วันนี้เลิกงานเร็วกว่าปกติ ฉันเดินทอดอารมณ์ไปตามบาทวิถี
กลางดงคอนกรีต เร็วกว่าปกติของฉันคือ 6 โมงเย็น เป็นชีวิตอีกด้านที่เพิ่งเคยสัมผัส ผู้คน
เดินกันอย่างเร่งรีบเพ่งมองเพียงปลายเท้าของตนเอง กอดกระชับกระเป๋าถือแนบกาย บ้าง
ก็หอบถุงข้าวของพะรุงพะรัง หนุ่มสาวบางคู่เดินจูงมือหยอกล้อกันกระหนุงกระหนิง
ฉันมองพวกเขา อยากจะยิ้มให้พวกเขาเหลือเกิน หากแต่ไม่มีใครจะหยุดรอรับรอยยิ้มจาก
ฉันเลย..อนิจจา เสียงจักจั่นร้องมาจากต้นไม้ที่ยืนซึมเซาบนเกาะกลางถนน ด้วยความที่
เป็นเด็กชนบทได้ยินเสียงจักจั่นมาตั้งแต่จำความได้ ทำให้ฉันรู้ว่าเสียงนี้มันร้องเพียงเดียว
ดาย ไม่มีจักจั่นตัวอื่น ๆ ร่วมประสานเสียงกับมันเลย มันจะเหงาหรือไม่นะที่ต้องร้อง
เพลงอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลาง รถราที่วิ่งแข่งกันอย่างบ้าคลั่ง ฉันเดินอย่างไม่เร่งรีบเช่นคน
อื่น ๆ ปล่อยให้ผู้คนหลายคนเดินแซงหน้าฉันไป บางครั้งอยากหยุดอยู่กลางสะพานลอย
แล้วยืนมองรถที่วิ่งอยู่ด้านล่าง แต่นึกดูอีกทีคงจะกีดขวางทางเดินของคนอื่น ๆ จึงต้องเดิน
ต่อไป ชีวิตบนสะพานลอยเป็นอีกฉากหนึ่งที่ฉันไม่คุ้นตามาก่อน หญิงวัยกลางคนนั่งกอด
ลูกที่หลับสนิทปากก็พร่ำขอเศษสตางค์จากผู้คนที่เดินผ่าน ถัดมาเป็นหญิงแก่นั่งขอทาน
ด้วยเช่นกัน แล้วยังมีกลุ่มพ่อค้า แม่ค้าที่ขายของจำพวกเครื่องประดับและของกิ๊ฟช๊อบ
ใกล้บันไดทางลงสะพานลอยมีชายวัยกลางคนนั่งอยู่อย่างซึมเซา เขามีสุนัขสีดำไว้เป็น
เพื่อนด้วย 1 ตัวขนของมันสีดำเป็นมันแต่มันนอนขี้เซาน่าดูตลอดเวลาที่ฉันเดินผ่านฉันไม่
เคยเห็นมันตื่นเลย ตรงเชิงสะพานมีวณิพก นั่งร้องเพลง แต่ไม่มีใครให้เงินแก่เขาเลย แต่
เขาก็ยังร้องอยู่ทุกวัน ป้ายรถเมล์ใต้สะพานเต็มไปด้วยผู้คนที่รอยื้อแย่งกันขึ้นรถเมล์สายที่
นาน ๆ จะวิ่งมาคราหนึ่ง แต่สายที่ไม่ค่อยมีคนขึ้น กระเป๋ารถเมล์ต้องลงมายืนเรียกผู้
โดยสาร ให้ขึ้นไปกับรถของเขา ซึ่งมีอยู่หลายคัน มอเตอร์ไซด์รับจ้างจอดเรียงรายรอผู้
โดยสาร หากเป็นเวลาเช้าจะไม่มีมอเตอร์ไซด์รับจ้างจอดอยู่มากนักเนื่องจากชั่วโมงเร่ง
ด่วนที่ใคร ๆ ก็ต้องพึ่งพามอเตอร์ไซด์รับจ้างเพื่อไปให้ทันเวลาทำงาน หรือเวลาเรียนฉัน
เคยนั่งเมื่อครั้งมาทำงานใหม่ ๆ เขาขับมอเตอร์ไซด์แบบท้าทายท่านยมฯมากเกินไปฉันจึง
เลิกนั่งตั้งแต่บัดนั้น แล้วเดินมาทำงานแทน ดีเหมือนกันได้ออกกำลังกาย ที่พักกับที่ทำ
งาน ห่างกันประมาณ กิโลเมตร เศษ ๆ ไม่ถึงกับเหนื่อยหากแต่วันใดที่อากาศร้อนก็ทำให้
เหงื่อท่วมตัว ฉันต้องขอบคุณตา ที่พาฉันไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายด้วยตั้งแต่เด็ก สมัยนั้นฉัน
เดินวันหนึ่ง 10 กว่ากิโลเมตรทำให้ระยะทางเท่านี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อฉัน หนึ่งเดือนกับอีก
15 วันแล้วที่มาใช้ชีวิตในเมืองฟ้าอมร คงมีเพียงฟ้าเท่านั้นกระมังที่อมร ฉันเฝ้าถามตัว
เองว่ามาทำไม อยู่ที่เดิมไม่ดีหรือ ชีวิตที่เรียบง่าย เพื่อนที่จริงใจ ครอบครัวที่อบอุ่น จาก
มาเพื่ออะไรกัน คำตอบที่มีให้กับตัวเองคือ ความฝันนั่นเอง ที่ทำให้ฉันต้องจากมา นัก
บัญชีการเงินมือหนึ่ง นั่นคือสิ่งที่ฉันฝันมาตลอด แล้วฝันนี้ต้องที่เมืองฟ้าอมรเท่านั้นหรือที่
จะทำให้ฉันคว้ามันมาได้ อันนี้ยังไม่มีคำตอบให้ตัวเอง มาถึงซอยที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาก
มาย ฉันแวะซื้อกับข้าวสำหรับมื้อเย็น เย็นนี้ต้องอยู่คนเดียวพี่สาวกลับบ้าน ไปเยี่ยมลูก
สาว ได้กับข้าวอีสาน และข้าวเหนียวห่อเล็ก ๆ 1 ห่อ คนขายเป็นคนอีสานด้วยเช่นกัน ฉัน
พูดภาษาถิ่นกับเขา รู้สึกถึงความเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน มาอยู่ที่นี่ทำให้ฉันได้เรียนรู้อีกอย่าง
หนึ่งคือ หากกล้าที่จะเอ่ยภาษาถิ่นออกมาคุณจะได้เพื่อนเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน ฉันกับแม่ค้า
ขายกับข้าวกลายเป็นคนที่คุ้นเคยกันในเวลาอันสั้น เพราะความที่เรามาจากที่ราบสูงเช่น
เดียวกัน ทำให้ฉันได้ของแถมจากเขาทุกวัน บางวันไม่คิดค่าข้าวเหนียว กับข้าวที่ไม่มีใน
เมนูที่เขาขาย เขาจะทำแล้วแบ่งให้ฉันด้วย น้ำใจเล็กน้อยเพียงเท่านี้ก็มากพอแล้วสำหรับ
ในเมืองใหญ่แห่งนี้ เสน่ห์อย่างนี้คงมีแต่กับคนอีสานด้วยกันกระมัง กลับถึงห้องไม่อยาก
ทำอะไร ดูโทรทัศน์ก็เห็นแต่พวกหน้าไหว้หลังหลอก ตัวอ้วน จมูกบาน หรือไม่ก็พวกลิ้น
ยาว ส่วนละครก็มีแต่น้ำครำ อาบน้ำอ่านหนังสือ Harry Potter เล่มสุดท้าย ฉันเป็นคน
ไทยที่นิยมวรรณกรรมฝรั่งคงไม่ว่ากัน อ่านหนังสือสักพักนอนเอาแรงไว้ต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ วันรุ่งขึ้นดีกว่า...
Bookmarks