กำลังแสดงผล 1 ถึง 8 จากทั้งหมด 8

หัวข้อ: บทร้อยกรองแห่งคิมหันตฤดู

  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    บทร้อยกรองแห่งคิมหันตฤดู

    บทร้อยกรองแห่งคิมหันตฤดู



    บทร้อยกรองแห่งคิมหันตฤดู



    1
    ฤดูกาลไถหว่าน
    หมุนเวียนมาอีกครา
    ยามนี้หมู่ชาวนา
    ต่างพากันปักดำไถคราด
    เป็นกลุ่มกลางทุ่งกว้าง
    ฉันเฝ้ามองพวกเขา
    อยู่เงียบ ๆ ในกระท่อม
    ในใจพร่ำภาวนา
    ขอองค์พุทธะผู้ทรงเมตตาธิคุณ
    จงช่วยปกป้องชาวนาเหล่านี้
    จากความหิวโหย
    และภัยพิบัติด้วยเทอญ




    2
    หมู่เมฆพลิ้วกระจาย
    ปลิววนตามสายลมพัด
    กลางป่าละเมาะข้างกระท่อมฉัน
    ฝูงนกดุเหว่าพากันส่งเสียงร้อง
    เริงร่าสนุกสนาน
    อา บรรยากาศยามนี้
    ช่างเปี่ยมสุขจริงหนอ
    มาเยี่ยมฉันบ้างสิท่านเอ๋ย
    กระท่อมซอมซ่อหลังน้อยนี้
    เปิดประตูรอท่าน
    อยู่ทุกครา



    3
    ง่วงเสียแล้วสิ
    ฉันเหยียดแขนขา
    เอนตัวลงบนแคร่ไม้ไผ่
    ตั้งใจจะงีบสักหน่อย
    จวนเจียนจะเคลิ้มหลับ
    พลันหูก็ได้ยิน
    เสียงกบเขียดร้องรำ
    แว่วมาจากทุ่งนาข้างกระท่อม
    เสียงอ๊อบ ๆ โอ๊บ ๆ นั้น
    ผสานเข้ากับเสียงแผ่วไพเราะ
    ของหมู่นกในดงไผ่
    กลายเป็นมโหรีกล่อมขับ
    ให้ฉันหลับในเวลาต่อมา




    บทร้อยกรองแห่งคิมหันตฤดู



    ...............................................


    รวบรวมจากหนังสือ รอยรำลึกที่ผ่านเลย

    ?รอยรำลึกที่ผ่านเลย? รวมบทกวีเซนของเรียวกัน เป็นบันทึกความรู้สึกและ
    อารมณ์ขณะใช้ชีวิตบั้นปลายเพียงลำพัง ณ ชนบทแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เมื่อ
    สองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา

    งานเหล่านี้ แฝงไว้ด้วยความเศร้า ความอ้างว้าง ความชื่นบาน ตลอดจน
    ความคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิตอันยาวนาน

    ทัศนะของพุทธศาสนา ได้จำแนกวิถีชีวิตมนุษย์ ออกเป็น 2 สายทางใหญ่ ๆ

    สายทางแรก คือ แนวทางของบุคคลผู้ปล่อยตัวให้เลื่อนไหลไปกับ
    กระแสสังคมอันเชี่ยวกราก ชีวิตเช่นนี้จะเต็มไปด้วยการต่อสู้ แย่งชิง
    ฉกฉวย สิ่งที่สังคมยอมรับว่าเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต ได้แก่ เกียรติยศ
    ความมั่งคั่ง ซึ่งมีคนเลือกเดินแน่นขนัดทั้งกลางวันและกลางคืน

    ส่วนอีกสายทางหนึ่ง คือ แนวทางของผู้มองเห็นความไม่เป็นแก่นสารของ
    การแสวงหาสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น บุคคลเช่นนี้จะปลีกตัวออกมาจากการต่อสู้
    แย่งชิง มาดำรงตนอยู่ด้วยความสันโดษในอาชีพอันสุจริต สะอาด อุทิศตน
    เข้าหาความดีงามของชีวิต ซึ่งมีคนเลือกเดินเพียงหยิบมือเดียว
    เรียวกัน พระเซนเจ้าของบทกวี คือ หนึ่งในจำนวนคนอันน้อยนิดนั้น

    กวีนิพนธ์ชุด ?รอยรำลึกที่ผ่านเลย? นี้เป็นงานสืบเนื่องจากกวีนิพนธ์
    ชุด ?คืนฟ้าฉ่ำฝน?




    อ้างอิง : หนังสือ ?รอยรำลึกที่ผ่านเลย? บทกวีเซนของ เรียวกัน
    พระมหาสมภาร พรมทา แปลและเรียบเรียง
    พิมพ์ครั้งแรก สิงหาคม 2526





    [radio]http://www.freewebs.com/mummy001/0002%20sangdouwhangsuttha%20karawan.wma[/radio]
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  2. #2
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ เทพบุตร
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    19
    ...มองฟ้าที่ฉ่ำฝน
    ผู้คนเดินเป็นสาย
    แบกไถจูงวัวควาย
    ในหัวใจแสนอิ่มเอม...

    ...รอคอยด้วยความหวัง
    คือพลังแห่งความฝัน
    ลำบากจะฝ่าฟัน
    เพราะว่ามันคือสายใย...

    ...ผ่านมาชั่วลูกหลาน
    ปณิธานไม่หวั่นไหว
    ชีวิตชาวนาไทย
    ขอเพียงได้มีข้าวกิน...

    ...ถึงจนไม่เคยท้อ
    ความเพียงพอเป็นวิถี
    ดำรงอยู่อย่างพอดี
    ขอเพียงนี้ชาวนาไทย...

  3. #3
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197



    ในราตรี วิกาล แสนเริงร่าย
    เสียงนกไพร แทรกพฤกษ์ ทั่วพงป่า
    เริ่งร่าร้อง ก้องทั่ว ไพรพนา
    ร้องลั่นป่า ด้วยเสียง วิหคไพร

    กระท่อมใน แดนถิ่น ป่าดงดอย
    แทรกตัวด้อย น้อยค่า หลบหน้าหนี
    เป็นที่อยู่ ของผู้ จรลี
    เพื่อหลีกลี้ ไกลห่าง ร้างคนลา


    นกน้อยไร้ คนมอง เหลียวแลหน
    หนีผู้คน หนีใจ เหินเวหา
    หลบหลีกไกล จากสังคม อยู่พนา
    หนีตามล่า มาอยู่พง คงสุขดี

    มาเยี่ยมยาม ถามข่าว อย่างมิตรบ้าง
    แม้อ้างว้าง แสนเวิ้ง ยังแต้มสี
    ร้อยเรียงพจน์ ของใจ ให้ทวี
    มอบสิ่งดี ให้กัน นิรันดร์นาน





    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย khonsurin; 24-05-2009 at 02:01.
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  4. #4
    Membership renewed สัญลักษณ์ของ MADELA
    วันที่สมัคร
    Mar 2009
    ที่อยู่
    japan
    กระทู้
    254
    เป็นกวีที่ดีและเพราะมากเนาะ คนเราดิ้นรนแข่งขันทำเพื่อที่จะได้มีแต่สิ่งดีอยากมีอยากได้เพื่อเป็นปัจจัยในการดำรงชีพ
    แต่ความสุขแท้จริงคือความพอเพียงเรียบง่าย สมถะและมีความสุขกับการดำเนินชีวิตกับธรรมชาติรอบๆตัวนี้เอง
    ทางสองทางยากที่จะเลือกเดิน เดินทางสายกลางน่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่น่าจะดีที่สุด
    รูปสวย กวีเพราะ เพลงก็เหมาะจ้า
    all the wealth of the world could not buy you a friend nor pay you for the loss of one.
    ทรัพย์สมบัติทั้งหมดบนโลกใบนี้
    ไม่สามารถชื้อเพื่อนได้
    ไม่สามารถแม้แต่จะจ่าย
    เพื่อให้ได้เพื่อนที่สูญเสียไป
    กลับคืนมา

  5. #5
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197
    ลมฝนจาก ฟากฟ้า ไหลลงสู่
    พื้นดินดู ชุ่มฉ่ำ ทั่วท่งกว้าง
    เราชาวนา ยิ้มพราย คลายเวิ้งว้าง
    แล้วยิ้มกว้าง เราได้ ทำนากัน

    คอยฝนจาก ฟ้ามา ส่งใจถึง
    นึกคะนึง หว่านไถ ดังใจฝัน
    เตรียมพืชพันธ์ พร้อมไถ คาดนาเรา
    ร้องลำเนา กล่อมทุ่ง มุ่งทำนา


    เพลงชาวนา บรรเลง คลอเคล้าชื่น
    ฟังดูดดื่ม สดชื่น พร้อมสรรหา
    ดื่มดำกับ ชีวิต ของชาวนา
    ที่เริงร่า ชื่นบาน ยามฝนพรำ

    เพลงบรรเลง จบลง ในตอนค่ำ
    ได้ดื่มด่ำ สดชื่น และชวนขำ
    ความทุกข์ยาก หมดไป กับลำนำ
    สุขน้ำคำ เมื่อลูกเมีย มาคอยรับ


    พ่อจ๋าพ่อ งานหนัก มานะคะ
    พ่อก็พัก ผ่อนบ้าง ไม่ต้องจับ
    งานบ้านน้อง เป็นผู้ รับภาระ
    พ่อเล่นกับ ลูกน้อย ให้พอใจ

    โอ้วิมาน ชาวนา มีแค่นี้
    มีคนปลอบ ฤดี พอขานไข
    ความเหนื่อยล้า อ่อนแรง พลันหายไป
    ในฤทัย มีเพียง แต่ลูกเมีย



    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  6. #6
    ละไมฝน
    Guest
    งามด้วยคุณค่าภาษา งดงามด้วยอรรถ

  7. #7
    หอบฝัน
    Guest
    เพราะจังเลยค๊า มีแต่กลอนเพราะๆเลย..

  8. #8
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197
    ตะวันสายปูสาดแล้วแต่งข้าว
    พ่อแม่ลูกของเราชาวนาสู้
    นั่งล้อมวงกินข้าวน้ำพริกปลาทู
    ผักหญ้าพรูเต็มทุ่งเก็บยอดกิน

    นาเราต้องเร่งไถให้แล้วเสร็จ
    ผลสำเร็จตั้งความหวังที่ท้องถิ่น
    กินข้าวไปมองนาไปนกโผผิน
    เก็บข้าวรินล่วงหล่นที่ปลายนา


    โน่นเจ้าทุยเล็มหญ้าเพื่อพักผ่อน
    หลังจากคาดนาดอนหยุดพักหนา
    เล็มหญ้าอ่อนเคี้ยวเอื้องค่อยย่างมา
    เดี๋ยวจะพาเจ้าร่อนทั่วทุ่งทอง

    แม่เก็บข้าวพ่อมวนยาประสายาก
    แม้ลำบากทุกข์ยากไม่เศร้าหมอง
    สองหัวใจสองลูกน้อยเกี่ยวประคอง
    ทรัพย์เนืองนองทั่วท้องทุ่งผดุงใจ







    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย khonsurin; 01-06-2009 at 21:36.
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •