บทเห่กล่อมเรื่อง กากี
เรื่องกากี มีเค้ามาจากเรื่องในนิบาตชาดก ชื่อ กากาติชาดก ในชาดกเรื่องนี้ เรียก "กากี" ว่า "กากาติ"
สุนทรภู่ เลือกเนื้อเรื่องตอนพระยาครุฑอุ้มนางกากีเหาะไปวิมานฉิมพลีมาเป็นบทเห่กล่อมพระบรรทม ชมความงามของทะเลสีทันดร และขุนเขาน้อยใหญ่รอบเขาพระสุเมรุ ซึ่งแต่งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เนื้อเรื่อง มีดังนี้
เห่เอยเห่กล่าว........ ถึงเรื่องราวสกุณา
ครุฑราชปักษา.......... อุ้มกากีบิน
ล่องลมชมทวีป........ ในกลางกลีบเมฆิน
ข้ามคีรีศีขรินทร์........ มุจลินท์ชโลทร
ชี้ชมพนมแนว......... นั่นเขาแก้วยุคันธร
สัตภัณฑ์สีทันดร....... แลสลอนล้วนเต่าปลา
งูเงือกขึ้นเกลือกกลิ้ง..... มัติมิงคลมัจฉา
จระเข้แลเหรา....... ทั้งโลมาแลปลาวาฬ
โผนเผ่นเล่นระลอก..... ชลกระฉอกฉาดฉาน
นาคาอันกล้าหาญ..... ขึ้นพ่นพล่านคงคา
หัสดินทร์บินฉาบ..... ก็คาบขึ้นบนเวหา
ในทะเลเภตรา..... บ้างแล่นมาแล่นไป
ลำนิดนิดจิ๊ดจิ๋ว..... เห็นหวิวหวิวอยู่ไรไร
ชมชื่นหฤทัย.... ก็ลอยไปในเมฆา
อุ้มแอบแนบชิด.... ถนอมสนิทเสน่หา
ปีกอ่อนร่อนรา..... กระพือพาเผ่นทะยาน
ลอยรอบขอบพระเมรุ ... บริเวณจักรวาล
ชมป่าหิมพานต์..... เชิงชานพระเมรุธร
สินธพตระหลบเผ่น.... สิงโตกิเลนแลมังกร
ราชสีห์ดูมีหงอน...... แก้วกุญชรแลฉัททันต์
นรสิงห์แลลิงค่าง..... อีกเซี่ยวกางแลกุมภัณฑ์
ยักษ์มารชาญฉกรรจ์ ..... ์ทั้งคนธรรพ์วิเรนทร
นักสิทธิวิทยา..... ถือคทาธนูศร
กินรินและกินนร..... รำฟ้อนร่อนรา
ห่านหงส์หลงเกษม .... อยู่ห้องเหมคูหา
พระฤๅษีชีป่า...... หาบผลาเลียบเนิน
คนป่าทั้งหมาเหมี่ยว .... ก็จูงกันเที่ยวดุ่มเดิน
ลอยลมชมเพลิน...... พนมเนินแนวธาร
มีหุบห้องปล่องเปลว .... ดูห้วยเหวรโหฐาน
ลดหลั่นเป็นชั้นชาน ... เงื่อมตระหง่านเมฆี
บ้างเขียวขาวดูวาววาม.... เรืองอร่ามรัศมี
ชมพลางทางช...... บอกคดีนีรมล
ที่สูงเยี่ยมเทียมฟ้า .... นั่นต้นนารีผล
รูปร่างเหมือนอย่างคน .... ดูงามพ้นคณนา
ยิ้มย่องผ่องพักตร์ ... วิไลลักษณ์ดังเลขา
น้อยน้อยย้อยระย้า .... เพทยาธรคอย
ที่มีฤทธิ์ปลิดเด็ด ... อุ้มระเห็ดเหาะลอย
พวกนักสิทธิ์ฤทธิ์น้อย.... เอาไม้สอยเสียงอึง
บ้างตะกายป่ายปีน.... เพื่อนยุดตีนตกตึง
ชิงช่วงหวงหึงส์..... เสียงอื้ออึงแน่นอนันต์
ที่ไม่ได้ก็ไล่แย่ง.... บ้างทิ่มแทงฆ่าฟัน
ที่ได้ไปไว้นั้น...... ถึงเจ็ดวันก็เน่าไป
พระบอกนางทางพา .... ลอยฟ้าสุราลัย
เที่ยวชมเล่นให้เย็นใจ..... แล้วกลับไปวิมานเอยฯ
กากีกลอนสุภาพ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
กากีกลอนสุภาพ
กวี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
ประเภท : นิทานคำกลอน
คำประพันธ์ :กลอนสุภาพ
สมัย : ต้นรัตนโกสินทร์
ชื่ออื่น : บทมโหรีเรื่องกากี
ลิขสิทธิ์ : กรมศิลปากร
กากีกลอนสุภาพ เป็นวรรณคดีไทยประพันธ์ด้วยกลอนสุภาพ เล่าเรื่องเกี่ยวกับตำนานโบราณของนางกากี ฉบับที่ได้รับยกย่องว่าแต่งดี ไพเราะ เป็นสำนวนของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) มีบทเด่นที่จัดว่าเป็นวรรคทองของเรื่องนี้ก็คือ
รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้..... เหมือนเมื่อไปร่วมภิรมย์ประสมศรี
ในสถานพิมานสิมพลี... กลิ่นยังซาบทรวงพี่ทั้งวรกาย
นิจจาเอ๋ยจากเชยมาเจ็ดวัน.. กลิ่นสุคันธรสรื่นก็เหือดหาย
ฤๅว่าใครแนบน้องประคองกาย.. กลิ่นสายสวาทซาบอุรามาฯ
เนื้อเรื่องย่อ
ท้าวพรหมทัตกษัตริย์แห่งนครพาราณสีแม้จะอายุมากแล้ว แต่ก็มีพระมเหสีรูปงามกลิ่นกายหอมชื่อว่านางกากี พระองค์รักและหลงใหลนางกากี ไม่ให้มหาดเล็ก คนสนิทที่เป็นชายเข้าใกล้หรือได้เห็นนางยกเว้นที่จำเป็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หนึ่งในหนุ่มคนสนิทที่สามารถเข้าใกล้นางกากีได้คือ ?นาฏกุเวร? ผู้เป็นคนธรรพ์รูปงามมีหน้าที่บรรเลงดนตรี แต่งกลอน ขับกล่อม ให้แก่ท้าวพรหมทัต ในยามที่พระองค์เล่นสกากีฬาโปรดปรานกับพระสหายสนิท ตามปกติคนธรรพ์เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งเทวดาที่มีความสามารถสูง ยิ่งเป็นนาฏกุเวรผู้มีความเปรื่องปราชญ์ก็ยิ่งเป็นที่รักใคร่ไว้วางพระทัยของท้าวพรหมทัต นอกจากพระประยูรญาติที่ท้าวพรหมทัตโปรดให้เล่นสกาด้วยแล้ว พระองค์มีสหายสนิทผู้มีความลึกลับที่มีฝีมือการทอดสกาเทียบเท่าพระองค์นามว่าเวนไตย เวนไตยเป็นพญาครุฑที่มีวิมานชื่อฉิมพลี ตั้งอยู่ที่เชิงเขาพระสุเมรุเหนือดงงิ้ว ผู้มีร่างมาเป็นมานพรูปร่างสง่างามในเมืองมนุษย์ เวนไตยไม่ยอมบอกว่าตัวเองมาจากที่ไหน แต่ก็มาเล่นสกากับท้าวพรหมทัตอย่างสม่ำเสมอทุกๆ เจ็ดวัน
คำร่ำลือถึงความสง่างามของพญาเวนไตยจากสนมกำนัลมาเข้าหูนางกากี นางกากีลองแอบดูครั้งหนึ่งก็พอดีกับเวนไตยมองมา ทั้งคู่ต่างตื่นเต้นในความงามของกันและกันทำให้เวนไตยถึงกับทำอุบายลักพานางกากีไปจากท้าวพรหมทัต โดยการจำแลงตัวเป็นพญาครุฑบินไปบังแสงอาทิตย์ที่ส่องเมืองพาราณสีทำให้เมืองมืดมิดและอลหม่านจากการเกิดพายุใหญ่กระหน่ำ เวนไตยฉวยโอกาสนี้พาตัวนางกากีไปสมสู่ ณ วิมานฉิมพลี เนื่องจากนางกากีก็พึงพอใจเวนไตยเมื่อยามเป็นชายหนุ่มรูปร่างสง่างามในวิมานฉิมพลี ท้าวพรหมทัตเป็นทุกข์ระทมเมื่อนางกากีมเหสีสุดสวาทได้หายไปไม่สามารถตามหาได้ นาฏกุเวรผู้แอบหลงรักในรูปและกลิ่นกายของนางกากีอาสานำตัวนางกากีกลับ เพราะรู้ระแคะระคายเนื่องจากเหตุการณ์ในวันที่เวนไตยสบตากับนางกากีไม่พ้นจากสายตาของคนธรรพ์หนุ่มนี้ไปได้ นาฏกุเวรได้ผูกกลอนขับกล่อมขณะที่เวนไตยเล่นสกากับท้าวพรหมทัตจนสังเกตความผิดปรกติของเวนไตยได้ เมื่อท้าวพรหมทัตทรงอนุญาต การเล่นสกาครั้งต่อมานาฏกุเวรจึงแปลงร่างเป็นตัวไรเกาะปีกเวนไตยเมื่อเขากลายเป็นพญาครุฑตามไปถึงวิมานฉิมพลี เมื่อเวนไตยออกไปปฏิบัติภารกิจนอกวิมาน ก็คืนร่างเป็นนาฏกุเวรคนเดิม ด้วยความเสน่หาที่มีต่อนางกากี นาฏกุเวรก็ขอร่วมอภิรมย์สมสู่กับนางกากี โดยขู่ว่าจะไม่เปิดเผยความลับระหว่างเวนไตยกับนาง นางกากีเห็นว่านาฏกุเวรเปิดเผยว่ารักใคร่ตัวนางมาก่อน ก็ยอมสมสู่ด้วยเมื่อถึงกำหนดนัดเล่นสกากับท้าวพรหมทัต นาฏกุเวรก็จำแลงเป็นตัวไรเกาะปีพญาครุฑเวนไตยกลับเมืองพาราณสี และได้กราบทูลให้ท้าวพรหมทัตทำเป็นไม่ทราบเรื่อง ระหว่างการเล่นสกานาฏกุเวรก็แต่งกลอนยั่วยุให้เวนไตยโกรธ โดยพรรณาถึงรายละเอียดทุกอย่างที่นางกากีมี แสดงว่านาฏกุเวรได้ร่วมอภิรมย์รักโดยนางกากีก็สมัครใจ เวนไตยโกรธมากที่นางกากีทรยศต่อตัวเอง เมื่อกลับไปก็คาดคั้นเอาความจริงกับนางกากี แต่นางกากียอมรับตอนหลังอ้างว่าถูกบังคับ ซึ่งเวนไตยไม่เชื่อและส่งนางกากีกลับคืนเมืองพาราณสี ท้าวพรหมทัตทั้งรักทั้งแค้นทั้งอับอาย ทรงตัดเยื่อใยนางกากีและสั่งให้มหาดเล็กนำไปลอยแพในมหาสมุทร
นางกากีต้องเผชิญเคราะห์กรรมอย่างแสนสาหัส เมื่อนายสำเภามาพบนางสลบไสลบนแพ เรือนร่างที่สวยงามย่อมเป็นที่หมายปองของนายสำเภา เขาจึงได้นางกากีเป็นภรรยา ต่อมาโจรสลัดได้ปล้นเรือนายสำเภาและหัวหน้าโจรบังคับนางกากีให้เป็นภรรยาอีก ท่ามกลางความอิจฉาริษยาของสมุนโจร เพราะหัวหน้าโจรไม่ยอมแบ่งผู้หญิงให้เหมือนรายอื่นๆ ในที่สุดก็เกิดการแก่งแย่งนางกากีกันในหมู่โจร ถึงกับฆ่าฟันกันเอง นางกากีฉวยโอกาสหลบหนีพวกโจรได้ แต่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายในป่าจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด โชคดียังเป็นของนางกากี ที่บังเอิญมีกษัตริย์ชรานามว่าท้าวทศวงศ์ผู้เป็นหม้ายแห่งเมืองไพศาลีเสด็จมาเที่ยวป่า ได้นำนางกากีไปชุบเลี้ยงเป็นถึงมเหสี นางกากีไม่บอกความจริงให้ท้าวทศวงศ์เพราะกลัวความไม่ดีของตนเองจะทำให้ท้าวทศวงศ์ไม่รับอุปการะ จิตใจของนางยังไม่เป็นสุขถึงจะได้เป็นถึงมเหสี แต่ท้าวทศวงศ์ก็ทรงโปรดปรานมเหสีร่างงามและกลิ่นกายหอม
ตั้งแต่ท้าวพรหมทัตลอยแพนางกากีไป ก็ไม่มีความสุขกลับต้องระทมทุกข์ ถึงกับประชวรและสวรรคตในเวลาต่อมา เนื่องจากพระองค์ไม่มีทายาท ข้าราชบริพารจึงได้เลือกผู้ที่เป็นที่รักใคร่ของประชาชนและมีปัญญาเฉียบแหลมขึ้นครองราชย์แทน นาฏกุเวรได้รับเลือกเป็กษัตริย์แทนท้าวพรหมทัต คนธรรพ์หนุ่มผู้เป็นกษัตริย์ก็ยังรักอาลัยนางกากีอยู่ ได้สืบจนทราบว่านางกากีได้เป็นมเหสีของท้าวทศวงศ์ นาฏกุเวรจึงส่งสารทวงนางกากีในฐานะที่เคยเป็นมเหสีของกษัตริย์เมืองพาราณสีมาก่อน แต่เมืองไพศาลีไม่ยอม จึงได้เกิดสงครามระหว่างสองเมือง ในที่สุดนาฏกุเวรก็ยึดเมือง ไพศาลีได้ และรับนางกากีกลับมาเป็นมเหสีสมใจปรารถนา
Bookmarks