-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
..กาย เวทนา จิต ธรรม...
คำว่า "กาย"
เป็นสภาพธรรม ที่เคยยึดถือ ว่า เป็น "ร่างกาย"
.
คำว่า "เวทนา"
เป็น "ความรู้สึกต่าง ๆ" ซึ่งกำลังมีอยู่ ในขณะนี้
ข้อสำคัญ คือ ความรู้สึก ที่กำลังมีอยู่ในขณะนี้.
.
คำว่า "จิต"
เป็น "สภาพรู้" ที่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้.
.
คำว่า "ธรรม"
เป็น "สิ่งที่มีจริงอื่นๆ" ที่ไม่ใช่กาย เวทนา จิต
.
ถ้าจะตอบโดยย่อ ๆ และ โดยนัยของการปฏิบัติ
คือ สภาพธรรมที่มีจริง ในขณะนี้ ที่จะรู้ได้...ก็ต้องเนื่องกับกาย.
.
ถ้าไม่มีกาย...........
จะรู้ลักษณะ ของสภาพธรรม ได้ไหมคะ.?
..............ก็ไม่ได้.!
.
เพราะฉะนั้น
ที่มีการกล่าวถึง กาย เวทนา จิต ธรรม
ที่มีการแยกประเภทออกไป ต่าง ๆ กันนั้น
มาจากการที่ "สติ" เกิดขึ้น
ระลึกรู้ลักษณะ ของสภาพธรรม ที่ปรากฏนั้นเอง.
.
สภาพธรรม ที่มีจริง ประเภทต่าง ๆ
ซึ่ง "สติ" ระลึกรู้ได้ และ เกิดที่ "กาย"
หมายความว่า...............................
"กาย" เป็นแหล่งที่รวม ที่เกิด ที่ปรากฏ ของสภาพธรรมทั้งหลาย.
เช่น ในขณะนี้ สภาพธรรม ที่มีจริง ปรากฏอยู่...........
ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ.
.
ทางกาย....ก็คือ สภาพธรรมปรากฏ "ที่กาย" นั่นเอง
หมายความว่า
สติ สามารถระลึกรู้ลักษณะ ของสภาพธรรม
ที่ปรากฏ "ที่กาย"...ขณะใด
ขณะนั้น...ก็เป็น "กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน"
.
ทางตา..."ตา" อยู่ที่กาย แต่ว่า สภาพธรรมที่ปรากฏทางตา
ไม่ใช่ลักษณะ ของสภาพธรรม ที่ปรากฏที่กาย หรือ ทางกาย.
.
"ตา" อยู่ที่กาย...แต่สภาพธรรม ที่ปรากฏทางตา
คือ สีสัน วัณณะ ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง
และมีอยู่ที่ "มหาภูตรูป"
แต่เวลาที่ปรากฏนั้น ต้องปรากฏ ทางตา
หมายความว่า
ถึงแม้ว่า "ตา" จะอยู่ที่กาย
แต่ว่า สภาพธรรมที่ปรากฏทางตา เป็น สีสัน วัณณะ ต่าง ๆ
ไม่ใช่ เย็น-ร้อน อ่อน-แข็ง และ ตึง-ไหว.
.
เพราะฉะนั้น
ลักษณะ ของสภาพธรรมที่ปรากฏ คือ
เป็น สี..................ที่ปรากฏ ทางตา
เป็น เสียง...............ที่ปรากฏ ทางหู
เป็น กลิ่น............ที่ปรากฏ ทางจมูก
เป็น รส.................ที่ปรากฏ ทางลิ้น
และเป็น เย็น ร้อน,อ่อน แข็ง, ตึง ไหว
ที่ปรากฏ ทางกาย.
.
ถ้า "สติ" ไม่เกิดขึ้น
ไม่มีการระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรมใด สภาพธรรมหนึ่ง
ก็จะไม่รู้เลย ว่า เป็นเพียง สภาพธรรม แต่ละชนิด ๆ เท่านั้น
ซึ่งปรากฏ เฉพาะ แต่ละทาง ๆ ......โดยการแยกขาดจากกัน
จากการเกิดขึ้น และ ดับไป.
.
อย่างเช่น ทางตา...กำลังเห็น
เป็น "สภาพธรรมที่รู้"
คือ รู้ "สภาพธรรมที่กำลังปรากฏทางตา"
ไม่ใช่การ "ได้ยิน" หรือ "สภาพธรรมที่รู้เสียง"
ลักษณะของ "สภาพที่รู้สิ่งที่ปรากฏ" เป็นคนละอย่าง
"การเห็น".............เป็นอย่างหนึ่ง
"การได้ยิน".....เป็นอีกอย่างหนึ่ง
ฯลฯ
.
"ตา" อยู่ที่กาย และ "หู" ก็อยู่ที่กาย
แต่ "สภาพธรรมที่ปรากฏทางตา" ไม่ใช่ "สภาพธรรมที่ปรากฏทางหู"
เป็น "ลักษณะ" แต่ละอย่าง ๆ ซึ่ง เกิดดับ...สืบต่อกัน.
.
เพราะฉะนั้น
เวลาที่สติเกิด ระลึกรู้ ลักษณะ ของสภาพธรรมที่เรียกว่า "กาย"
หมายถึง สติ ระลึกรู้ ลักษณะของ "ธาตุ" ได้แก่......................
เย็น หรือ ร้อน (ธาตุไฟ)
อ่อน หรือ แข็ง (ธาตุดิน)
ตึง หรือ ไหว (ธาตุลม)
"ธาตุ" เหล่านี้ สามารถรู้ได้ทางกาย หรือ ที่กาย
ที่ ๆ เคยยึดถือ ว่า........เป็นตัวตน สัตว์ บุคคล
หรือ "กาย" ที่เคยยึดถือ ว่า เป็น "กายของเรา"
Tags for this Thread
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks