กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: เจ็บจี๊ด...ตรงใจ

  1. #1
    ศิลปิน,ช่างภาพอิสระ สัญลักษณ์ของ เพ็นนี
    วันที่สมัคร
    May 2009
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    1,308
    บล็อก
    2

    พบปะพูดคุย เจ็บจี๊ด...ตรงใจ

    โค้ด PHP:
    บทความโดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

    ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆครับ
    ?
    ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก
    เพราะช่วงอายุขัยของวัยสาวเริ่มผลิบานเมื่อประมาณ 13 ปี
    แล้วมาสุดเขตแดนเมื่อวัยสามสิบ
    ?


    วันเกิดครบรอบ 30 จึงเป็นตัวเลขแห่งความสะเทือนขวัญ
    ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก
    ?
    หลายคนไม่อยากพูดถึง คนอื่นก็ไม่ควรเอ่ยปากด้วย?
    ถือเป็นมารยาทสังคมอย่างหนึ่ง ยกเว้นพวกมีวาจาเป็นอาวุธ
    ที่ชอบถามว่า 
    ?ปาอะไรเอ่ยที่ผู้หญิงกลัวที่สุด?
    เฉลย '! ปาเข้าไปสามสิบยังไม่มีผัว ' ?
    ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย


    ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา
    คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนักสอนหนาว่า
    'อย่าริรักในวัยเรียน ' 'ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดี จบแล้วค่อยมีแฟน'
    ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือมีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้าหลายตา
    ก็หาได้สนใจไม่ เป็นคนประเภท 
    'รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน'
    ทุ่มเทชีวิตให้แก่การศึกษา?เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา
    เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน

     
    หลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาว่าง
    เลือกสรร ควานหา ผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต
    ตั้งสเปกว่าต้องได้แฟนหนุ่มประเภทซูเปอร์เพอร์เฟค
    อย่างวิลลี่ แมคอินทอชหรือจอห์นนี่ แอนโฟเน่ หรืออย่างน้อยๆ
    ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่ม หล่อล่ำดำขรึม ถึง
    จะได้มาตรฐาน
    ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติมอร์
    อย่าได้สะเออะหน้ามาให้เห็น
    ?ไม่มีทางได้แอ้มหรอก


    จากวันเป็นเดือน 
    จากเดือนเป็นปี
    ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้วันเวลา
    ผ่านไป
    เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน
    เจ้านายก็
    มีเมียแล้วไม่อยากตกเป็นภรรยาบุญธรรม
    สองคนดันเป็นเกย์
    ?อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า
    คนสุดท้ายเป็นชายแท้
    แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่างเกย์สองคนอยู่
    ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม
    ?



    นั่งรถมาทำงานก็สองชั่วโมงครึ่ง
    กลับอีกสองชั่วโมงสี่สิบนาที กลับถึงบ้าน หมดสิ้นกำลัง
    ขอนอนเอาแรงก่อน
    .........


    ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือ
    สถาบันการศึกษาที่เธอจบมา
    ?
    แหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม เธอหวนรำลึกนึกถึงผู้ชายดีๆ
    ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบ ตามง้อตามตื้อ
    แล้วเราเล่นตัวจนเคยตัว
    ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิท
    เป็นที่เรียบร้อย
    ?

     

    แหม ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง?ตื่นพอดี
    เจอโลกแห่งความจริง ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน 

    ยิ่งเข้าหน้าหนาว ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆจากเพื่อนๆ
    เริ่มทยอยมา ตามหลังซอง กฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล
    ?
    พอไปในงาน ดันเจอคำถามสะกิดใจอีกว่า
    'เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ดของตัวบ้างล่ะ'...
    'โถ! การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว
    เหลือแต่ชื่อเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร
    เพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่ ยังงงๆ
    เรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย'

    เอ๊ะ?เกี่ยวอะไรกัน!?ในใจก็คิดว่า '
    ก็ฉันอยู่เป็นโสดนี่มันไม่ดียังไง
    หนักกระบาลใครรึเปล่า'

    เคยตั้งคำถามกันไหม?ว่าทำไมต้องแต่งงาน(กันด้วย!)?
    คำตอบจากเพื่อนๆ
    ที่แต่งงานแล้วหรืออยากจะแต่งงานอาจมีหลากหลาย
    ?

    'อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา ' ?
    รายนี้เห็นผู้ชาย เป็นตัวคลายเหงา
    'รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย (หาเงิน) ' ?
    ผมกลัวมาช่วยผลาญเงินมากกว่า
    'อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ '?
    เกิดได้ลูกแล้วจะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ

     

    'โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ'?
    เจ้าของคำตอบกำลังหาผู้ร่วมลงทุนฯลฯ


    อันว่า 
    ' ชีวิตคู่ ' อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ?
    ชีวิตคู่ คือ การเติมเต็มซึ่งกันและกัน ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้ว
    ครึ่งหนึ่งของ ชีวิตเราจะหายไป
    ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่ งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่งพื้นที่ว่างนั้น
    ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หาย ก็มิได้สูญสลายไปไหน
    มันก็ไปเติมที่ว่างของคู่เรานั่นเอง

    จุดมุ่งหมายของ
    การแต่งงานคือ
    การใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุขมากขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น
    เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมีความสุขมากกว่าตอนอยู่คนเดียว
    ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้ว มีแต่ความทุกข์ ความเจ็บปวด
    ทุกข์ทรมาน
    ก็ไม่รู้ว่า จะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบค่ายที่ไหน
    ?
    อยู่คนเดียวมันส์กว่า

    ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความก้าวหน้าของสามี
    ภรรยาต้องมีส่วน
    อย่างน้อยก็ปลอบใจในยามที่สามีเครียดจากการงาน
    ชีวิตภรรยาถ้าไม่คิดเอาดี ในทางโลกก็เจริญในทางธรรม
    กำลังใจต้องได้จากสามีเช่นกัน
    อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์มาสุมเพิ่ม
    ?
    ถ้าคู่รักของเราประกอบมิจฉาอาชีวะ ติดเหล้า เล่นการพนัน
    โกงบ้านกินเมือง
    ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตก นรกทั้งเป็น



    เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน
    แทนที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องรูปร่างหน้
    าตา
    ฐานะการเงิน ยี่ห้อรถเก๋งที่ใช้อยู่ ฯลฯ
    เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขแค่สองข้อที่จำแสนง่าย คือ
    หนึ่ง 
    สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด
    สอง 
    คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า
    เพราะชีวิตคู่คือการเติมเต็มชีวิตแก่กันและกัน
    หาใช่เป้าหมายเพื่อการเสริม เพิ่มความเสียว
    เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้เสียเวลา
    ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสด
    ถือคติประจำใจว่า 
    'อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว'
    -- 

    ถึงหนูจะมาสาย แต่ก็กลับตรงเวลาน่ะค่ะ
      
    ความพอใจ ไม่ใช่การมีสิ่งที่ต้องการ แต่เป็นการต้องการสิ่งที่ตนมี 

    เป็นข้อความจาก Forward Mail
    โดยปกติแล้วเพ็นจะไม่เขียนหรือโพสข้อความจาก FW: Mail ขอยอมรับว่าไม่ชอบ
    (แต่ถ้า ITC มาตรวจสอบ อิฉันก็คงตอบได้เพียงว่าไม่ทราบว่าต้นตอของบทความนี้มาจากไหน)

    ...อ่านข้อความนี้ปุ๊ป..จี๊ดดดดดดด โดนใจอย่างแรง (เหตุผลที่เราอยู่จนถึงทุกวันนี้)...


    ถ้าซ้ำต้องขออภัย(มณี)มา ณ ที่นี้ด้วย

    เพ็นนี

  2. #2
    ละไมฝน
    Guest
    อาจจะยังไม่เจอคนที่ถูกใจมั้ง ว่ามั้ย บางคนเจอชายในฝันเมื่ออายุแปดสิบก็มีข่าวให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ
    เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งท้อใจ อาจจะเจอคนถูกใจเข้าสักวัน...อิอิอิ

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •