อนาคต‘กูเกิล’ในเอเชีย




โลกของคนที่ชอบใช้อินเทอร์เน็ต หากต้องการข้อมูล รูปภาพ หรืออื่นๆ จะเสิร์ชในเว็บไซต์ยอดฮิตอย่าง Google แต่สำหรับคนเกาหลีใต้ยังมีเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลนอกเหนือจากกูเกิลคือ Naver ถึงขนาดบอกต่อๆกันว่าหากไม่รู้อะไรต้อง ask Naver หรือหาคำตอบจากนาเวอร์

ปัจจุบันชาวเกาหลีใต้ 35 ล้านคนใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำ และกว่า 76% นิยมหาข้อมูลจาก Naver ซึ่งดำเนินกิจการมา 9 ปี กลายเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมของคนทั้งประเทศ ส่วนเว็บไซต์ของยาฮูและกูเกิลนิยมเพียง 3%

Naver เติบโตมาจากการเป็น Web Portal หรือที่เรียกกันว่าเว็บท่า ซึ่งให้บริการทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล์ การซื้อขายสินค้า การสนทนาหรือ Chat และการหาข้อมูลข่าวสารด้านอื่น แต่การดำเนินงานแบบเว็บท่ามีคู่แข่งมากขึ้นและธุรกิจขยายตัวช้า Naver จึงต้องขยายฐานธุรกิจให้เป็นเว็บไซต์หาข้อมูล ทำให้มีคนเข้ามาดูเว็บไซต์นี้มากขึ้นประมาณวันละ 17 ล้านคน

สาเหตุที่ทำให้คนเกาหลีใต้นิยมใช้ Naver เนื่องจากยาฮูและกูเกิลเป็นเว็บไซต์หาข้อมูลที่เป็นอเมริกันมากเกินไป คือหาข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีใต้ได้น้อย ที่สำคัญคือคนเกาหลีใต้ไม่ถนัดใช้ภาษาอังกฤษ

อีกสิ่งหนึ่งที่มีใน Naver แต่ยาฮูและกูเกิลไม่มีคือบริการ “Knowledge Search” ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2002 หัวใจของบริการนี้คือให้นักท่องเว็บตั้งคำถามเข้ามาในเว็บไซต์แล้วจะมีคนป้อนข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ โดยค้นหาและจัดเรียงข้อมูลเหมือนดิกชันนารีบนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นรูปแบบบริการในลักษณะเดียวกับเว็บไซต์ Wikipedia

ความนิยมของ Naver ทำให้บริษัท NHN ผู้ดูแลกิจการเว็บไซต์นี้ ประกาศผลการดำเนินงานของปี 2008 มีกำไรถึง 1 ล้านล้านวอน หรือ 660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การดำเนินงานของ Naver ทำให้ธุรกิจของกูเกิลขยายตลาดลำบากในเกาหลีใต้ รวมถึงจีนด้วย เพราะในจีนมีเว็บไซต์ Baidu เป็นเจ้าตลาดให้บริการหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังเป็นเว็บท่าภาษาจีนที่คนในประเทศและคนจีนทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด แต่เมื่อปีที่แล้วพบว่าธุรกิจของ Baidu ได้รับผลกระทบจากการที่ผลิตภัณฑ์นมปนเปื้อนสารเมลามีนลงโฆษณาในเว็บไซต์นี้ ทำให้รายได้ของ Baidu หดหายแต่ไม่มากนัก

การดำเนินงานของกูเกิลในจีนมีจุดเด่นคือเจาะตลาดโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต โดยส่วนแบ่งการตลาดของกูเกิลอยู่ที่ 4.4% ส่วน Baidu มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 2.9% ทั้งนี้ Baidu ต้องหารายได้จากการโฆษณาผ่านหน้าเว็บไซต์ของตัวเองให้มากขึ้น โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการลิงค์เว็บไซต์ไปยังที่ต่างๆที่เข้ามาลงโฆษณาใน Baidu

ส่วนที่ญี่ปุ่นดูเหมือนว่ากูเกิลจะขยายตลาดเว็บไซต์หาข้อมูลได้สูสีกับเจ้าถิ่นคือ ยาฮู เจแปน เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่ให้บริการทั้งหาข้อมูลและธุรกิจอื่นๆ โดยกูเกิลมีส่วนแบ่งการตลาดในญี่ปุ่นไม่ถึง 40% แต่ยาฮู เจแปน มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50%

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ยาฮู เจแปน และกูเกิลอาจต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันอย่างหนักในส่วนของเว็บไซต์หาข้อมูลในตลาดญี่ปุ่น เพราะมีข่าวว่า Naver จากเกาหลีใต้กำลังกระโดดเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดในญี่ปุ่น และตีตลาดกูเกิลในอเมริกาด้วยเช่นกัน เพราะมีการออกเว็บไซต์ชื่อ Naver California, Naver Korean-American และ Naver Chinese-American

หากเป็นเช่นนั้นจริงธุรกิจกูเกิลในเอเชียกำลังลำบาก และ Naver อาจสร้างความลำบากให้กับกูเกิลในภูมิภาคอื่นๆด้วย