ใช่หล่ะ เพียงใจ เวลานี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ นึกพลางก็คว้ามือหยิบเอาวิทยุ ที่เป็นของขัวญวันจาก ที่ครูเพียงใจ มอบให้
เป็นของฝากแทนความห่วงใย และเปิดวอลลุมขึ้นเล็กน้อย พลางได้ยินเสียง นายสถานี พูดขึ้นว่า
"เพลงที่กำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ในเวลานี้สำหรับนักร้องใหม่ เผิ่งเข้าวงการ และได้บันทึกเสียงออกมาแค่ สองเพลง
ซึ่งเพลงนี้คือเพลงแรกที่เค้านำมาโฆษณา นามแสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ในเพลง แห่ขันหมาก"
[MUSIC]jolo/kamthorn/sangsuri.wma[/MUSIC]
ฮือ แห่ขันหมากเหรอ เมื่อไหร่หล่ะเรา ครูกำธรพึมพำกับตัวเอง และหวนนึกถึง เพียงใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างเขาและเธอ
ครูเพียงใจ และ ครูกำธร เดิมรู้จักมักคุ้นกันมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ช่วงเริ่มวัยหนุ่มน้อย สาวน้อย เพราะว่าแม่ของครูทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน
และคุ้นเคยกัน ทั้งคู่ทำงานเป็นพญาบาล ที่โรงพยาบาล สรรพสิทธิประสงค์ ประจำจังหวัดอุบลฯ
ด้วยความที่แม่เป็นเพื่อนรักกัน ทั้งคู่จึงได้รู้จักกันและพบกันอยู่บ่อย จนในที่สุดพอเลือกเรียนต่อวิชาชีพ
คุณพ่อของครูกำธรได้แนะนำให้เรียนต่สายวิชาชีพครู ด้วยพ่อเองก็มีอาชีพเป็นครู และส่วนหนึ่งก็ยังช่วยดูแลภาคการศึกษาประจำจังหวัด
ส่วนครูเพียงใจ เลือกเรียนครูด้วยกัน เนื่องจากคำแนะนำของแม่เธอ(เบื้องหลังแม่ครูเพียงใจ อยากให้ครูเพียงใจ
คบหากับครูกำธรไปด้วยกันจนแต่งงาน) ด้วยความที่คนทั้งสอง เป็นคนหน้าตาดีจึงต่างก็พอใจซึ่งกันอยู่ พร้อมทั้งจาก
การกระเซ้าของแม่ทั้งสองคน ทั้งคู่เลยพลอยตกหลุมผู้ใหญ่ไปตามวิถี
ครูกำธร ได้คุยกับครูเพียงใจ ในวันหนึ่งหลังจากที่เรียนจบ และจะได้มีโอกาสไปเป็นครูในโรงเรียนประจำจังหวัด
จากการจัดหาของคุณพ่อครูกำธร นั่นเอง
"เพียงใจ เค้าอยากจะไปเป็นครูชนบท ตัวจะคิดยังไง" ครูกำธรถามขึ้นในวันหนึ่ง หลังจากจบภาคการศึกษา
"อืม ทำไมหล่ะ เดี๋ยวเราก็จะได้เป็นครูที่โรงเรียนเบญฯ แล้วนี่ ตัวไม่อยากทำที่นี่เหรอ" ครูเพียงใจมองด้วยความฉงน
"เพียงใจ เราเรียนมาด้วยกันก็หลายปี คบกันมาก็หลายปี ต่อไปนี้หน่ะ เราจะต้องทำงานด้วยกันอีก คิดว่าคงจะตลอดชีวิตนี้นะ
เราไม่เคยปฎิเสธ ความดี และความเอื้ออาทร ที่เพียงใจดีกับเค้ามาตลอด รวมถึงครอบครัวเราทั้งคู่ด้วย"
"แล้วยังไงอีกเหรอ เค้าว่าชีวิตเราทั้งคู่ก็สุดแสนจะวิเศษเลยนะ ตัวรู้สึกว่าเรายังขาดอะไรไปอีกเหรอค่ะ"
ครูเพียงใจพูดไปพลางจ้องหน้าครูกำธร แบบนิ่งคิด
"พ่อกับแม่ เพิ่งคุยกะเค้าเมื่อวานว่า ท่านอยากให้เค้ากับตัว แต่งงานกัน หลังจากเราทั้งคู่เข้าทำงานที่โรงเรียนเบญจะมะ
สักหนึ่งปี และจะทำการบรรจุเป็นครูประจำให้ ถ้ามองว่ามันไม่มีอะไรเลย เค้าก็คิดว่ามันก็ดีหรอก แต่สำหรับเค้าแล้ว
เค้ากำลังรู้สึกว่า นี่ชีวิตตัวเราเองแท้ ๆ ทำไมพ่อกับแม่ต้องจัดการเราไปซะทุกอย่าง ทุกเรื่องเลย" ครูกำธรพูดดูขึงขังขึ้น
"กำธร ใจจริง ๆ เลยเค้าก็เคยคิดเรื่องนี้นะ เค้าอาจจะคิดมาก่อนตัวด้วยซ้ำไปก็ได้ ตั้งแต่ตอนที่แม่ให้เค้าเรียนครู
และต้องไปเจอตัวเรียนครูอยู่ด้วย แต่เค้าเป็นลูกผู้หญิง เค้าจะขัดมาก หรือพูดมากไปก็ใช่ที่ เค้าเข้าใจจุดประสงค์ของแม่
เค้านะ แม่ตัวและแม่เค้า อยากให้เราคบกันหน่ะแหละ" ครูเพียงใจ พูดไปพลางก้มหน้านิด ๆ
"เค้าเพิ่งพูดขัดใจพ่อกับแม่เมื่อวานเอง หลังจากที่ท่านเล่าจุดประสงค์ของท่านให้เค้าฟัง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงว่าเค้าไม่พอใจ
อะไรตัวนะเพียงใจ เค้าบอกท่านทั้งสองไปว่า เค้าตามใจท่านมาตั้งแต่เด็กจนเรียนจบ ท่านขีดเส้นชะตาชีวิตให้เค้ามาตลอด และสุดท้าย
ยังจะให้เค้าทำงาน และแต่งงานกับตัวให้จบสิ้น ตามที่ตั้งใจ แม้แต่ฝึกวิชาชีพครูท่านยังให้เค้ากับตัวฝึกงานในจังหวัด เค้าไม่ใช่
เด็กเล็ก ๆ ที่จะคิดและตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เอาเสียเลย" ครูกำธรพูดดูจริงจัง
"กำธร แล้วตัวอยากจะไปไหนหรือ ไปทำอะไรเหรอ ถ้าไม่อยากเป็นครูที่เบญจะมะ" ครูเพียงใจ จ้องหน้าครูกำธร
"เค้าอยากไปเป็นครูชนบท เค้าอยากจะเป็นครู ผู้ให้จริง ๆ ที่ไหนก็ได้ที่มีการขอโควต้าครูไปช่วย ถ้าพ่อไม่อยากให้ไปไกลนัก ก็ภายในจังหวัดนี้ก็ได้
อีกอย่างเค้าอยากจะ อืมมม เฮ้อ" ครูกำธรพูดไปเม้มที่มุมปาก
"ตัวบอกมาเหอะ เค้าจะไม่เสียความรู้สึกอะไรเลย ขอให้เป็นความตั้งใจของตัว เค้ายินดีสนับสนุนตัวทุกอย่างนะ"
ครูเพียงใจ พูดไปพร้อมพยักหน้ายืนยัน
"เพียงใจ ตัวเคยรู้สึกอะไรไม๊ ว่าทุกวันนี้...เราคบหากันในความรู้สึก ของคนที่รักกันจริง ๆ หรือ เราเหมือนเพื่อนรักกัน"
ครูกำธร พลางหลบตาในคำพูด
"เค้า..เค้าไม่รู้หรอก ว่ารักแบบที่ว่าคนรัก หรือเพื่อนรักมันแตกต่างกันตรงใหนบ้าง สำหรับเค้านะค่ะ เค้ารู้แต่ว่าเค้ามักคุ้นกับตัว
เกือบสิบปีแล้วมั้ง เค้าจำไม่ได้ด้วยว่าวันแรก ๆ เราเจอกันยังไง รู้แต่ว่าตั้งแต่เรียน ปอ.ห้า จนจบ ปกศ.เนี่ย เค้ากับตัวก็รู้จักกันมาโดยตลอด
และที่คบกันมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะว่าส่วนหนึ่ง ผู้ใหญ่เราทั้งคู่ อยากให้เราคบกัน และเค้าก็รู้สึกดี ดี กับตัวมาเสมอนะ หรือตัวว่าไงเหรอ"
ครูกำธร นิ่งไปสักพัก
"เค้าก็รู้สึกดี กับตัวเสมอมานะ เราเองแทบไม่เคยทะเลาอะไรกันเลยด้วยซ้ำไป มีแต่แสดงความเห็นอก เห็นใจซึ่งกันและกัน อันนี้เค้าก็เข้าใจดีมาโดย
ตลอด ส่วนหนึ่งเค้าถึงอยากจะห่าง ๆ กับตัวดูบ้างเหมือนกันว่า เค้ากับตัวจะรู้สึกต่อกันยังไงบ้าง เพราะที่ผ่านมา เราทั้งคู่ก็แทบไม่ได้
ห่างกันไปไหนด้วยซ้ำ อีกหย่าง ถ้าความห่างจะทำให้เราคิดถึงกันมากขึ้น หรือ อย่างไรก็ตามที ถ้าเราคิดถึงกันและรู้สึกขาดจากกันไม่ได้
ก็น่าจะเป็นบทพิสูจน์ว่าเราทั้งคู่ คงจะแยกจากกันไปไหนเสียไม่ได้แน่ ส่วนเรื่องความตั้งใจของผู้ใหญ่ก็น่าจะสมหวัง"
"จ๊ะ เค้าก็อยากรู้ความรู้สึกของตัวเองเหมือนกันแหละ ว่าถ้าต้องห่างกับตัวไปจริง ๆ แล้วหล่ะก็ เค้าจะเป็นยังไง เค้าจะคิดถึงตัวมากแค่ไหน
หรือเค้าจะเป็นยังไง แต่อย่างไรก็ตาม เค้าคิดเสมอนะว่า เค้าคงจะเป็นห่วงตัว ไม่ว่าตัวจะไปไหน หรือ จะไปทำอะไรก็ตาม"
"ข้อนี้ เค้าก็คิดว่า เค้าคงไม่ต่างจากตัวหรอก เค้าไม่อยากให้ตัว เจ็บ ไข้ ได้ป่วย อะไรเลย ถ้าเค้ามีพรวิเศษนะ" ครูกำธร พูดพลางอมยิ้มเล็ก ๆ
"เออน่า ถึงตัวจะไม่มีพรวิเศษอะไร เค้าก็ไม่อยากเป็นหรอก อย่างที่ตัวคิดหน่ะ เค้าจะดูแลตัวเองให้ดีจ้า" และทั้งคู่ก็หัวเราะร่วน
"ถ้างั้น เค้าจะคุยกับพ่อและแม่ จริงจังแล้วหล่ะ ถ้าตัวไม่ว่ากระไร" ครูกำธร พูดด้วยรอยยิ้ม และรู้สึกโล่งใจขึ้นมาก ๆ
"เค้าบอกตัวแล้วไง ว่าเค้าหน่ะสนับสนุน ความตั้งใจของตัวเสมอนะ" ครูเพียงใจ พลางยิ้มตอบ
เฮ้อ คิดถึงเพียงใจจัง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสาหัสมากหรอกนะ คิดถึงความดี ที่เธอดีกับเรามาตลอด ใช่ตั้งหลายปี เราจำได้ว่า เคยคุยกับเธอด้วยซ้ำไปว่า
ใครกันนะที่เอาดาวไปแขวนไว้บนฟ้าได้ และ ใครกันนะที่คอยเก็บมันตอนรุ่งสาง คิดไปก็พลางอมยิ้มไป
ใครกันนะที่วางดาวพราวแผ่นฟ้า
แล้วนำพา อาทิตย์ขึ้นยามฟ้าสาง
ใครกันหนอ ขอเมฆขาว เอามาวาง
ให้ท้องฟ้า กว้าง กว้าง ไม่เดียวดาย
ก็คิดถึงเธอนะในยามนี้
ดอกราตรีส่งกลิ่นหอมไม่จางหาย
พร้อมแสงดาวยังคงเต็มท้องฟ้า แม้นมีเมฆามากล้ำกลาย
ขอฝันดี นี้จงได้มีแด่เธอ
ในที่สุดคืนนี้ ครูกำธรก็ได้ฟังเพลงกล่อมนอนเป็นเพลงสุดท้าย โดยมีเสียงแว่ว ๆ ของนายสถานี ส่งเข้านอน
"ได้เวลาอันสมควร ที่เราจำต้องจากลากันในคืนนี้แล้วนะครับ ผมขอฝากเพลงนี้ไว้เป็นเพลงสุดท้ายสำหรับคืนวันนี้ และขอให้ผู้ฟังที่รักทุกท่าน นอนหลับฝันดี
มีความสุข และตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มในวันพรุ่งนี้ครับ "แรมพิสวาส" คือเพลงสุดท้ายและขอกล่าวคำว่า นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ"
[MUSIC]jolo/kamthorn/Rampitsamat.wma[/MUSIC]
----- พบกันใหม่ในตอนถัดไปครับ -----
Bookmarks