รถยางอ่อนก็เติมลม แบตเตอร์รี่มือถือใกล้หมดก็ชาร์จไฟ
สมองเราแอบง่วงก็เติมกาแฟ เพื่อปลุกสมองให้ตื่น
กำลังภายนอกออ่นแรงก็ไปออกกำลังกาย วิ่ง ว่ายน้ำ กินผักผลไม้มากๆ

ถ้ากำลังภายในเริ่มอ่อนแรง ลองหาเหตุผลเพื่อเข้าข้างตัวเองดู
ทำอย่างไรที่จะเติมพลังในตัวได้บ้าง..
คนแต่ละคนอาจมีวิธีในการเติมพลังต่างกัน
บางคนอาจไปทะเล นั่งดูคลื่นกระทบหาดทรายครืนๆ สูดอากาศเค็มๆ
บางคนอาจเข้าป่า ไปนอนบนดินกลิ้งบนหญ้า เข้าป่าดูนก สูดอากาศชื้นๆให้ชื่นใจ
บางคนเข้าห้างสรรพสินค้า บางคนดื่ม
บางคนบวช เพื่อตัดความอยากได้อยากมี ให้เหลือความต้องการน้อยที่สุด

บางคนอาจมีคำถามว่าทำอย่างไร ให้ใจรู้สึกดีขึ้น
สำหรับฉันกลับไม่มีคำว่า รถยนต์ มือถือ ทีวีจอยักษ์
หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอยู่ในคำตอบนั้นเลย

อินเทอร์เน็ต กับความรู้มากๆ
บางครั้ง..ฉันกลับคิดว่าเป็นเครื่องบั่นทอนกำลังในการขับเคลื่อนชีวิต

หลายครั้งที่ฉันสังเกตุตัวเอง
ฉันรับรู้ว่ากำลังใจของฉันอ่อนแรงลงจริงๆ
มันไม่กล้าอยากทำนั่นทำนี่เหมือนเมื่อก่อน
มันไม่คึกคักสนุกสนานบ้าบอเหมือนเมื่อก่อน
ไม่รู้เหมือนกันว่าใจดวงนี้มันกลัวอะไร
ไม่กล้าแม้แต่จะคิดรักใครสักคน

เวลาที่หมดพลังฉันพยายามที่จะเติมด้วยการเดินดูต้นไม้ ถ่ายรูป
ท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่ไม่วุ่นวาย ปิดมือถือ หยุดโลกออนไลน์
หรือคุยกับใครสักคนที่จะช่วยให้ใจหายป่วยได้ แต่ถ้ามันป่วยบ่อยๆก็ผุพังได้เช่นกัน

..ฉะนั้น..อีกวิธีหนึ่งที่ทำแล้วได้ผลก็คือ
อยู่ห่างๆคน สัตว์ สิ่งของ ที่จะบั่นทอนกำลังภายในให้หมดไป..

ทุกคนย่อมหมดไฟ หมดเรี่ยวเร็วที่จะขับเคลื่อนชีวิต
ลองหยุดบางสิ่งไว้ ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
สักวัน..เรา..จะผ่านบททดสอบนั้นไปได้ด้วยดี...




บันทึกที่เพ็นเขียนไว้นานแล้ว
เป็นบันทึกปลายปากกาที่เพ็นนำกลับมาเขียนด้วยปลายนิ้ว..

หวังว่าใครบางคนจะผ่านเข้ามาอ่าน
ด้วยรักและห่วงใย..จากคน(เคย)หมดไฟเหมือนกัน
เพ็นนี