กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: นักเรียนนอกยุคแรก

  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    นักเรียนนอกยุคแรก

    นักเรียนนอกยุคแรก




    เรามักจะเข้าใจว่านักเรียนไทยเริ่มไปเรียนเมืองนอกกันในตอนปลายรัชกาลที่ ๕
    เห็นได้จากพระเจ้าลูกยาเธอหลายพระองค์ที่เสด็จไปศึกษาต่อในยุโรปในยุคนั้น
    แต่ในความเป็นจริง ยุคนักเรียนไทยไปเรียนเมืองนอก ถอยหลังย้อนกลับ
    ไปเก่ากว่านั้นมาก คือตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔

    ทั้งนี้เพราะอิทธิพลของมหาอำนาจฝ่ายตะวันตกแผ่เข้ามาคุกคามไทย
    ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ และเห็นได้ชัดขึ้นในรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
    ทรงเห็นความจำเป็น ที่จะให้คนไทยเรียนรู้วัฒนธรรมของฝรั่ง จะได้รู้เท่าทันพวกเขา
    เพื่อแก้ไขปัญหาการรุกราน รักษาเอกราชไว้ได้ จึงทรงสนับสนุนให้มีการเรียนรู้ภาษา
    และวิชาการตะวันตกอย่างมาก จนสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ
    กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ตรัสเป็นข้อคิดไว้ว่า


    - เมื่อรัชกาลที่ 1 ใครรบทัพจับศึกได้แข็งแกร่งก็โปรด

    - ในรัชกาลที่ 2 ใครเป็นกวีก็เป็นคนโปรด

    - ในรัชกาลที่ 3 ใครมีศรัทธาสร้างวัดวาก็เป็นคนโปรด

    - ในรัชกาลที่ 4 ใครรู้ภาษาฝรั่งก็เป็นคนโปรด

    การเรียนภาษาอังกฤษเริ่มมาจากในพระบรมมหาราชวัง
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งโรงเรียนขึ้น
    จ้างครูสตรีชาวอังกฤษชื่อแอนนา เลียวโนเวนส์มาถวายพระอักษร
    พระเจ้าลูกยาเธอและพระเจ้าลูกเธอที่ทรงพระเยาว์
    นอกจากนี้ก็โปรดฯให้เจ้าจอมหม่อมห้ามได้เรียนด้วย
    คนหนึ่งที่เรียนจนพูดภาษาอังกฤษได้คือเจ้าจอมมารดากลิ่นในกรมพระนเรศวรฤทธิ์
    (ต้นสกุล กฤดากร)

    ล่วงมาถึงปลายรัชกาล คนไทยรุ่นแรกที่รู้ภาษาอังกฤษมากพอจะนำมา
    ใช้ในราชการงานเมืองได้มีอยู่ 5 คน คือ


    - พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ครั้งทรงดำรงพระยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
    ทรงศึกษากับครูสตรีและมิชชันนารีอื่นๆตั้งแต่ทรงพระเยาว์
    ต่อมาทรงศึกษาด้วยพระองค์เอง จนทรงแปลเรื่อง The Sleeper and the Waker
    ของเซอร์ริชาร์ด เบอร์ตันเป็นไทยได้ ชื่อว่า " นิทราชาคริต"


    - กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ หรือพระนามเมื่อครั้งประสูติ
    ว่าพระองค์เจ้ายอร์ช วอชิงตัน) พระโอรสพระองค์ใหญ่ใน
    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบภาษาอังกฤษบ้างพอตรัสได้
    และทรงถนัดเรื่องวิชาช่างเช่นเดียวกับพระชนกนาถ


    - พระยาอรรคราชวราทร(หวาด บุนนาค)บุตรพระยาอภัยสงคราม
    สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ฝากนายเรือรบอเมริกัน
    ไปเรียนวิชาทหารเรือ เรียนรู้ทางภาษากลับมารับราชการในกรมท่าและได้เป็นพระยาเมื่อชรา


    - พระยาอรรคราชวราทร (เนตร) บุตรพระยาสมุทบุรานุรักษ์
    ไปเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองสิงคโปร์จนใช้ได้ดี กลับมารับราชการ
    ได้เป็นขุนศรีสยามกิจ ผู้ช่วยกงสุลสยามที่เมืองสิงคโปร์ และหลวงศรีสยามกิจ
    ไวส์กงสุลสยามในเมืองสิงคโปร์ในรัชกาลที่ 4 ต่อมา ในรัชกาลที่ 5
    ได้เป็นพระยาสมุทบุรานุรักษ์ตามอย่างบิดาและพระยาอรรคราชวราทรคนแรก

    - เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) เป็นลูกหลานสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ทางบ้านส่งไปเรียนที่อังกฤษอยู่ 3 ปี ต่อมาเดินทางกลับพร้อมกับ
    เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ เมื่อครั้งเป็นราชทูตไปฝรั่งเศส
    ได้เป็นล่าม กลับมารับราชการเป็นนายราชาณัตยานุหาร หุ้มแพรวิเศษ
    ในกรมอาลักษณ์ พนักงานเชิญรับสั่งไปต่างประเทศ และเป็นราชเลขานุการภาษาอังกฤษตลอดรัชกาล

    สามัญชนที่เรียนวิชาความรู้จากฝรั่งคือนายจิตร อยู่กุฎีจีน
    เรียนวิชาถ่ายรูปกับบาทหลวงหลุยส์ ลานอดี ชาวฝรั่งเศส
    และนายทอมสันช่างถ่ายรูปชาวอังกฤษ จนตั้งห้างถ่ายรูปได้
    ได้เป็นขุนฉายาทิศลักษณะ และหลวงอัคนีนฤมิตร เจ้ากรมแกสหลวง

    ในปลายรัชกาลนี้เอง ราชการได้เริ่มส่งนักเรียนไทยชุดแรกไปเรียนต่อ
    ที่ยุโรป 3 คน สองคนที่ไปเรียนในอังกฤษคือนายโต บุตรเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์
    กลับมารับราชการในบั้นปลายได้เป็นเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์
    และนายสุดใจ บุตรเจ้าพระยาภาณุวง์มหาโกษาธิบดี(ท้วม)
    กลับมารับราชการได้เป็นพระยาราชานุประพันธ์ ส่วนคนที่สามคือนายบิน
    บุตรเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ ไปเรียนที่ฝรั่งเศส กลับมาได้เป็นหลวงดำรงสุรินทฤทธิ์


    ส่วนในสยาม มีผู้เรียนภาษาอังกฤษกับมิชชันนารีแล้วเข้ารับราชการอีก 6 คน
    บางคนไปเรียนต่อต่างประเทศ บางคนก็เข้ารับราชการโดยตรง
    ส่วนใหญ่จะเจริญรุ่งเรืองในราชการอย่างดี


    เมื่อมาถึงรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้จัดตั้งชั้นเรียนภาษาอังกฤษขึ้นที่
    โรงทหารมหาดเล็ก จัดครูฝรั่งมาถวายพระอักษรบรรดาพระเจ้าน้องยาเธอ
    เจ้านายที่ได้รับราชการเป็นเสนาบดีในรัชกาลที่ 5 อย่างสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
    ได้ทรงเล่าเรียนภาษาและวัฒนธรรมอังกฤษแทบทุกพระองค์ จึงทรงเป็นกำลัง
    สำคัญอย่างมากในการพัฒนาบ้านเมือง


    ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯยังโปรดเกล้าฯให้คัดเลือกลูกผู้ดีไทย
    รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ประมาณ 20 คน ส่งไปเรียนภาษาอังกฤษที่สิงคโปร์อีกชุดหนึ่ง
    สามคนในจำนวนนี้ได้ไปเรียนที่อังกฤษอีกด้วย คือ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์,
    หม่อมเจ้าเจ๊ก นพวงศ์ ในกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส และพระยาไชยสุรินทร์
    (ม.ร.ว. เทวหนึ่ง ศิริวงศ์) เป็นต้น คนไทยจำนวนน้อยนิดในรัชกาลที่ 3 และ 4
    ที่รู้ภาษาตะวันตกเหล่านี้ เป็นผู้วางรากฐานความสำคัญของภาษาและ
    วิทยาการตะวันตกให้เพิ่มพูนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 จนกลายเป็นความนิยมอย่าง
    แพร่หลายในหมู่ขุนนางข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่จะส่งบุตรหลานของตน
    ไปศึกษาต่อ ณ ทวีปยุโรป


    การเรียนรู้วิทยาการในประเทศตะวันตกในสมัยรัชกาลที่ 6 และ 7
    ในหมู่นักเรียนไทยนี้เองมีส่วนกระตุ้นให้เกิดความคิดอ่านที่จะมีส่วนในการปกครอง
    ประเทศ ตามระบอบประชาธิปไตยที่นักเรียนไทยเหล่านั้นไปเห็นมาในหลายประเทศ
    ในยุโรป จนกระทั่งนำไปสู่เสรีภาพทางหนังสือพิมพ์ การเรียกร้องสิทธิ์
    ในการมีส่วนปกครองประเทศ และจบลงด้วยการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน
    พ.ศ. 2475

  2. #2
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ สาวทุ่งฝน
    วันที่สมัคร
    Nov 2008
    ที่อยู่
    ห้องพี่สาว
    กระทู้
    490

    Re: นักเรียนนอกยุคแรก

    ฝนก็อยากจะเก่งๆ คือ คะเจ้าอยู่ดอกจ้า อิอิ

    อยากสิทำโตให้มีประโยชน์แก่บ้านเมืองคือคะเจ้า

    ช่างน่าชื่นชมสรรเสริญอย่างยิ่ง ฝนสิตั้งใจเรียน สู้ๆๆ

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •