เสียงกลองน้ำ
๑
ลำธารใสล่องรินเป็นระลอก
สายลมเช้าพัดพาคลื่นลูกน้อยเข้าจูบฝั่ง
เสียงสกุณาเริงร้อง
แมกไม้ริมธารรำฟ้อน
ดอกหญ้าหอมเริงระบำ
ลำไผ่ผิวเพลงขลุ่ยแว่วมา
๒
" ไปดูสาวชาวป่าตีกลองน้ำกันเถอะ"
หิ่งห้อยหนุ่มร้องชวนแมลงปอสาว
"ข้าฯเกรงว่าเสียงกระพือปีกบางของข้า จะทำให้สาวชาวป่าได้ยินและขวยอาย "
แมลงปอสาวลังเลใจ
" เสียงของเจ้าแผ่วเบายิ่งกว่าเสียงลมหายใจข้าฯ เสียอีก" หิ่งห้อยว่า...
แล้วทั้งคู่ก็บินเล่นลมไปสู่ลำธารดาว
" น้ำในลำธารมาจากไหนกันนะ" แมลงปอสาวกระซิบถาม
" มาจากลำธารดาว ซึ่งเอื่อยไหลมาจากหุบเขาหมอกมิวายอันไกลโพ้น...
รากไม้ที่หยั่งรากลึกลงผากผาหิน กลั่นเป็นหยดน้ำเล็กๆ หลายล้านหยด
แทรกซึมผ่านรอยแตกของผาหิน แล้วรวมตัวกันเป็นสายธาร"
๓
ณ ที่นั่น เด็กสาวชาวป่าผู้น่ารัก
เธอเก็บผักหวาน ไปฝากกวีหนุ่มผู้เดียวดายที่กระท่อมใบตองตึง
พอยามตะวันคล้อยต่ำ สาวเจ้าลงเล่นน้ำในลำธารดาว
มือน้อยตีน้ำ วักอากาศเข้าผ้าถุง จนผ้าถุงโป่งพองเหมือนลูกโป่งสวรรค์
ขมวดปม แล้วตีผ้าถุงเสียงดัง
ตึงตุ้ม...ตึงตุ้ม...ตะตีเติ่น
ตึงตุ้ม...ตึงตุ้ม...ตะตีเติ่น
ตึงตุ้ม...ตึงตุ้ม...ตะตีเติ่น
๔
แมกไม้ชายฝั่งร่าเริงสดใส
ดอกหญ้าร่ายดอกยิ้มชื่น
สกุณาร้องเพลงเจื้อยแจ้ว
หิ่งห้อยหนุ่ม แมลงปอสาว
เกาะนิ่งบนยอดหญ้ายอดเดียวกัน
สดับฟังสำเนียงแห่งป่านั้น
สัมผัสถึงความเรียบง่าย
สัมผัสใจที่เบิกบาน
ในชีวิตที่สุขสงบ
ละไมฝน[/COLOR]
Bookmarks