โสเภณี กับ นักบวชประเทศญี่ปุ่น มีนักบวชนิกายเซ็นรูปหนึ่งตั้งสำนักอยู่ริมถนน

และในขณะเดียวกันก็มีสำนักของหญิงโสเภณ๊นางหนึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับสำนักของนักบวชรูปนี้
ทุกๆวันถนนสายนี้ก็จะมีคนพลุกพล่านเดินไปมาอยู่เป็นประจำ

บางคนก็เข้าไปฟังธรรมจากนักบวช
บางคนก็เข้าไปใช้บริการของหญิงโสเภณี
บางคนฟังธรรมเสร็จก็เข้าไปใช้บริการหญิงโสเภณีก็มี (โอ้! แม่เจ้า)


อยู่มาวันหนึ่ง นักบวชท่านนี้ได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน
และเป็นเรื่องที่ประหลาด ที่หญิงโสเภณีนางนั้นก็เสียชีวิตในวันนั้นเหมือนกัน
ทั้งสองมาเจอกันอีกครั้งต่อหน้าท่านยมบาล ซึ่งเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ตัดสินคนที่ตายแล้วให้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก นางโสเภณีเห็นนักบวชท่านนั้นแล้ว นางก็บรรจงยกมือไหว้นักบวชท่านนั้นอย่างอ่อนช้อย
ในขณะที่นักบวชมองดูนางด้วยหางตาอย่างดูแคลน


จนถึงเวลาที่ท่านยมบาลตัดสิน..
"ข้าได้ดูบัญชีหนังหมาแล้ว" ท่านยมกล่าว และหันหน้าไปทางสุวาน ซึ่งเป็นสมุนของท่านและตะโกนเรียกด้วยเสียงกึกก้องมีอำนาจ
"สุวาน!"


"ครับท่าน" สุวานขานรับ

"เจ้าจงนำโสเภณีนางนี้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และเจ้าจงนำนักบวชนี้ไปนรกโลกันต์"

"ได้ครับท่าน" สุวานขานรับอย่างแข็งขัน


"เดี๋ยวก่อน! ท่านยมบาล" นักบวชร้องขึ้นด้วยความตกใจ
"ท่านตัดสินกลับกันหรือเปล่า หรือว่าท่านเข้าใจผิดอะไรบางอย่างหรือเปล่า?"

"ทำไมหรือ ท่านนักบวช?" ท่านยมถาม


"ก็ตัวข้าเป็นนักบวช เทศน์สั่งสอนคนเป็นอันมาก มีคนฟังธรรมข้าแล้วมากมายที่ประพฤติตัวดีขึ้น
ข้าได้อนุเคราะห์คนมากมายขนาดนี้ ทำไมข้าถึงตกนรก แต่นางโสเภณีนั่น!......."

ท่านนักบวชชี้มือไปที่หญิงโสเภณีนั้น ซึ่งตอนนี้สีหน้านางสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
"นางเป็นโสเภณี! และตลอดชีวิตของนางก็ไม่ได้ทำคุณงามความดีอะไรเลย แต่ทำไมนางถึงได้ขึ้นสวรรค์ ข้าว่าท่านตัดสินลำเอียงแน่ๆ" ท่านนักบวชกล่าวขึ้นด้วยโทสะ


"ฟังนะ ท่านนักบวช" ท่านยมเอ่ยขึ้นด้วยสุรเสียงกังวาน แต่สีหน้าอมยิ้ม

"ตลอดเวลาที่หญิงนางนั้นเป็นโสเภณี นางไม่ได้ทำดีด้วยการแสดงออก ก็จริงอยู่
แต่ในขณะที่นางรับแขกอยู่นั้น นางกลับเงี่ยหูฟังท่านแสดงธรรม
พอท่านกล่าวธรรมจบ นางก็ประนมมือสาธุทุกครั้ง และได้อธิฐานว่า
ที่นางต้องมาเป็นโสเภณีอยู่นี้ เพราะกรรมไม่ดีที่นางได้เคยทำไว้
นางจึงขอทำความดีด้วยการฟังธรรมและอนุโมทนาบุญกับท่านทุกครั้ง นางคิดอย่างนี้..."


ท่านยมหยุดนิดหนึ่ง
"แต่ตัวท่านน่ะสิ..." คราวนี้ท่านยมเริ่มหัวเราะน้อยๆ

"ท่านนั่งเทศน์อยู่ แต่ในใจท่านกลับนึกถึงแต่นาง และคิดอยู่ตลอดว่า ถ้าได้เข้าไปใช้บริการนางสักครั้งจะไม่ลืมพระคุณ ...ก๊าก กกกกก..กก!!!!!!!!!!!!!!"

คราวนี้ทั้งท่านยมและสุวานหัวเราะขึ้นพร้อมกัน จนน้ำตาไหล


มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา
มนสา เจ ปสันเนน ภาสติ วา กโรติ วา
ตโตนังสุขมเนวติ ฉายาว อนุปายินี
- ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้า สำเร็จด้วยใจ
ถ้าบุคคลใดมีใจชั่วแล้ว พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม (ย่อมชั่ว)เพราะความชั่วนั้น
ทุกข์ย่อมตามบุคคลนั้นไป ดุจเงาติดตามตนไป ฉะนั้น