หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 20

หัวข้อ: ขอรำลึกด้วยคน ควมเก่าควมหลัง เก่าไปไหมครับ

  1. #1
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    กระทู้
    9

    ขอรำลึกด้วยคน ควมเก่าควมหลัง เก่าไปไหมครับ

    ขอรำลึกด้วยคน ควมเก่าควมหลัง เก่าไปไหมครับ เคยเรียนแต่ :
    ตอนอยู่ ป.1 คือ ก อะ กะ ก อา กา กา มา นา อา
    ค โอ โค โค นา ตา โต มี 4 ขา
    น อา นา ใน นา มี รู
    ก เอ เก ปู นา ขา เก มี 8 ขา
    ฮ อะ ฮะ ตา ฮะ ถือ ใบ มะ ไฟ มา โปะ ไฟ
    ......... ตา สี ตี วัว เผียะ เผียะ .......
    (เท่าที่จำได้ก็ประมาณนี้)

    ตอนเรียน ป.2 ก็ มีนิทาน เรื่อง "นกกางเขน" ที่ว่า
    เช้าวันหนึ่ง นกกางเขเขนตัวผู้ตัวหนึ่ง เกาะอยู่บน
    กิ่งมะม่วงในสวน ฯลฯ และ ก็ บทที่ 6 "ลูกนกตกใจ" ฯลฯ
    (สนุก และ ตื่นเต้นมาก ที่ได้อ่าน เรื่องนี้)

    และยังมีนิทาน ที่แต่งเป็นกลอน อยู่เล่มหนึ่ง ชื่อ นิทาน ร้อยบรรทัด จำได้ไหม
    ที่ขึ้นต้นว่า
    "เสียงระฆังครั้งที่สองดังก้องกึก นักเรียนวิ่งกันคักคึกมาเข้าแถว
    แต่ละชั้นพร้อมหน้ารักษาแนว เป็นระเบียบวินัยแน่ว ........."

    ชั้น ป. 3 ก็มีท่องจำทุกวันก่อนเลิกเรียน คงจำได้นะ ที่ว่า
    แม่ไก่อยู่ในตะกร้า ไข่ ๆ มา ได้ สี่ ห้า ใบ
    แม่กาก็มาไล่ อีแม่ไก่ ไล่ตีกา
    หมาใหญ่ก็ไล่เห่า หมูในเล้า แลดูหมา
    ปูแสม แล ปูนา กะ ปูม้า ปูทะเล
    เต่านา และเต่าดำ อยู่ในน้ำกับจระเข้
    ปลาทู อยู่ทะเล ปลาขี้เหร่ ไม่สู้ดี (จบ)

    และยังมีท่องจำ อีกบท คือ
    "อิ่มเอ๋ย อิ่มก่อน รีบจะไปดูละคร โขนหนัง
    ทิ้งสำรับคับค้อนไว้รุงรัง ............ ฯลฯ.....
    คงจำได้นะครับ ใครจำเก่ง ท่องได้ก่อน จะได้ไปยืนหน้าชั้นนำเพื่อนท่อง ไง

    พอขึ้น ป.4 นี่ซิ เรียนเยอะ ท่องก็เยอะ มีท่องจำ และถ้าเป็นกลอน ก็เรียกว่า
    บทอาขยาน ซึ่งสมัยนี้ไม่มีแล้วแล้วครับ มาทบทวนกันหน่อยนะครับ เช่น

    1. เรื่อง ขุนช้างขุนแผน ที่ขึ้นต้นว่า
    "จะกล่าวถึงพลายแก้วแววไว เมื่อบิดาบรรลัยแม่พาหนี
    ไปอาศัยอยู่กาญจนบุรี กับนางทองประศรีผู้มารดา
    อยู่มาจนเจ้าเจริญวัย อายุนั้นได้ถึงสิบห้า
    ไม่วายคิดถึงพ่อที่มรณา เฝ้านึกตรึกตรามากว่าปี
    ฯลฯ

    2. เรื่อง รามเกียรติ์ (ตอนพระลักษมณ์ออกรบ แล้วถูกหอกโมขศักดิ์)
    ไพเราะ เศร้า และกินใจ มากเลยครับ บทท่องจำ คือ
    "บัดนั้น พระยาภิเภกยักษ์ศรี
    เห็นพระองค์ทรงโศรกโศกี อสุรีย์กราบลงพระบาทา
    ทูลว่าพระลักษมณ์สริย์วงศ์ ยังไม่ปลงชีวังสังขาร์
    อันโมขศักดิ์ศาสตรา พรหมมาประสิทธิ์ประสาทไว้
    ทรงอานุภาพฤทธิรุทธ แม้ใคร จะฉุด นั้นไม่ไหว
    แต่มี ยาคู่ หอกชัย ให้ไว้ สำหรับ แก้กัน
    ฯลฯ
    อาขยานบทนี้ยาวมาก แต่สนุกสนาน น่าอ่าน มีคำอธิบายศัพท์เยอะแยะ ไปหมด และก็ชอบออกสอบ โดยเฉพาะที่เป็นคำราชาศัพท์ ครับท่าน

    3. เรื่อง เงาะป่า จะมีบทท่องจำว่า
    "เมื่อนั้น นวลนางลำหับพิสมัย
    ครั้นรุ่งลางสร่างแสงอโณทัย ทรามวัยแต่งตัวไม่มัวมอม
    สวมมะกล่ำกำไรสายสร้อย ตุ้มหูพวงห้อยดอกไม้หอม
    ฯลฯ

    4. เรื่อง สังข์ทอง ก็สนุกมาก ๆ บทท่องจำ คือ
    "มาจะกล่าวบทไป เทพไทสิงสู่อยู่พฤกษา
    สงสารนางจันทร์กัลยา เจ้ามาเหนื่อยยากลำบากกาย
    เทพบุตรจุติลงมาเกิด กำเนิดผิดพ้นคนทั้งหลาย
    แต่บุญญาธิการนั้นมากมาย จะลำเลิศเพริดพรายเมื่อปลายมือ"
    ฯลฯ

    แต่ละเรื่อง แต่ละบท รู้สึก สัมผัสได้ว่า มีความหมาย เป็นการเล่านิทาน แบบร้อยกรอง ได้ฝึกภาษาไทยไปโดยอัตโนมัติ ไม่เหมือนสมัยนี้ เด็ก ๆ ใช้ภาษาไทยไม่ถูก น่าสงสารเนาะ
    (ที่บ่น ๆ แสดงว่าแก่แล้ว แม่นบ่ครับ สงสัยสิฮู้โตเองดีเนาะพี่น้อง) ขอรำลึกด้วยคน ควมเก่าควมหลัง เก่าไปไหมครับ ::) Kiss

  2. #2
    นักการภารโรง สัญลักษณ์ของ บ่าวคนเดิม
    วันที่สมัคร
    Jan 2006
    ที่อยู่
    Amphoe Det Udom
    กระทู้
    3,148
    ทันยุครับ กอ อา กา กอ ไอ่ ไก่

    เรื่อง เงาะป่า กะเคยได้รับบทเป็นพระเอกนำ


    (แต่เป็นตอนแปลงร่างแล้วเด้อ อิอิ)

  3. #3
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197
    เก่งน้อ จำได้ สุดยอดเลยค่ะ
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  4. #4
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ฝนหลวง
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    1,235
    ปาดดดดดดดคือจำได้ ผมคืนครูเมิดแล้ว

  5. #5
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ แหลวแดง
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    1,912
    เคยเห็นอยู่คับแต่ว่าผมบ่ทันเรียน ผมมาทันมานี มานะ วีระ ปิติ ชูใจ เพชร เจ้าแก่ เจ้าจ๋อ สีเทา เรียนจบปอหกมาพร้อมกับเพิ่นหละคับ เป็นหมู่กัน อิอิ

  6. #6
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ nuzing
    วันที่สมัคร
    May 2007
    ที่อยู่
    ตกฟากอยู่อุบล เป็นคนชราบางแคแล้ว
    กระทู้
    2,260
    บล็อก
    5

    รำลึกอดีตแบบเรียนในตำนาน

    พอดีเพิ่งไปอ่านเจอในกระทู้พันทิพย์มาเห็นมีกระทู้หนึ่งน่าสนใจมากๆเลยครับ เป็นกระทู้รำลึกอดีตแบบเรียนในตำนาน ซึ่งคิดว่าทุกคนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในฐานะแบบเรียนภาษาไทยที่เราเรียนกันมาตั้งแต่สมัยประถมศึกษา ตัวละครทุกตัวไม่ว่าจะเป็นมานะ มานี ปิติ วีระ ชูใจล้วนแต่เป็นตัวละครที่ผูกพันกับเราทั้งสิ้นเพราะเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ ป.1 จน ป.6 วันนี้เลยคัดลอกบทความดีๆซึ่งเคยเขียนอยู่ใน manager online มาให้ทุกคนได้รำลึกถึงกันครับ

    จะมีใครสักกี่คนที่ทราบว่าตัวละครหลายๆตัว แท้ที่จริงแล้วมีนามสกุลปรากฏในเรื่องด้วย เช่น มานี มีนามสกุลว่า รักเผ่าไทย, ปิติ พิทักษ์ถิ่น, วีระ ประสงค์สุข, ดวงแก้ว ใจหวัง และชูใจ เลิศล้ำ ภาพประกอบในเรื่องมีคนวาดทั้งหมด 3 ท่าน หนึ่งในนั้น คือ คุณเตรียม ชาชุมพร นักวาดการ์ตูนและนิยายภาพชื่อดังแห่งชัยพฤกษ์การ์ตูน ซึ่งได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ครูประจำชั้นที่ปรากฏในเรื่องมี 2 คน คือ คุณครูไพลิน เป็นครูประจำชั้นตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ปีที่ 3 อีกคน คือ คุณครูกมล เป็นครูประจำชั้นตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงปีที่ 6

    แบบเรียนนี้ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องราวของเด็กๆ เท่านั้นแต่ยังมีพระเอกกับนางเอกด้วย ซึ่งก็คือ เกษตรอำเภอที่ชื่อว่า "ทวีป" และคุณครู "ไพลิน" สองหนุ่มสาวพบกันครั้งแรกเมื่อคราวไฟไหม้ตลาด เด็กๆ เป็นตัวเชื่อมให้ได้รู้จักและแต่งงาน ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน

    โดยปกติแล้วหมากับแมวมักจะเป็นคู่อริกันเสมอ แต่ในแบบเรียนเล่มนี้ "เจ้าโต" กับ "สีเทา" หยอกเล่นกันด้วยความเป็นกันเองเหมือนไม่มีพรหมแดนแห่งความเป็นศัตรู

    ครั้งหนึ่ง "ปิติ" เคยถูกสลากออมสินเป็นเงินจำนวน 1 หมื่นบาท ซึ่งเงินส่วนนี้เขาได้นำไปซื้อลูกม้าตัวใหม่และตั้งชื่อให้ว่า "เจ้านิล" ซึ่งทดแทนเจ้าแก่ที่ตายไป

    "เจ้าจ๋อ" ลิงของวีระเป็นลิงแสม ชอบถอนขนลูกไก่ และยังเกลียดกลิ่นกะปิ วีระจัดเป็นเด็กที่ค่อนข้างอาภัพ พ่อของเขาเป็นทหารและตายในสนามรบตั้งแต่วีระยังอยู่ในท้อง ส่วนแม่ของเขาก็ตรอมใจตายตามพ่อเขาไปหลังจากที่คลอดวีระได้ 15 วัน ชีวิตทั้งหมดของวีระจึงอยู่กับลุงตั้งแต่เกิด

    "เพชร" มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนบ้านเกิดของ "ดวงแก้ว" อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
    บทบาทของ "จันทร" ที่คนส่วนใหญ่จำได้คือ เด็กหญิงที่มีขาพิการ แต่มีใครทราบบ้างว่าในตอนท้ายของเรื่อง เธอได้รับคัดเลือกให้ร้องเพลง"ความฝันอันสูงสุด" และยังอ่านทำนองเสนาะหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้แพทย์หลวง! รับตัวไปรับการผ่าตัดขาที่กรุงเทพฯ จนหายเป็นปกติ

    "ชูใจ" อยู่กับย่าและอามาตั้งแต่เล็ก โดยที่เธอไม่รู้ราบละเอียดใดๆ เกี่ยวกับพ่อและแม่แท้ๆ ของเธอเลย ความจริงก็คือ พ่อของเธอเสียชีวิตตั้งแต่ชูใจอายุ 1 ขวบ ส่วนแม่ก็อาศัยอยู่ต่างประเทศ ในตอนท้ายของแบบเรียน แม่ของชูใจบินกลับมารับให้ชูใจไปอยู่ด้วยกัน แต่ชูใจเลือกที่จะอยู่กับย่า ซึ่งเลี้ยงตนมาตลอดตั้งเด็ก

    นอกจากเรื่องที่ "เจ้าแก่" ตายจะเป็นตอนที่เรียกน้ำตาของเด็กๆ แล้ว ยังมีตอนหนึ่งซึ่งเศร้าไม่แพ้กัน นั่นคือ "แม่จ๋า" เป็นตอนที่แม่ของ"เพชร" ตายเพราะถูกงูกัด ขณะไปเก็บหน่อไม้

    "มานะ" เป็นเด็กเรียนดี และเป็นคนเดียวในเรื่องที่ได้ไปเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาที่กรุงเทพฯ ส่วน "มานี" ตอนที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รับคัดเลือกให้เป็นรองประธานนักเรียนของโรงเรียน

    พวกเราอาจจะเคยคิดกันว่าตัวละครเหล่านี้ได้จบลงพร้อมๆกับที่เราจบระดับประถมการศึกษา แต่ไม่เคยมีใครรู้เลยว่า จริงๆแล้วตัวละครเหล่านี้ก็ยังเติบโตไปพร้อมกับพวกเราตลอดเวลา คุณรัชนี ศรีไพวรรณ ผู้แต่งเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มต้นยังคงเล่าถึงชีวิตของมานะ มานี ปิติ วีระ ชูใจ หลังจากจบระดับการศึกษาของพวกเขาไปแล้ว โดยได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร a day เมื่อปี 2544 ซึ่งผมชอบมากๆเลยครับ เพราะรู้สึกผูกพันกับตัวละครเหล่านี้มากเหมือนเป็นเพื่อนและเติบโตไปกับพวกเราจริงๆ

    แล้ว....เราก็ได้พบกัน

    ****************************


    (มานะ มานี พ.ศ. 2544)
    โดย รัชนี ศรีไพวรรณ

    แพทย์หญิงมานี รักเผ่าไทย ออกจากห้องคนไข้คนสุดท้ายเมื่อเวลา 16.55 น.พยาบาลที่รออยู่หน้าห้องรายงานว่า มีสุภาพสตรีคนหนึ่งมาคอยพบอยู่ที่ห้องพักร่วมสองชั่วโมงแล้ว มานีรู้สึกตื่นแต้นจนแทบระงับไม่ไหว เธอขอบใจนางพยาบาลคนนั้นพลางถอดเสื้อคลุมและส่งเครื่องมือแพทย์ให้ แล้วรีบเข้าไปล้างมือในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด มานีรู้ดีว่าสุภาพสตรีคนนั้นคือ ชูใจ

    ชูใจเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันเลยตลอดเวลา 17 ปี แม้จะได้ส่งข่าวคราวโทรศัพท์ถึงกันและได้เห็นภาพถ่ายอยู่เสมอ ก็ไม่ดีใจเท่าจะได้พบกันในวันนี้

    เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 แล้ว พ่อของมานีก็ส่งเธอไปเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาที่กรุงเทพมหานครเช่นเดียวกับมานะ ส่วนชูใจเรียนต่อที่โรงเรียนประจำอำเภอ แล้วทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอีกเลยเพราะย่าของชูใจเสียชีวิต แม่ของชูใจมารับเธอไปอยู่ด้วยที่เพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย พ่อเลี้ยงของชูใจเป็นประธานบริษัทเครื่องหนังที่ร่ำรวย เขาเป็นหมันจึงรักชูใจเหมือนลูกแท้ๆของเขา

    ชูใจมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ เธอเรียนต่อด้านการออกแบบเครื่องหนังและทำงานในบริษัทของพ่อเลี้ยงนั่นเอง และแต่งงานกับลูกชายรองประธานบริษัท ซึ่งทำงานอยู่ด้วยกัน วันนี้ชูใจมีโอกาสได้กลับมาประเทศไทย เพื่อไปร่วมฉลองพิธีการแต่งงานของปิติที่จังหวัดลำปางในอีกสองวันที่จะถึงนี้

    ปิติเรียนสำเร็จจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้พบกับเจ้าสาวของเขาระหว่างเรียนด้วยกัน เจ้าสาวของปิติเป็นลูกสาวชาวสวนผู้มั่งคั่งของจังหวัดลำปาง

    เมื่อมานีผลักบังตาเข้าไป สุภาพสตรีที่นั่งกระวนกระวายอยู่โผเข้ามากอด
    ทั้งสองกอดกันแน่นหัวเราะพลางร้องไห้พลางด้วยความดีใจสุดขีด
    "มานีจ๋า ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน"
    "ฉันก็เหมือนกันจ้ะ ชูใจ เธอน่าจะชวนปีเตอร์มาด้วย" มานีพูดถึงสามีของชูใจ
    ชูใจคลายวงแขนออก จ้องมองเพื่อนรักทั้งๆ ที่น้ำตายังนองหน้า
    "ปีเตอร์เหรอจ๊ะ เขาอยากมาจะแย่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าง คราวหน้ามานีแต่งงาน
    ฉันพาเขามาด้วยแน่ๆ" มานีหัวเราะ ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้ชูใจและตนเอง จูงเพื่อนไปนั่งที่เก้าอี้ "ฉันคงไม่มีวันนั้นหรอกจ๊ะ"
    "อะไรกัน? เธอน่ะทั้งสวย ทั้งดี จันทรเขาเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ"
    "อ้าว ไปพบจันทรกับเพชรมาแล้วเหรอ นี่เธอมานานแล้วซี ไหนว่าจะนอนพักซักงีบ เครื่องลงเมื่อตีสี่ไม่ใช่เหรอ"
    "ใครจะไปงีบลงล่ะจ๊ะ หัวใจมันร่ำร้องอยากพบเพื่อนๆ อากับอาสะใภ้ไปหาฉันที่โรงแรมเมื่อแปดโมง! ฉันก็เลยมากับอา ไปบ้านอา ไปกราบคุณแม่ของเธอ คุณพ่อยังไม่กลับจากทำงาน ไปบ้านปิติเจอแต่แม่ของปิติเหมือนกัน แล้วก็ไปบ้านจันทรกับเพชร ร้านของเขาใหญ่โตดีนะ น้าของเขาก็มอบให้จันทรกับเพชรดูแลร้าน ลูกคนเล็กของเขาน่ารักนะ อีกสองคนไปโรงเรียนเลยยังไม่ได้พบ ถ้าฉันไม่มีทางจะมีลูกได้ ฉันจะขอลูกของจันทรไปเลี้ยง ไม่รู้เขาจะให้หรือเปล่า! " ชูใจคุยจ้ออย่างมีความสุข
    "คงให้นะ เพราะจันทรกับเพชรก็รักและไว้ใจชูใจมาก เออ....เสียดายครูไพลินกับคุณอาทวีปย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว เธอเลยไม่ได้พบ"
    "นึกถึงความหลังแล้วมีความสุขจัง ถ้าย่ายังอยู่ก็ดีนะ ยายของปิติก็เสียแล้ว พี่มานะอกหักแล้วยังหาใหม่ไม่ได้เหรอจ๊ะ ติดยศพันตรีแล้วไม่ใช่หรือ กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยไหม แล้วพี่เขาจะกลับลำปางกับเราไหมจ๊ะ"
    มานีหัวเราะเบาๆ "พี่มานะเขามีคนรักใหม่แล้ว แต่ไม่รู้จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ อาจจะได้พาปีเตอร์มาเร็วๆนี้ก็ได้นะ วันนี้วันศุกร์พี่มานะมาไม่ได้ พรุ่งนี้เขาจะมาแต่เช้า ไปกับเราด้วย"

    "พี่วีระซินะ น่าสงสาร คนดีๆไม่น่าจะเป็นอย่างนี้เลย" ชูใจรำพึงอย่างสลดใจ
    "เขามีภรรยาไม่ดีจ๊ะ เลยกลายเป็นคนขี้เมาหยำเป เสียสติ! เลอะเลือน
    เพชรต้องดูแลลุงกับป้าแทน เพชรเป็นคนดีมาก ฐานะของเขาดีทีเดียว น้องๆได้เรียนสูงๆทุกคน"
    "ตอนเขากับจันทรแต่งงานกัน ไม่มีใครบอกฉันเลย" ชูใจตัดพ้อ
    "เขาไม่ยอมให้บอกจ๊ะ มีสตางค์แล้วจะพาลูกๆไปเยี่ยมเธอเอง"
    "ขอให้จริงเถอะ เธอก็เหมือนกัน บอกว่าจะไป จะไป ไม่เห็นไปสักที" ชูใจควักค้อน

    "เพิร์ธน่ะน่าอยู่น่าเที่ยวนะ ฉันไปเที่ยวมาหลายแห่งแล้ว ไม่ชอบใจเท่าเพิร์ธเลย ฉันชอบไปที่บุญที่วัดโพธิญาณกับแม่บ่อยๆ บางทีพ่อก็ไปด้วย พ่อเลี้ยงของฉันเป็นพุทธศาสนิกชนไปแล้วรู้ไหม"
    มานีหัวเราะชอบใจ "ชูใจยังใช้ภาษาไทยได้ดีอยู่นะ จากไปตั้งสิบกว่าปีแล้ว"
    "ฉันพูดภาษาไทยกับแม่เสมอ แต่เรื่องเขียนนี่สิ ต้องขอบใจมานีที่เขียนจดหมายถึงฉันอยู่เรื่อยๆ ทำให้ฉันได้อ่านและเขียนภาษาไทย ไม่ลืมภาษาไทย พจนานุกรมที่เธอส่งไปให้น่ะ ฉันใช้อยู่เสมอเวลาเขียนจดหมายถึงเธอ ม่ายงั้นคงเหมือนกับโคลงโลกนิติที่ว่า อักขระห้าวันหนี เลยจ๊ะ"

    "ชูใจหิวไหมจ๊ะ" มานีถามด้วยความเป็นห่วง
    "ไม่หรอกจ๊ะ ก่อนมาหาเธอ จันทรเขาทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ให้ทาน อร่อยจังเลย ไม่ได้ทานนานแล้ว"
    "เย็นนี้เราก็จะไปทานข้าวที่บ้านจันทร เธอจะกลับไปค้างที่โรงแรมหรือเปล่าจ๊ะ"
    "เรื่องอะไร? " ชูใจค้อน "ฉันเตรียมกระเป๋ามาแล้ว นอนกับเธอ พรุ่งนี้เราก็ไปลำปางกันเลย เพชรเขาจะขับรถพาไป แต่ทางโรงแรมเขาบริการเอง"
    "ปิติคงตื่นเต้นดีใจมากนะ นี่คงจะอยากมาหาพวกเราเต็มแก่ ถ้าไม่ติดว่าจะต้องเป็นเจ้าบ่าว"
    "ฉันโทรไปหาเขาแล้ว" ชูใจพูดยิ้มๆ
    "ดีใจมากเลย เสียงเอะอะโล้งเล้งตามเคย นี่เดี๋ยวคงโทรมาหาพวกเรา"
    "ถ้าเช่นนั้น เราไปบ้านจันทรกันดีกว่านะ" มานีพูดพลางลุกขึ้นหยิบกระเป๋าถือ
    "เดี๋ยวจะวานให้รถโรงพยาบาลไปส่ง ฉันไม่มีรถ ใช้แต่จักรยาน"
    "ไม่ต้องหรอกค่ะ ท่านรองผู้อำนวยการผู้แสนมัธยัสถ์ ฉันมีรถตู้ของโรงแรมมาส่งและคอยรับใช้อยู่ตลอดเวลา ตามคำสั่งของแด๊ด..เอ๊ย...ของพ่อ พ่อจองโรงแรมให้และสั่งให้โรงแรมบริการทุกอย่าง ของฝากเธอก็อยู่ในรถ ฉันมีกระเป๋าถือเก๋ๆ ที่ฉันออกแบบเองมาฝากเธอด้วยล่ะ"
    "เฮ้อ...คนมีสตางค์ล่ะก็ เนรมิตอะไรได้ทุกอย่างนะ" มานีพูดยิ้มๆ
    "ชดเชยกับที่ฉันเคยลำบากเมื่อเล็ก ๆ ไงล่ะ แหม คิดถึงย่าจังเลย"

    ทั้งสองเดินเกี่ยวก้อยคุยกันไปยังที่จอดรถ ซึ่งมีรถคันหรูของโรงแรมมีชื่อจอดอยู่
    "เธอสั่งงานไว้เรียบร้อยแล้วหรือ จะพักร้อนตั้งอาทิตย์เชียวนะ เห็นจันทรบอกว่าเธอเป็นหมอที่เอาใจใส่ห่วงงานมาก แม้จะมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้อำนวยการแล้วก็ตาม คนทั้งอำเภอรักเธอ ชอบเธอมากนี่ เมื่อตอนโรคฉี่หนูระบาดเขาว่าเธอไม่ได้หลับได้นอนเลยนี่ใช่ไหมจ๊ะ"
    "จ๊ะ ตอนนั้นแย่หน่อย หมอ พยาบาล เหน็ดเหนื่อยกันทุกคน ตอนนี้ค่อยยังชั่ว
    ถ้าเธอมาตอนนั้น หรือปิติแต่งงานตอนนั้น ฉันคงลำบากใจเหมือนกัน" เมื่อทั้งสองขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว

    รถคันงามก็ออกจากโรงพยาบาลมุ่งไปสู่ตัวเมือง มานีกับชูใจนั่งคุยไปตลอดทาง
    สมกับความรักความคิดถึงที่มีต่อกัน มิตรภาพอันอบอุ่นเมื่อเยาว์วัยหวนกลับมาสู่หัวใจของคนทั้งสอง ชูใจมองเพื่อนรักแล้วพูดเบาๆว่า "แล้วเราก็ได้พบกันนะ มานี แต่อีกไม่กี่วันเราก็ต้องจากกัน"
    "แล้วเราก็จะได้พบกันอีกไม่ใช่หรือชูใจ ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราก็จะได้พบกันแน่นอน"
    "แน่นอนจ๊ะ มานี เราจะได้พบกัน"
    ชูใจตอบพร้อมยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อนึกถึงเวลาแห่งความเบิกบานที่จะได้อยู่กับเพื่อนรักตลอดสัปดาห์นี้...

    แล้ว....เราก็ได้พบกัน


    ขอขอบคุณ CRACKERJACK'S NEWS - รำลึกอดีตแบบเรียนในตำนาน
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nuzing; 24-05-2009 at 18:05.
    "ใจประสงค์สร้างกลางดงกะหว่าถ่ง ใจขี้คร้านกลางบ้านกะหว่าดง"

  7. #7
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ อิหล่า-หมอนกิ่ว
    วันที่สมัคร
    Apr 2009
    ที่อยู่
    Nongbualamphu
    กระทู้
    21
    ดีจังค่ะ เพิ่งรู้ว่า เค้าโตมาพร้อมกับเราจริงๆ
    ขอบคุณ ทุกกระทู้ ที่ทำให้เราได้คิดถึงวันเก่าๆ ได้ยิ้มกับวันเก่าๆ
    ยุคนี้แหล่ะ คราสสิค สุดๆ

  8. #8
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ ธิดายาเย็น
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    1,622
    โอ้..คึดฮอดตอนเป็นเด็กน้อยเด้..ครูให้ออกไปอ่านหน้าชั้นเรียนเรื่อง มานี มานะ ปิติ ชูใจ นี้ล่ะขาสั่นทดๆอยู่แมะ..ไผ๋อ่านบ่ถูกกะถืกไม่บรรทัดเลาฟาดเป๊ะลงนำหน้าแข่งเจ็บขนาดเลยจ้า..tim:

  9. #9
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มน้ำยืน
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    ที่อยู่
    sathon bangkok
    กระทู้
    236
    บล็อก
    2
    รูปที่เอามาลงเปิดหนังสือหน้าแรกกะเจอเลย อ่านทีแรกตื่นเต้นแฮง
    หญิงในดวงใจก็คือมานี ฮีโร่ในดวงใจก็คือวีระ คึดฮอดความเก่าความหลังกะมีความสุข
    แม่นเฒ่าแล้วบ่น้อผุข้านี่....

  10. #10
    มิสบ้านมหา 2010
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ เขมราฐ
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    กลางท่งเมืองเขมฯ
    กระทู้
    1,946
    ประทับใจเรื่องของมานี มานะค่ะ น้องเขมเป็นรุ่นสุดท้ายที่ไ้ด้เรียน มานี มานะ

    เพราะรุ่นน้องของน้องเขม เพิ่นเรียน แก้ว กล้า กันค่ะ


    อ่านไปกะซึ้งใจ น้องเขมเก็บไว้เบิดเลยค่ะ ตั้งแต่ ป.1 - ป. 6 เลย

    กลับบ้านสิไปรื้อออกมาอ่านค่ะ

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •