เรื่อง ผมชื่อหล่า
ตอนอยู่กับคุณป้า
..................................................................
ผมหรือครับผมชื่อหล่าครับ บ้านอยู่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ไกลจาก
อำเภอประมาณ 20 กิโลเมตร อำเภอที่ผมอยู่หรือครับ
ก็เป็นอำเภอเล็กๆ อีกนั่นแหละครับ
บ้านผมทำนา พ่อมีอาชีพทำนาและเป็นช่างไม้รับจ้างงานทั่วไป
บางครั้งมารับจ้างที่ในตัวอำเภอ พ่อก็จะไม่ได้กลับบ้าน
พ่อมีมอเตอร์ไซด์เก่าๆ คันหนึ่งที่ใช้วิ่งเข้าอำเภอเวลาไปทำงาน และซื้อของ
ผมหรือครับย้อนอดีตไปหลายปีแล้ว ตอนผมเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หก
นั่นแหละครับ พอผมเรียนจบ เนื่องจากพ่อแม่ค่อนข้างยากจน
แม้จะมีรายได้เสริมเข้ามาก็ยังถือว่าจนอยู่ดีแหละครับ
เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่หกแล้ว พ่ออยากให้ผมได้เรียนต่อ
ผมเองก็อยากเรียนต่อด้วย แต่บ้านเราไกลมากเหลือเกิน
โรงเรียนในสมัยนั้นแถวบ้านผมก็มีแค่โรงเรียนประถมศึกษาเท่านั้นเอง
วันหนึ่งช่วงผมสอบเสร็จแล้ว พ่อตัดสินใจให้ผมได้เรียนต่อในอำเภอ
แต่ติดที่เราไม่มีรถมาเรียนและบ้านก็อยู่ไกลมากสำหรับเด็กเล็กๆ เช่นผม
พ่อจึงนำผมไปฝากไว้กับคุณป้าที่ตลาดของอำเภอ
คุณป้าที่ผมพบครั้งแรกหรือครับ ก็เป็นหญิงวัยกลางคน เป็นคนจีน
บ้านคุณป้าเป็นตึกแถวสามชั้นหลังใหญ่ในตลาดครับ เมื่อก่อนคุณป้าขายของ
แต่ปัจจุบันไม่ได้ขายแล้ว คุณป้าอยู่กับคุณลุงที่ป่วยเป็นอัมพาต
ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ลูกคุณป้ามีสองคน คนหนึ่งลูกชายเป็นคุณหมออยู่ที่
จังหวัดนครศรีธรรมราชและมีครอบครัวอยู่ที่นั่น นานๆ ที
คุณพี่ผู้ชายถึงจะกลับบ้านทีหนึ่ง ส่วนคนสุดท้องของคุณป้าชื่อคุณพี่อ้อม
เรียนทุนระดับปริญญาเอก อยู่ที่ประเทศอเมริกา
พอพ่อผมเอ่ยปากฝากผมกับคุณป้าหรือครับ คุณป้ามองดูผมปาดเดียว
แบบใช้สายตาพิเคราะห์นะครับ แล้วก็เอ่ยปากออกมาเลยว่า
"ท่าทางลูกนายทีปนี่ ใช้ได้นะ คล่องแคล่วเชียวละ คิดว่าน่าจะอยู่กันได้นะ"
"ครับผม ลูกผมชื่อหล่า ครับ จะผิดจะถูกอย่างไร เจ้ดูแลด้วยนะคะ
ผมอนุญาตให้เจ้ตีบักหล่าผมได้ ถ้าเขาทำไม่ดีครับ"
พ่อพูด บอกคุณป้าแบบนี้แหละครับ
"โอ้ย นายทีป ฉันไม่ใจดำตีเด็กตาแป๋วแหว๋ว ท่าทางฉลาดได้ดอกน่า
จะรับดูแลเอง" คุณป้ารับปากที่จะให้ผมอยู่ด้วย
"ขอบคุณเจ้มากนะครับ งั้นเปิดเทอม ผมจะเอาบักหล่าของผม
มาฝากอยู่กับเจ้ นะครับ" แล้วพ่อก็พาผมก็กลับบ้าน
จากนั้นไม่นานผมก็เข้ามาอำเภอ มาสมัครเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่ง
และสอบเข้า ซึ่งผมก็สอบผ่านอยู่แล้ว แต่เวลาเข้าอำเภอทุกครั้ง
พ่อจะพาผมไปเยี่ยมคุณป้าเสมอ พร้อมของฝากจากป่า
ซึ่งพ่อจะเข้าป่าข้างบ้านหาพวกเห็ดบ้าง หน่อไม้บ้าง ยอดผักบ้าง
มาฝากคุณป้าสม่ำเสมอ
ผมได้เข้ามาอยู่บ้านคุณป้า เมือตอนเปิดภาคเรียน ผมหรือครับก็จะได้เริ่มชีวิต
กึ่งในเมืองเสียที หลังจากตลอดชีวิตที่ผ่านมาอยู่ห่างไกลความเจริญมามาก
บ้านคุณป้ามีสามชั้น แต่มีคนอยู่น้อยมาก คุณป้าอยู่กับคุณลงที่ป่วย
มีลูกจ้างทำงานอยู่สองคน ซึ่งก็ทำงานบ้าน ทำครัว ดูแลคุณลุงในตอนกลางวัน
ผมเมื่อเข้าไปอยู่ในบ้าน คุณป้าให้นอนกับคุณลุงคอยช่วยเหลือ
คุณลุงในตอนกลางคืน เพราะเวลาไปห้องน้ำจะได้มีคนดูแล
คุณลุงพอช่วยตัวเองได้บ้าง แต่ในตอนกลางคืนถ้าคุณลุงต้องการเข้าห้องน้ำ
ผมก็จะพยุงคุณลุง และทำธุระในห้องน้ำ ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากมาย
ระดับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งอย่างผมจะทำไม่ได้
เวลาทานอาหาร คุณป้าจะให้ผมร่วมวงทานกับคุณป้าด้วย
ซึ่งถือว่าให้เกียรติผมมาก อย่างน้อยก็อยู่ในระดับลูกหลานเลย
ส่วนคุณลุงก็นั่งรถเข็นมาทานอาหารร่วมกับเราได้
มีพี่ดีที่เป้นลูกจ้างในนั้นคอยป้อน
แต่การมาอยู่ครั้งแรกของผม ที่เพิ่งจากบ้านนามาผมก็ต้องปรับตัวมาก
อย่างน้อยก็เกรงใจคุณป้า คุณลุงมาก ไม่ค่อยกล้าทำอะไรที่ไม่ถูกใจ
ธุระส่วนตัวของผม ผมก็จะพยายามให้เสร็จในตอนเช้าเท่าที่จะทำได้
เวลาตื่นของผมไม่เป็นปัญหาเพราะทางบ้านผมตื่นตั้งแต่ตีสาม
ซึ่งเวลามาอยู่ในอำเภอแบบนี้ ผมเลยไม่ต้องปรับตัวในเรื่องนี้เลยละครับ
พ่อมาเยี่ยมผม เอาเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่ายด้านอาหารกลางวัน
และเครื่องเรียน ผมสงสารพ่อมากครับที่บ้านเราก็รายได้ไม่มีเลย
พ่อต้องมีภาระมาเพิ่มกับผมอีกมาก ผมนอนคิดมากหลายคืน
เนื่องจากสงสารพ่อมากที่ต้องรับภาระกับตัวผมเพิ่มอีก
คุณป้าคงสังเกตุเห็นผมซึมๆ ไป คุณป้าไม่ถามดอกครับว่าสาเหตุอะไร
ที่เด็กตัวกระเปี๊ยกแบบผมต้องซึมลง คุณป้าถามผมขึ้นมาลอยๆ
ขณะรับประทานอาหารเย็นวันหนึ่ง
"หล่า หล่าอยากได้งานพิเศษทำตอนเย็นไหม ป้าจะไปฝากให้"
"อยากครับ ผมสงสารพ่อ ไม่อยากเรียนต่อเพราะห่วงทางบ้าน
เงินพ่อก็คงหามาด้วยความยากลำบากมากนะครับคุณป้า"
ผมอธิบายตามประสาซื่อๆ ของผม
ผมไปเรียนตอนเย็นเลิกกลับบ้านคุณป้า พบคุณป้ารออยู่แล้ว
และบอกให้ผมไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ไม่ให้เหม็นเหงือแบบนี้อีก
คุณป้าพาผมเดินเลาะตึกแถวแถวนั้น มาร้านรับส่งพลาสติกในตลาด
มีรถกะบะจอดอยูหน้าร้านหลายคัน มีคนเอาของขึ้นรถจนเต็ม
ได้ความว่ารถที่มารับพลาสติกและสินค้าเบ็ดเตล็ดจากร้านนี้
เพื่อเอาไปขายตามตลาดนัดนั่นเอง
คุณป้าบอกกับเจ้าของร้านว่า
"ไพ รับเด็กคนนี้ไว้ทำงานตอนเย็นด้วยนะ ท่าทางขยัน
อดทน ให้เขาช่วยงานตอนเย็นเลิกเรียน นะไพ"
"ถ้าคุณป้ามาฝาก ไพก็ไม่ขัดข้อค่ะ จะให้ทำงานตอนเย็น
ช่วยเอาเครื่องพลาสติกขึ้นรถ"
ผมก็ได้มีรายได้พิศษ มาตราฐานห้าสิบบาท สำหรับตอนเย็น
บางวันคุณประไพเจ้าของร้านก็ให้เงินเพิ่มขึ้นอีก เมื่อมีรถมารับของมากขึ้น
ผมหรือครับมีหน้าที่แบกกะละมัง พลาสติก และสินค้าตามต้องการขึ้นรถช่วยพี่เขา
ซึ่งก็ไม่ยุ่งยากอะไรเพราะเป็นงานเบาๆ ไม่มาก แต่ที่สำคัญคือ
ผมมีรายได้ประจำ ซึ่งเป็นส่วนดีที่ผมไม่ต้องรบกวนพ่อผมต่อไป และผมเริ่มรู้แล้วว่า
ผมจะหารายได้อย่างไรต่อไปในอนาคต ช่วยเหลือตัวเองได้
คุณป้าหรือครับ ท่านก็นั่งยิ้มกับบุญกุศลครั้งนี้น่ะครับ
จบตอนที่ 1 โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
Bookmarks