ท่ามกลางผู้คนมากมายในเมืองใหญ่
ฉันว่าเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ที่ผู้คนรู้สึกโดดเดี่ยว
แม้ถนนสายใดสายหนึ่งที่กำลังผ่านไป-มา
จะมีผู้คนมากมายรอบข้าง...ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง ตามเส้นทาง
แต่เราก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยวได้อยู่ดี..
คุณเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า
ความโดดเดี่ยว
ไม่ได้หมายถึง การมีหรือไม่มีใครข้างกาย
แต่ฉันว่า..มันน่าจะหมายถึง..
เรารู้สึกว่าเรามีความหมายสำหรับ "ใครสักคนหนึ่ง" หรือเปล่า
สองอาทิตย์ที่แล้วได้ดูรายการ คนค้นคน ตอน ฉุยมหาชน
ดูแล้วนั่งน้ำตาซึมไปตลอดรายการ
ครูคนหนึ่งทำเพื่อลูกศิษย์ที่มีปมด้อยคนหนึ่ง
ก็คืือฉุย ฉุยไม่มีแม่ และอยู่กับยาย เพียง 2 คน
ฉุยชอบเดินร้องเพลงเสียงดังเวลาอยู่ในโรงเรียน
ชอบทำอะไรแปลก ๆ เพื่อให้ผู้คนรอบข้างสนใจ..เพื่อลดปมด้อยของตัวเอง
คุณครูอึ่งจึงพยายามดึงความสามารถพิเศษ
และความใฝฝันของฉุยที่ชอบร้องเพลง
พร้อมทั้งหยิบยื่นโอกาสที่จะสร้างฝันของลูกศิษย์
ลูกศิษย์ที่คุณครูเรียกว่าลูก
โดยการสนับสนุนให้เข้าประกวดร้องเพลงบนเวที
ซึ่งฉุยใฝ่ฝันที่จะมีโอกาสได้ร้องเพลงออกทีวีสักครั้ง...
และให้้ยายได้ภูมิใจในตัวเขา..
และความฝันเล็ก ๆ ของเขาก็ถูกสนับสนุนจากครูอึ่ง
ครูที่ฉุยเรียกว่าแม่
โดยพาไปประกวดร้องเพลงตามที่ต่าง ๆ
เช่าชุดให้ใส่ขึ้นประกวด ไปนั่งให้กำลังใจหน้าเวที
แม้วันนี้ฝันเล็ก ๆ จะของฉุยจะไม่เป็นจริง
แต่ฉุยก็มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ฝัน
เบื้องหน้าในตอนแรกที่ดู
คิดว่าครูอึ่งคนนี้ คงมีพร้อมทุกอย่าง
มีเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง หน้าที่ การงาน และเงินตรา
แล้วจึงแบ่งปันส่วนนั้นต่อผู้อื่น..ก็คือลูกศิษย์
แต่ตอนที่ 2 รายการนำเสนอแง่มุม ของครูอึ่ง
ที่ทุ่มเทเวลาทั้งหมดของตัวเองให้กับงาน เด็กนักเรียน
เราจะเห็นครูอึ่งยิ้มตลอดเวลาเมื่ออยู่ในโรงเรียน และต่อหน้าลูกศิษย์ทุกคน
แต่เบื้องหลังรอยยิ้ม
และสิ่งที่คุณครูพยายามเติมเต็มส่วนที่..หาย...ให้กับลูกศิษย์เหล่านั้น
รายการก็เสนอแง่มุมชีวิตคุณครู ที่ฉันรู้สึกว่าคุณครูก็..ขาด..เหมือนกัน
รายการเปลี่ยนฉากที่โรงเรียนกลับมาที่บ้านของครูอึ่ง
ถึงได้เห็นว่าเบื้องหลังสิ่งที่อุทิศให้ลูกศิษย์ทั้งหมดและรอยยิ้มของครูอึ่งนั้น โดดเดี่ยวเพียงใด
คุณพ่อของครูเป็นอัมพาต ไม่ยอมรับรู้และไม่ยอมพูดอีกเลย
นับตั้งแต่วันที่แม่ของคุณครูเสียไปได้เพียง 2 เดือน
ทุกเย็นไม่ว่าจะยุ่งจะเหนื่อยแค่ไหนคุณครูต้องแวะมาหา
มาป้อนข้าว อาบน้ำให้คุณพ่อ และยิ้มมีความสุขตลอดเวลา
ก่อนจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านของครูอีกหลังหนึ่ง
และจะกลับมานอนกับคุณพ่อที่บ้านหลังนี้
ในขณะที่ปล่อยให้อีกบ้านหนึ่งที่ปลูกไว้เป็นเรือนหอ
ด้วยราคาเกือบล้านให้ไร้คนอยู่อาศัย มีไว้เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
และเป็นที่ที่ครูอึ่งสามารถหลบมาแอบร้องไห้
ในวันที่เหนื่อยและท้อจนไม่สามารถเล่นละครได้อีก
ละครบทลูกที่แสนดี และบทคุณครูที่แสนเมตตา
ที่ไม่สามารถมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ในชั่วขณะใดขณะหนึ่งนั้น
คุณครูเล่าว่า ถูกสามีขอแยกทาง..ด้วยเหตุผลว่า ครูเป็นคนดีเกินไป..และก็ไปมีครอบครัวใหม่
คุณครูจึงทุ่มเท เวลาทั้งหมด ให้กับงานสอน และ ดูแลคุณพ่อ แต่ในส่วนลึกนั้น
คุณครูจะรู้สึกโดดเดี่ยวเพียงใด..เมื่อมองไปข้างกายแล้ว ไม่มีใครสักคนเข้าใจ
และมาวันนี้
คุณครูได้ ฉุย และลูกศิษย์ เติมส่วนที่ขาดหาย
ความไร้เดียงสาของเด็ก ๆ ทำให้ครูอึ่งไม่ต้องแสดงละครในบทที่ต้องหัวเราะอีกต่อไป
เพราะมันคือเสียงหัวเราะที่ออกมาจากใจโดยแท้จริง
ครูอึ่งได้ฉุยเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย ก็คือทำให้โลกเหงา ๆ ของครู มีสีสัน
ฉุยก็ได้ครูอึ่งเติมเต็มในส่วนที่ขาดไป คือเหมือนฉุยได้มีแม่ คอยให้โอกาส คอยเคียงข้าง
และที่สำคัญ ให้เป็นที่พึ่ง และให้อ้อมกอดอันอบอุ่น ที่ฉุยโหยหามาตลอดเวลา
ฉันดูรายการแล้วรู้สึกว่า ความโดดเดี่ยวที่แอบอยู่ในซอกมุมเล็ก ๆ ของหัวใจ
ถูกเติมให้เต็มด้วยความรักของคนสองคนนี้ ขอบคุณรายการคนค้นคน ที่ทำให้ค่ำคืนเดียวดายคืนหนึ่งของฉัน อบอุ่นขึ้น
หากเรา...ต่างเติมส่วนที่ขาดหาย ให้กันและกัน
โลกคงมีแต่ความสุข ฉันเชื่อว่าทุกคนไม่ได้เกิดมา พร้อมกับความ สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจน...ถ้าเพียงแต่
อย่ารักใคร...เพราะเขา...สมบูรณ์แบบ
แต่เพราะคุณรักเขา เขาถึง...สมบูรณ์แบบ
วันนี้ คุณทำให้คนรอบข้างคุณ...สมบูรณ์แบบ...กี่คนแล้ว
(((( ถ้าเคยอ่านแล้วขออภัยเด้อจ้า ))))
Bookmarks