ประวัติอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ประวัติอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย



สถานที่ตั้ง................กลางวงเวียนสี่แยกถนนราชดำเนินกลางตัดกับถนนดินสอ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ประวัติความเป็นมา.................. รัฐบาลสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สร้างอนุสาวรีย์นี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการที่คณะราษฎร ได้ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นอนุสรณ์ให้ชนรุ่นหลัง ได้เห็นความสามัคคีกลมเกลียวของประชาชน ทั้งเตือนใจให้ระลึกถึงและช่วยกันพิทักษ์รักษาเทิดทูนรัฐธรรมนูญให้สถิต สถาพรเป็นหลักของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย

ความสำคัญค่าชุมชน
................ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นอนุสรณ์ที่ระลึกที่ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประ ชาธิปัตยมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ปัจจุบันมักจะเป็นสถานที่ชุมนุม รวมตัวกันในการประท้วงหรือเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งสำคัญ ๆ อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศ

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม................. กรมศิลปากรดำเนินการก่อสร้าง โดยศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี เป็นผู้ออกแบบ และดำเนินการปั้นร่วมกับศิษย์ ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓ อนุสาวรีย์แห่งนี้ออกแบบโดยแฝงความหมายของการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวัน ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ ดังนี้ ปีกทั้ง ๔ ด้าน วัดส่วนสูงจากฐานล่าง ๒๔ เมตร พื้นฐานมีรัศมียาว ๒๔ เมตร ก็หมายความถึงวันที่ ๒๔ พานรัฐธรรมนูญ ตัวพานหล่อสำริด อยู่เหนือป้อมใหญ่สูง ๓ เมตร หมายความถึงเดือน ๓ แห่งปี คือ เดือนมิถุนายน (นับจากเดือนเมษายน เป็นเดือนแรกอย่างเก่า) ปืนใหญ่ ๗๕ กระบอก ฝังปากกระบอกลงดินโดยรอบอนุสาวรีย์ มีโซ่ร้อยเว้นเฉพาะช่องทางขึ้น ๔ ทาง หมายถึง ปีพุทธศักราช ๒๔๗๕ พระขรรค์ ๖ เล่ม ติดอยู่ที่ประตูป้อมทั้ง ๖ ด้าน หมายถึง หลัก ๖ ประการอันเป็นนโยบายในการปกครองประเทศของคณะราษฎร ภาพปูนปั้นประกอบติดที่ฐานล่างของปีกทั้งสี่ แสดงประวัติการณ์ของคณะราษฎร์ในการเปลี่ยนแปลง การปกครอง อนุสาวรีย์ประดิษฐานอยู่บนลานวงกลม ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ที่ฐานด้านนอกของปีกทั้งสี่ ก่อเป็น อ่างน้ำพุ เหนืออ่างเป็นรูปพญานาคพ่นน้ำลงในอ่าง