ชี้วิกฤตเศรษฐกิจพ่นพิษนาน
สหประชาชาติ : เลขาธิการสหประชาชาติเตือนวิกฤตเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีกหลายปี และจะทำให้ครอบครัวนับล้านเผชิญกับความยากจน
นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวในการเปิดประชุมเศรษฐกิจโลกและวิกฤตเศรษฐกิจเป็นเวลา 3 วันว่า ทั่วโลกยังคงหาทางรับมือวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การก่อตั้งสหประชาชาติเมื่อ 60 ปีก่อน ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อไปอีกหลายปี ทำให้ครอบครัวนับล้านต้องเผชิญกับความยากจน และอีกหลายสิบล้านคนต้องตกงาน
เลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องให้ผู้นำประเทศร่ำรวยปฏิบัติตามคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่าจะให้เงินช่วยเหลือประเทศยากจน โดยไม่ควรหยิบยกประเด็นวิกฤตเศรษฐกิจมาเป็นข้ออ้างในการละเลยการช่วยเหลือประเทศยากจน ทั้งนี้ เลขาธิการสหประชาชาติยังเรียกร้องให้มีการยกเครื่องสถาบันการเงินระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าการประชุมของยูเอ็นตั้งแต่วันพุธถึงวันศุกร์นี้มีประเทศสมาชิกของสหประชาชาติเพียง 120 ชาติที่เข้าร่วมประชุม ส่วนใหญ่เป็นผู้นำและตัวแทนจากประเทศยากจนและกำลังพัฒนา แต่ชาติมหาอำนาจกลับไม่ให้ความสนใจส่งระดับรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ กลุ่มประเทศที่เข้าร่วมประชุมเป็นพวกที่มาจากทวีปแอฟริกา ประเทศในแถบทะเลแคริเบียน ละตินอเมริกา และเอเชีย
การประชุมครั้งนี้จีน ประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของเอเชีย ได้ส่งนายหยาง เจียชี รัฐมนตรีต่างประเทศ เข้าร่วมประชุม และได้กล่าวปราศรัยแนะนำว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลกควรเริ่มไปพร้อมกับการปฏิรูปองค์กรที่เป็นสถาบันการเงินอย่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟและเวิลด์แบงก์ ซึ่งจีนเห็นว่า 2 สถาบันนี้ควรมีตัวแทนจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเข้าร่วมเป็นตัวแทนที่มีอำนาจในการบริหาร มากกว่าจะให้ตกอยู่ในอำนาจบริหารของประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่
นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้เสนอแนะในที่ประชุมยูเอ็นว่า ทั่วโลกควรเตรียมสำรองเงินตราต่างประเทศให้มีเสถียรภาพเพื่อป้องกันไม่ให้นานาประเทศต้องตกเป็นเหยื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความผันผวนของค่าเงิน ที่จีนเคยเสนอเมื่อเดือนมีนาคมให้ใช้สิทธิถอนเงินพิเศษหรือ SDRs มาเป็นเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศแทนเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง SDRs เป็นสินทรัพย์ที่ IMF ออกมาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนสภาพคล่องในปี 1970 โดยให้ใช้ SDRs เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศได้ตามข้อตกลงเริ่มแรก กำหนดให้ SDRs 1 หน่วยมีค่าเท่ากับทองคำหนัก 0.8 กรัม หรือเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
การที่จีนเสนอ SDRs มาเป็นเงินทุนสำรองเนื่องจากในรอบปีที่ผ่านมาหลายประเทศต้องได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งจีนที่ลงทุนซื้อพันธบัตรดอลลาร์สหรัฐสูงกว่าประเทศอื่นๆในโลก หากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว สินทรัพย์ของจีนที่ลดทุนไปจะลดลง
หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
Bookmarks