10 ก.ค. 2552 ฉันเขียนไดอารี่เรื่องนี้ พูดถึงเรื่องราวของ
เพื่อนรักที่ไม่พบกันนานหลายปี วันที่เขียนตั้งใจว่าอีกไม่นานจะพบเพื่อนคนนี้ แต่ก็มี
เหตุให้ไม่พบกัน ฉันพยายามโทรศัพท์หาเธอ แต่ก็โทรไม่ติด จนวันนี้ ผ่านไป 2
ปีกว่า วันนี้ 16 มี.ค. 2555 มีคนมาขอเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊ค ดูรูปที่โชว์ในคราแรก
ฉันจะไม่รับแอดแล้ว แต่เมื่อเพ่งมองให้ชัดเจน นั่นมันเพื่อนรักเรานี่หว่า... พอกดรับไป
เรื่องราวที่เราอยากคุยกันก็พร่างพรูผ่านหน้าจอเล็ก ๆ นี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าชอบ
เฟสบุ๊คขึ้นมา.. เรื่องราวชีวิตของเธอที่เธอบอกเล่า มีทั้งสุข และทุกข์ จนฉันอดไม่ได้ที่
จะน้ำตาซึม ครอบครัวที่เคยมีความสุข ต้องมลายลง เพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของ
ใครคนหนึ่ง ทั้งที่เธอและสามีรักกันคงมั่น เมื่อต้องถูกพราก สามีและลูกอันเป็นที่รัก
ออกจากอก เธอแทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่เธอผ่านช่วงเวลานั้นมาได้เพราะ
กำลังใจที่เข้มแข็ง ชีวิตที่เธอเล่าทำให้ฉันตระหนักได้ว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งใดจีรัง ยั่งยืน
เมื่อวานสุขจนล้น แต่วันนี้อาจทุกข์เจียนตาย ฉันเพิ่งจะเข้าใจว่าเหตุใดพุทธองค์ท่านจึง
ทรงไม่ให้ยึดติดกับสิ่งใดมากจนเกินไป หลังจากที่เราคุยกันผ่านตัวอักษรแล้ว เราก็พูด
คุยกันผ่านทางโทรศัพท์อีกครั้ง ถึงแม้เวลานี้ชีวิตเธอจะดีขึ้น มีคนมาเคียงข้างเธอดูแล
เธอ แต่ความรู้สึกเธอคงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฉันก็ได้แต่ภาวนาว่าเวลาจะช่วยเยียว
ยา แผลในใจเธอให้เบาบางลง แม้ไม่หายขาดแต่คงไม่เจ็บปวด เราสัญญากันอีกครั้ง
ว่าเราจะพบกัน ฉันจะเดินทางไปพบเธอเอง เวลานี้เราอยู่ห่างกันเพียง 100 กิโลเมตร
เท่านั้น เราต้องพบกัน "ดำแข่วหว่อง" .............
Bookmarks