กำลังแสดงผล 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3

หัวข้อ: การ์ตูนเล่มละบาท ขายหัวเราะ บักม่วง...และเพื่อน

Threaded View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    Super Moderator
    Guide & Photographer
    สัญลักษณ์ของ เจ้าซายน้อย
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    ที่อยู่
    อยู่ในใจเสมอ
    กระทู้
    1,412

    บ้านมหาโพสต์ การ์ตูนเล่มละบาท ขายหัวเราะ บักม่วง...และเพื่อน

    หากนิยายภาพเล่มละบาทคือก้าวแรกของการอ่าน

    ขายหัวเราะ-มหาสนุกคงเป็นเหมือนผู้ชักชวนและจูงมือสู่โลกของหนังสือ
    แก๊กโจรมุมตึก หมอผี ขอทาน ร้านอาหาร ล้อการเมือง ฯลฯ สร้างเสียงหัวเราะให้ผมเสมอ (แม้ใครจะค่อนว่าอ่านขายหัวเราะแล้วหัวเราะ แสดงว่าเส้นตื้นมากๆ อ่านทีไรไม่ขำสักนิด แถมเครียดอีกต่างหาก)

    จากภาพการ์ตูน ผมขยับมาอ่านขำขันและเรื่องสั้นประจำฉบับในที่สุด
    โดยเฉพาะ "หมง หงจินเป่า" และผองเพื่อนชาวชมรมกอดลมไว้ อย่าให้หงอยนั่น ผมแทบไม่พลาดเลยสักตอนเดียว ทั้งที่มีภูมิลำเนาในเขตภูธรไม่ใช่เขตสาธรอย่างใครเขา
    และแทบไม่รู้ตัวสายตากับหัวใจได้ขยับขึ้นไปอ่านหนังสือเล่มหนาหนัก พร้อมกับละสายตาจากลายเส้นของเหล่านักเขียนในดวงใจ (ผมชอบ มะเดี่ยวศรี หลานยายปริก) และวางมือจากหนังสือขนาดพกพาเหล่านั้น

    เราพบพานกันบ้างตามร้านขายข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านตัดผมและบางมุมของร้านกาแฟ(หรู?) ได้อ่านแค่เพียงชั่วรอ ก่อนจะทำอย่างอื่นต่อไปไม่ได้ตามอ่านเหมือนที่ผ่านมา

    เมินด้วยซ้ำเมื่อเห็นแก๊กต่างๆจากนักเขียนของ บก.วิธิต วางแผ่หลาบนแผง
    ไม่ใช่ไม่อยากหัวเราะหรือด้านชากับความตลก แต่ชะตากรรมเล่นตลกมากพออยู่แล้ว

    เหล่านี้จึงถูกมองผ่านไป
    เหมือนมะม่วงต้นแก่หน้าบ้าน...

    กิ่งที่คดงอ ก้านที่เก่าผุ กับใบบางที่อย่าหวังว่าจะอาศัยบังแดดบังฝนได้นั้น เป็นเหตุผลที่ถูกละเลย

    ไม่โดนตัดทิ้งนี่ก็ถือว่าเป็นบุญคุณมากแล้ว

    ยังไม่นับลูกที่มีบ้าง ไม่มีบ้างในบางปี และถึงมีลูก รูปผลก็ไม่น่ากิน ลูกเล็ก เปลือกดำด่าง หนำซ้ำเม็ดยังใหญ่ อย่าหวังถึงการปอกเปลือกแล้วกินเนื้อเลย แค่ได้แทะเนื้อจากเปลือกก็ถือว่าดีนักหนา

    หลายครั้ง น้าเก็บลูกที่ร่วงมาแช่ไว้ในตู้เย็น
    ไม่รู้ว่าจะเอามะม่วงแบบนี้มาเปลืองพื้นที่ทำไม...

    ในวันที่ไม่มีอะไรให้เลือกกินนอกจากมะม่วงเหล่านี้ ผมจำใจเลือกลูกที่ผิวสวยที่สุด แล้วกัดชิม...อย่างที่เคยรู้มานาน เปลือกหนากับเม็ดโตนั้นยังเป็นเหมือนเก่า ไม่มีทีท่าว่าจะกลายพันธุ์


    มีแต่ผมที่กลายไปเอง...

    นึกถึงมะม่วงกะล่อนต้นใหญ่หลังบ้านยาย กับเด็กชายคนหนึ่ง
    มะม่วงที่เราไม่รู้เลยว่าลูกไหนสุกเวลาที่ยังอยู่บนต้น ต้องรอเวลาเช้าตรู่ ยายปลุกให้ไปเก็บมะม่วง เมื่อนั้นจึงได้เห็นลูกสุกเกลื่อนหล่นใต้ต้น เปลือกที่ยังเขียวดูไม่ต่างจากลูกที่อยู่เหนือหัว มีเพียงเนื้อในที่เหลืองอมส้มกับกลิ่นหอมแรงเท่านั้นที่บอกว่าไม่เหมือนกัน

    ยังไม่นับรสหวานเฉพาะตัวนั่นอีก
    ทุกหน้าร้อนที่มุมปากของเด็กชายจะเปื่อยเป็นแผล เพราะยางมะม่วง...

    รสมะม่วงหน้าบ้านไม่ได้หอมหวานเหมือนมะม่วงกะล่อน ออกจะเปรี้ยวกว่าและรสชาติไม่ต่างจากมะม่วงที่ขายตามท้องตลาดเท่าใดนัก

    แต่อย่างหนึ่งที่รู้สึกหลังจากกัดกินคือความสบาย
    สบายที่ไม่ต้องปอกเปลือก
    สบายที่เดินกินและคายเปลือกทิ้ง
    สบายที่มันง่าย อยากกินเมื่อไรก็ใช้ไม้สอยลงมา
    สบาย...ใจ

    ....

    วันก่อนอยู่ๆผมนึกอยากอ่านขายหัวเราะขึ้นมา จึงไปดูที่แผงขายหนังสือหน้าร้านขายยา
    และไม่ผิดหวังหนังสือจากสำนักพิมพ์บรรลือสาส์นหลายปก วางรอผมอยู่แล้ว
    เลือกหยิบมาเล่มหนึ่ง เมื่อเปิดอ่านความสุขเดิมๆก็กลับมา
    ผมหัวเราะกับมุกเก่าๆ

    ...

    เช่นเดียวกันกับเพื่อน
    ที่สุดเราก็อยากนั่งคุยกับคนที่สามารถเปิดเปลือยความรู้สึก อยู่ด้วยแล้วสบายใจ และพร้อมช่วยเหลือทุกครั้งในยามที่ต้องการ


    ...พร้อมทั้งหัวเราะดังๆกับความหลังที่เก่าเก็บ

    ปล1. เว่าความหลังแต่ว่ายังบ่เฒ่า
    ปล2. อีหลี
    ปล3. ซั่นด่อกหวา
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจ้าซายน้อย; 01-07-2009 at 20:11.

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •