หนึ่งชีวิตของคนๆหนึ่งที่ทำงานและรอคอยเวลาเงินเดือนออก
แต่ละเดือน แต่ละเดือน ทำงานไปแบบไม่คิดอะไร ไม่เคยใส่ร้าย หรือพูดให้ร้ายใคร
ตั้งหน้าตั้งตาทำตามหน้าที่การงานไปอย่างซื่อสัตย์ แม้เงินเดือนจะน้อยนิด
พอถึงเวลาคนที่ได้หน้าได้ตา กลับเป็นคนที่ใช้ปากทำงาน เข้าหาผู้ใหญ่
มันก็คงไม่แปลกเท่าไรถ้าเนื้องานเขาได้อย่างที่คุย แต่กลับเป็นเราที่รับหน้างานมากมาย
แต่สิ่งที่ได้รับ ก็คืองานล่าช้า ทำงานไม่เรียบร้อย พูดแล้วน่าเศร้าใจ ในเมื่อเราใช้ปากไม่เก่ง
ก้มหน้าก้มตาทำงาน ทำหน้าที่ของตัวเองไป งานเยอะทำไม่ทันผลคือเราทำช้า
คนทำงานน้อย โม้เก่งกลับได้เลื่อนขึ้นไปอย่างน่าอิจฉาแต่หนึ่งชีวิตคงไม่ถึงกลับต้องสิ้นหวัง
เพราะการที่เราสิ้นหวังก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายไปแล้ว วันนี้ยังมีกำลังใจต่อสู้ แม้ว่า
ความเป็นอยู่จะลำบาก แต่ยังมีรอยยิ้มทุกครั้งที่รู้ว่าสู้เพื่อใคร ได้ฟังเสียงคนไกลๆ
ที่รอคอยเราอยู่ จากบ้านนา พ่อและแม่ น้องที่ยังรอคอยความหวังจากพี่ชาย
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนพี่ชายของเขา จะประสบความสำเร็จ คำของแม่ยังแว่วให้ได้ยิน
กับประโยคสั้นๆที่แม่พูดเสมอๆว่าอดทนนะลูก ทำให้การต่อสู้ในฐานะลูกจ้าง
ยังมีแรงสู้ไหว ท่านๆที่นั่งอ่านกระทู้นี้คงจะคิดว่าเด็กคนนี้บ่นอะไร ::)
วันนี้บ่าวจันทร์ได้ยินคำจากเพื่อนร่วมงาน มันเหมือนการโดนแทงข้างหลัง
เลยทำให้รู้สึกว่าเมืองใหญ่เมืองนี้ ไม่มีความจริงใจให้กันเลยใช่ไหม
ต่อหน้าอย่างข้างหลังเราอีกอย่าง เคยได้ยินแต่เขาพูดให้ฟังเล่าต่อกันมา
วันนี้ได้รู้กับตัวเอง โดนกับตัวเอง น้ำตาแทบไหล แต่ก็ร้องไม่ออกเพราะ
คำว่า "อดทนนะลูก" เลยกลับทำให้เราโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแรงเสียดทาน
ที่ได้พบเจอมา ทำให้เราแข็งแรงมากขึ้นพร้อมที่จะเจอกับปัญหาที่จะเข้ามาอีกมากมาย
คำแนะนำดีๆกำลังใจดีๆยังช่วยได้เสมอเวลาท้อแท้และเดียวดาย คงมีไม่น้อย
ที่เป็นเด็กตามฝันจากบ้านไกล แบกกระเป๋าความหวังจากท้องทุ่ง มุ่งสู่เมืองใหญ่
ฝ้ายผูกแขนเส้นขาวที่บรรจงผูกพร้อมกับคำอวยพร ยังดังก้องเสมอๆ ที่ได้จับฝ้าย
ความท้อแท้และโดดเดี่ยวคงไม่ต่างกัน แต่ยังมีกำลังใจดีกันอยู่
กับชีวิตลูกจ้างในเมืองใหญ่ทำให้เราต้องสู้ต่อ สักวันคงจะมีวันของเรา
Bookmarks