปเรียนเมืองนอก ถอยหลังย้อนกลับ
ไปเก่ากว่านั้นมาก คือตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔
ทั้งนี้เพราะอิทธิพลของมหาอำนาจฝ่ายตะวันตกแผ่เข้ามาคุกคามไทย
ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ และเห็นได้ชัดขึ้นในรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงเห็นความจำเป็น ที่จะให้คนไทยเรียนรู้วัฒนธรรมของฝรั่ง จะได้รู้เท่าทันพวกเขา
เพื่อแก้ไขปัญหาการรุกราน รักษาเอกราชไว้ได้ จึงทรงสนับสนุนให้มีการเรียนรู้ภาษา
และวิชาการตะวันตกอย่างมาก จนสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ
กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ตรัสเป็นข้อคิดไว้ว่า
- เมื่อรัชกาลที่ 1 ใครรบทัพจับศึกได้แข็งแกร่งก็โปรด
- ในรัชกาลที่ 2 ใครเป็นกวีก็เป็นคนโปรด
- ในรัชกาลที่ 3 ใครมีศรัทธาสร้างวัดวาก็เป็นคนโปรด
- ในรัชกาลที่ 4 ใครรู้ภาษาฝรั่งก็เป็นคนโปรด
การเรียนภาษาอังกฤษเริ่มมาจากในพระบรมมหาราชวัง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งโรงเรียนขึ้น
จ้างครูสตรีชาวอังกฤษชื่อแอนนา เลียวโนเวนส์มาถวายพระอักษร
พระเจ้าลูกยาเธอและพระเจ้าลูกเธอที่ทรงพระเยาว์
นอกจากนี้ก็โปรดฯให้เจ้าจอมหม่อมห้ามได้เรียนด้วย
คนหนึ่งที่เรียนจนพูดภาษาอังกฤษได้คือเจ้าจอมมารดากลิ่นในกรมพระนเรศวรฤทธิ์
(ต้นสกุล กฤดากร)
ล่วงมาถึงปลายรัชกาล คนไทยรุ่นแรกที่รู้ภาษาอังกฤษมากพอจะนำมา
ใช้ในราชการงานเมืองได้มีอยู่ 5 คน คือ
- พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ครั้งทรงดำรงพระยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
ทรงศึกษากับครูสตรีและมิชชันนารีอื่นๆตั้งแต่ทรงพระเยาว์
ต่อมาทรงศึกษาด้วยพระองค์เอง จนทรงแปลเรื่อง The Sleeper and the Waker
ของเซอร์ริชาร์ด เบอร์ตันเป็นไทยได้ ชื่อว่า " นิทราชาคริต"
- กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ หรือพระนามเมื่อครั้งประสูติ
ว่าพระองค์เจ้ายอร์ช วอชิงตัน) พระโอรสพระองค์ใหญ่ใน
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบภาษาอังกฤษบ้างพอตรัสได้
และทรงถนัดเรื่องวิชาช่างเช่นเดียวกับพระชนกนาถ
- พระยาอรรคราชวราทร(หวาด บุนนาค)บุตรพระยาอภัยสงคราม
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ฝากนายเรือรบอเมริกัน
ไปเรียนวิชาทหารเรือ เรียนรู้ทางภาษากลับมารับราชการในกรมท่าและได้เป็นพระยาเมื่อชรา
- พระยาอรรคราชวราทร (เนตร) บุตรพระยาสมุทบุรานุรักษ์
ไปเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองสิงคโปร์จนใช้ได้ดี กลับมารับราชการ
ได้เป็นขุนศรีสยามกิจ ผู้ช่วยกงสุลสยามที่เมืองสิงคโปร์ และหลวงศรีสยามกิจ
ไวส์กงสุลสยามในเมืองสิงคโปร์ในรัชกาลที่ 4 ต่อมา ในรัชกาลที่ 5
ได้เป็นพระยาสมุทบุรานุรักษ์ตามอย่างบิดาและพระยาอรรคราชวราทรคนแรก
- เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) เป็นลูกหลานสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ทางบ้านส่งไปเรียนที่อังกฤษอยู่ 3 ปี ต่อมาเดินทางกลับพร้อมกับ
เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ เมื่อครั้งเป็นราชทูตไปฝรั่งเศส
ได้เป็นล่าม กลับมารับราชการเป็นนายราชาณัตยานุหาร หุ้มแพรวิเศษ
ในกรมอาลักษณ์ พนักงานเชิญรับสั่งไปต่างประเทศ และเป็นราชเลขานุการภาษาอังกฤษตลอดรัชกาล
สามัญชนที่เรียนวิชาความรู้จากฝรั่งคือนายจิตร อยู่กุฎีจีน
เรียนวิชาถ่ายรูปกับบาทหลวงหลุยส์ ลานอดี ชาวฝรั่งเศส
และนายทอมสันช่างถ่ายรูปชาวอังกฤษ จนตั้งห้างถ่ายรูปได้
ได้เป็นขุนฉายาทิศลักษณะ และหลวงอัคนีนฤมิตร เจ้ากรมแกสหลวง
ในปลายรัชกาลนี้เอง ราชการได้เริ่มส่งนักเรียนไทยชุดแรกไปเรียนต่อ
ที่ยุโรป 3 คน สองคนที่ไปเรียนในอังกฤษคือนายโต บุตรเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์
กลับมารับราชการในบั้นปลายได้เป็นเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์
และนายสุดใจ บุตรเจ้าพระยาภาณุวง์มหาโกษาธิบดี(ท้วม)
กลับมารับราชการได้เป็นพระยาราชานุประพันธ์ ส่วนคนที่สามคือนายบิน
บุตรเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ ไปเรียนที่ฝรั่งเศส กลับมาได้เป็นหลวงดำรงสุรินทฤทธิ์
ส่วนในสยาม มีผู้เรียนภาษาอังกฤษกับมิชชันนารีแล้วเข้ารับราชการอีก 6 คน
บางคนไปเรียนต่อต่างประเทศ บางคนก็เข้ารับราชการโดยตรง
ส่วนใหญ่จะเจริญรุ่งเรืองในราชการอย่างดี
เมื่อมาถึงรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้จัดตั้งชั้นเรียนภาษาอังกฤษขึ้นที่
โรงทหารมหาดเล็ก จัดครูฝรั่งมาถวายพระอักษรบรรดาพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้านายที่ได้รับราชการเป็นเสนาบดีในรัชกาลที่ 5 อย่างสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ได้ทรงเล่าเรียนภาษาและวัฒนธรรมอังกฤษแทบทุกพระองค์ จึงทรงเป็นกำลัง
สำคัญอย่างมากในการพัฒนาบ้านเมือง
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯยังโปรดเกล้าฯให้คัดเลือกลูกผู้ดีไทย
รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ประมาณ 20 คน ส่งไปเรียนภาษาอังกฤษที่สิงคโปร์อีกชุดหนึ่ง
สามคนในจำนวนนี้ได้ไปเรียนที่อังกฤษอีกด้วย คือ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์,
หม่อมเจ้าเจ๊ก นพวงศ์ ในกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส และพระยาไชยสุรินทร์
(ม.ร.ว. เทวหนึ่ง ศิริวงศ์) เป็นต้น คนไทยจำนวนน้อยนิดในรัชกาลที่ 3 และ 4
ที่รู้ภาษาตะวันตกเหล่านี้ เป็นผู้วางรากฐานความสำคัญของภาษาและ
วิทยาการตะวันตกให้เพิ่มพูนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 จนกลายเป็นความนิยมอย่าง
แพร่หลายในหมู่ขุนนางข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่จะส่งบุตรหลานของตน
ไปศึกษาต่อ ณ ทวีปยุโรป
การเรียนรู้วิทยาการในประเทศตะวันตกในสมัยรัชกาลที่ 6 และ 7
ในหมู่นักเรียนไทยนี้เองมีส่วนกระตุ้นให้เกิดความคิดอ่านที่จะมีส่วนในการปกครอง
ประเทศ ตามระบอบประชาธิปไตยที่นักเรียนไทยเหล่านั้นไปเห็นมาในหลายประเทศ
ในยุโรป จนกระทั่งนำไปสู่เสรีภาพทางหนังสือพิมพ์ การเรียกร้องสิทธิ์
ในการมีส่วนปกครองประเทศ และจบลงด้วยการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน
พ.ศ. 2475
-
แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
Re: นักเรียนนอกยุคแรก
ฝนก็อยากจะเก่งๆ คือ คะเจ้าอยู่ดอกจ้า อิอิ
อยากสิทำโตให้มีประโยชน์แก่บ้านเมืองคือคะเจ้า
ช่างน่าชื่นชมสรรเสริญอย่างยิ่ง ฝนสิตั้งใจเรียน สู้ๆๆ
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks