คิดฮอดดอกติ้วป่า : มูลมังปัญญาจากฟากทุ่งลำน้ำมูล
ต้นฤดูหนาวดอกติ้วป่าเริ่มผลิใบในขณะที่ใบที่เขียวสดเริ่มร่วมหล่นไปตามกาลเวลา อีกไม่นานจะเหลือเพียงช่อดอกสีชมพูเข้มเหมือนกับดอกท้อในเมืองหนาวก็มิปาน ชาวบ้านทุ่งอย่างเรารอคอยการกลับมาเยือนของดอกติ้วป่าในปลายหนาวนี้
ที่ฟากทุ่งเมืองสุรินทร์ถิ่นเมืองช้างมีดอกติ้วป่าแห่งปัญญาต้นหนึ่งที่ผลิดอกออกใบสร้างสรรค์ภูมิปัญญาความรู้สู่ชาวบ้านทุ่งอย่างเราโดยมีพี่ใหญ่ สนั่น ชูสกุล เป็นผู้ดูแลรักษารวมทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ช่วยกันรดน้ำพรวนดินให้ดอกติ้วป่าต้นนี้บานกลางใจตลอดมา
วันนี้จะเล่าถึง "ดอกติ้วป่า" จุลสารน้อย ๆ ที่เป็นสื่อวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และงานพัฒนาจากดินแดนที่ราบสูง ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์ข้อมูล กป.พอช.อีสาน
ผมเริ่มรู้จัก "ดอกติ้วป่า" ครั้งแรกจากร้านหนังสือในตัวเมืองในฉบับที่ 13 ประจำเดือนมีนาคม 2536 เนื้อหาในฉบับว่าด้วยสิทธิสตรี "เป็นครึ่งโลกสวย ขอมอบให้เธอ" เป็นจุลสารราย 3 เดือน สมัครเป็นสมาชิกปีละ 30 บาท (ถูกจังเลย) นับว่าแสนคุ้มสำหรับภูมิปัญญาที่หาได้ หลังจากนั้นผมได้ติดตามผลงานของคณะเรื่อยมาจนฉบับสุดท้ายที่ผมเป็นเจ้าของคือฉบับประจำเดือนมีนาคม 2540 และข้อเขียนนี้ถือว่าเป็นระลึกถึงเพื่อนเก่าในอดีตก็แล้วกัน
เมื่อพลิกดู "ดอกติ้วป่า" ฉบับประจำเดือนมีนาคม 2536 เป็นฉบับเย็บสันขนาด 38 หน้า พบว่าเนื้อหาภายในเล่มจะมีบทสัมภาษณ์ รายงานในท้องถิ่น เรื่องสั้น บทกวี และรายงานในชุมชน ส่วนเนื้อหาในเล่มต่อมานั้นมีข้อเขียนของนักคิด นักเขียน นักพัฒนาเพื่อนพ้องน้องพี่ต่างช่วยกันหล่อหลอม "ดอกติ้วป่า" ให้ส่งกลิ่นหอมกระจาย ไม่ว่าจะเป็นไพฑูรย์ ธัญญา, สมคิด สิงสง, ฟอน ฝ้าฟาง, เด่นชัย น้อยนาง, ประเสริฐ จันดำ, อณูทิพย์ ธารทอง, ราชบดินทร์ ประกายธรรม, มาโนช พรหมสิงห์, สานิจ มาตรขาว, สว่าง ไชยสงค์, สังคม เภสัชมาลา, สุมาลี โพธิ์พยัคฆ์, นฤมิตร ประพันธ์, อุไร พลเยี่ยม, ศิลา ซึ้งพุทธศาสตร์, และอีกหลายท่าน
มีเรื่องราวดี ๆ ใน "ดอกติ้วป่า" ที่น่าสนใจแต่ละเล่ม เช่น บทบาทของสิทธิสตรีในสังคม, โขงสีขุ่น มูลสีหมอง ชีร้องไห้, ครบวงจรนายทุน ครบวงจนชาวบ้าน, ชาวนา - เถ้าแก่ จากซับแดงถึงโพนทราย, อีสานโลกาภิวัตน์, ยุคแห่งการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ บนแผ่นดินที่ราบสูง, ผู้หญิง แรงงาน ใต้ถุนสังคม, องค์กรพัฒนาชุมชน ทศวรรษแห่งการรวมพลังเพื่อชุมชนอีสาน เป็นต้น
นอกจากนี้ในแต่ละเล่มจะมีการสัมภาษณ์นักคิด นักเขียนแห่งยุคสมัยที่น่าสนใจ เช่น มุมมองของนักเขียนหลายคน ประกอบด้วย คำสิงห์ ศรีนอก, ศิลา โคมฉาย, ยงค์ ยโสธร, วัฒน์ วรรลยางกรู, วสันต์ สิทธิเขต, รวมทั้งประเด็นทางวรรณกรรมที่น่าสนใจ เช่น วรรณกรรมเพื่อภูมิปัญญาอีสาน โดย ไพฑูรย์ ธัญญา และ บำรุงบุญปัญญา เราจะสร้างวรรณกรรมให้ประสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นชาวบ้านได้อย่างไร โดย คำสิงห์ ศรีนอก
ที่สำคัญได้เห็นการวาดเส้นสวย ๆ "ออนซอนธรรมชาติ" จากมาโนช พรหมสิงห์ ผ่านมุมมองของนักเขียนได้อย่างลงตัว
เป็นความงดงามทางวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และงานพัฒนา ในมุมมองที่ดี แง่คิดที่งาม ๆ หลากหลายมุมมอง กลับไปอ่านอีกครั้งก็ยังงดงาม ผมยังเก็บ "ดอกติ้วป่า"ไว้ในใจและเก็บไว้บนชั้นหนังสือแยกเป็นหมวดหมู่เป็นอย่างดี สำหรับมูลมังปัญญาจากฟากทุ่งลำน้ำมูลเล่มน้อย ๆ และหวังว่า "ดอกติ้วป่า" ต้นนี้คงมีโอกาสเบ่งบานบนเส้นทางสายถนนหนังสืออีกครั้ง สักวันหนึ่งดอกติ้วป่าจะบาน
Bookmarks