เสียงจักจั่นร้อง ดังจากป่าริมห้วยใกล้บ้าน เป็นสัญญาณบอกว่าหน้า
ร้อนมาเยือนถิ่นอีสานอีกแล้วเด้อ.. เมื่อฉันยังเด็ก ฉันเป็นคนหนึ่งที่รักฤดูร้อนมากกว่าฤดู
ใหน ๆ ปิดเทอมยาวไม่ต้องไปโรงเรียน เด็กในชนบทอย่างฉันไม่ต้องเรียนกวดวิชา และมี
เรื่องให้ทำให้เล่นมากมายในหน้าร้อน ฉันเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กเลี้ยงที่อายุน้อยที่สุด จึงไม่
แปลกที่ฉันจะได้รับความเอาใจใส่ดูแลจากพี่ ๆ ญาติ ๆ ที่เป็นเพื่อนเด็กเลี้ยงควายด้วยกัน
ฉันมีควายในความดูแล 4 ตัว ทุกเช้าฉันจะปล่อยควายออกไปสมทบกับคนอื่น ๆ ที่ทุ่งนา
ทุ่งนาหน้าแล้งเปรียบเสมือนห้องเรียนให้ฉันเรียนรู้ได้ไม่รู้จักจบสิ้น ตั้งแต่ใต้ดินไปจนถึง
ยอดไม้ ห้องเรียนธรรมชาติที่เปิดสอนโดยไม่คิดค่าหน่วยกิต ไม่มีการบ้านที่ต้องทำส่ง
สอนทุกวิชาโดยเฉพาะวิชาชีววิทยา วงจรชีวิตแมลงตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้ดินเรื่อยไปจนถึงรัง
มดแดงที่อยู่บนปลายไม้ ฉันรู้ว่าเมื่อไหร่ตัวเบ้าที่กลิ้งมูลควายเพื่อทำรังจะมีตัวอ่อนสีขาว
ให้ฉันขุด ฉันนับเวลาที่มดแดงจะมีไข่ได้อย่างแม่นยำ และผลไม้ป่าที่มีในหน้าร้อน ฉันรู้ว่า
ต้นเดือยไก่ที่อยู่ปลายนาพ่อใหญ่นงค์จะสุกเมื่อใด ฉันรู้ว่าหลังฝนที่ตกในช่วงหน้าร้อนจะ
มีดอกกระเจียวสีขาว สีแดงโผล่พ้นดินให้ฉันเก็บไปให้แม่ลวกจิ้มน้ำพริก ตามโคนต้นไม้
เล็ก ๆ จะมีกองดินเล็ก ๆ มันคือที่อยู่ของแมลงตัวเล็ก ๆ ชื่อแมงจิ๊นูน ใช้เสียมขุดลึกลงไป
เพียงฝ่ามือจะพบแมลงตัวเล็กหมกตัวอยู่ใต้ดิน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ฉันเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
ผ่านมา 10 กว่าปีแล้วความทรงจำนี้ยังแจ่มชัดเหมือนเพิ่งจะผ่านมาเมื่อวาน หน้าร้อนในปี
นี้มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไป ไม่มีควายให้ฉันเลี้ยง เพื่อน ๆ ร่วมซนในวัยเด็กแต่งงานมีครอบ
ครัว แม้แต่ตัวฉันยังเปลี่ยนไปมีเรื่องให้คิดให้ทำให้รับผิดชอบมากกว่าควาย 4 ตัว ในความ
เปลี่ยนแปลงมีบางสิ่งเหมือนกันที่ยังเหมือนเดิม ดอกจานยังออกดอกสีส้มสดท้าทายไอ
แดดเหมือนเดิม ดอกคูณเหลืองอร่ามอยู่กลางทุ่งเหมือนมันกำลังบานเย้ยหยันความแห้ง
แล้ง หากชีวิตของเราแกร่งได้อย่างต้นคูณคงจะดีไม่น้อย แม้มีเรื่องร้ายแรงเพียงใดก็ยืนรับ
ได้อย่างสง่างาม นกเอี้ยงร้องเหมือนทะเลาะกันได้ยินมาแว่ว ๆ สายลมที่พัดมากระทบผิว
กายไม่ได้เย็นอย่างที่ควรจะเป็น มันพัดพาเอาไอแดดอันร้อนระอุเข้ามาด้วย วันนี้ฉันหนี
ร้อนจากเมืองใหญ่มารับลมที่บ้าน อีกครั้งที่กลับบ้านหลังจากไม่ได้กลับนาน กลับมาคราวนี้
ฉันสังเกตเห็นอีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลง สีผมของพ่อกับแม่เริ่มมีสีขาวขึ้นแซม รอยย่นบน
หน้าผากและหางตาเริ่มเห็นชัดขึ้น ถนนหน้าบ้านที่เป็นเพียงถนนลูกรังเมื่อ 10 กว่าปีก่อน
เปลี่ยนเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ไม่มีฝูงควายที่ถูกต้อนลงทุ่งผ่านถนนเส้นนี้ จะมีก็แต่
วัวตัวใหญ่หูยาวไม่กี่ตัว ที่ฉันไม่ค่อยคุ้นเคย คนที่เลี้ยงวัวไม่ใช่เด็ก ๆ แต่เป็นผู้ใหญ่ ฉัน
เลยตั้งความถามกับตัวเองว่า เด็กเลี้ยงควายไม่มีแล้วใช่ไหม ปิดเทอมไม่ได้ไปโรงเรียน
เด็ก ๆ เขาทำอะไรกัน มีเสียงมอเตอร์ไซด์ดังมาตามถนนหน้าบ้าน เป็นคำตอบให้ฉันว่า
เด็ก ๆ เขาทำอะไรเมื่อโรงเรียนปิดเทอม มีเด็ก 4 คนนั่งอัดมาบนเบาะมอเตอร์ไซด์ ย้อม
ผมหลากสีสัน นี่คือสิ่งที่เด็กทุกวันนี้เขาเล่นกันช่วงปิดเทอมสินะ.. เขาคงจะสนุกในแบบ
ของเขา มันจะสนุกเท่ากับการได้ปีนต้นไม้ กระโดดน้ำ ยิงกิ้งก่า ยิงนก ด้วยหนังสติ๊ก
เหมือนเมื่อฉันเป็นเด็กเลี้ยงควายหรือไม่นะ พ่อแม่เขาคงไม่มีควายให้เลี้ยงเหมือนเมื่อ
ก่อน อะไรทำให้วิถีชีวิตคนในหมู่บ้านฉันเปลี่ยนไป ค่านิยมวัวหูยาว ถนนคอนกรีต ยาย้อม
ผมสีต่าง ๆ ที่เข้ามาพร้อมร้านมินิมาร์ท กลับบ้านคราวนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าหมู่บ้านฉันเปลี่ยน
ไปแล้วจริง ๆ แต่ฉันไม่ได้โหยหาให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นกลับมา ฉันจะคิดถึงมันด้วยความสุข
ใจ ว่าฉันโชคดีกว่าเด็กสมัยนี้ที่ได้เรียนในห้องเรียนธรรมชาติ ได้เรียนวิชาชีววิทยาด้วยตัว
เอง ได้ปีนต้นไม้ กระโดดน้ำ ยิงหนังสติ๊ก ที่สำคัญได้เลี้ยงควาย
ขอบคุณพี่น้องบ้านมหาทุกท่านค่ะ ที่สละเวลาอ่านจนจบกรุณาติชมได้ค่ะเขมราฐน้อมรับด้วยความเต็มใจ:)
Bookmarks