กำลังแสดงผล 1 ถึง 5 จากทั้งหมด 5

หัวข้อ: ภาษาอังกฤษแบบผิด ๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย

  1. #1
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ต้นข้าว
    วันที่สมัคร
    Dec 2007
    กระทู้
    588

    ภาษาอังกฤษแบบผิด ๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย



    ภาษาอังกฤษแบบผิด ๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย

    1) อินเทรนด์ ( in trend for) คำนี้อินเทรนด์มาก ๆ เอ๊ย...ฮิตมาก ๆ ในปัจจุบันสามารถได้ยินตามรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ทั่วไป เพราะใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

    เช่น เด็กสมัยนี้ถ้าจะให้อินเทรนด์ต้องตามแฟชั่นเกาหลี ซึ่งบางทีเวลาคุณต้องการพูดว่า " มันทันสมัย " คุณอาจจะติดปากว่า "It is in trend." คำว่า " ทันสมัย " ฝรั่งเค้าไม่ใช้คำว่า "in trend" อย่างคนไทยหรอกครับ

    เค้าจะใช้คำว่า "trendy" หรือ "fashionable" ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ที่คุณสามารถวางไว้หน้าคำนามที่ต้องการขยาย เช่น a trendy haircut ทรงผมที่ทันสมัย , a fashionable restaurant ร้านอาหารที่ทันสมัย หรือจะไว้หลัง verb to be เช่น It is trendy. หรือ It is fashionable. ก็ได้

    2) เว่อร์ ( over) เช่น ใยคนนั้นทำอะไรเว่อร์ๆ She is over. ไม่มีความหมายแต่อย่างใดในภาษาอังกฤษ ฝรั่งที่ได้ยินคุณพูดเช่นนี้ คงมึนตึบพร้อมทำสีหน้างง ๆ ว่ามันหมายถึงอะไรเหรอ ?

    พูดถึงคำนี้ คนไทยน่าจะหมายถึงการพูดเกินจริงหรือทำเกินจริง ซึ่งถ้าพูดเกินจริงควรจะใช้คำศัพท์ที่ว่า "exaggerate" เป็นคำกิริยา อ่านว่า เอก-แซ้ก-เจ่อ-เรท เช่น "He said you walked 30 miles." เค้าบอกว่าคุณเดินตั้ง 30 ไมล์ "No - he's exaggerating. It was only abou 15." ไม่หรอกเค้าพูดเว่อร์ (เกินจริง) มันก็แค่ 15 ไมล์เอง

    ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า เธอพูดเว่อร์น่ะ ก็บอกว่า You're exaggerating. หรือจะบอกเค้าว่า อย่าพูดเว่อร์ๆ น่ะ อาจใช้ว่า Don't exaggerate.
    ส่วนอาการเว่อร์อีกแบบคือการทำเกินจริง เราจะใช้คำกิริยาที่ว่า "overact" เช่น You're overacting. เธอทำเว่อร์เกิน (แสดงอารมณ์เกินจริง)



    3) ดูหนัง soundtrack เวลาคุณจะบอกใครว่าฉันต้องการดูหนังฝรั่งที่พากย์ภาษาอังกฤษอย่าพูดว่า "I want to watch a soundtrack film." แต่ควรจะใช้ว่า "I want to watch an English film."

    เพราะความหมายของคำว่า "soundtrack" คือ ดนตรีที่อยู่ในภาพยนตร์ต่างหากล่ะครับ ถ้าเราจะพูดถึงหนังฝรั่งที่พากย์เสียงภาษาไทย เราต้องบอกว่า "I want to watch an English film that is dubbed into
    Thai." เพราะคำกิริยาว่า "dub" คือพากย์เสียงจากต้นแบบในหนังหรือรายการโทรทัศน์ไปเป็นภาษาอื่น

    ส่วนหนังที่มีคำบรรยายใต้ภาพเราเรียกว่า "a subtitled film" ซึ่งคำบรรยายที่อยู่ใต้ภาพ เราเรียกว่า "subtitles" ( ต้องมี s ต่อท้ายเสมอนะครับ) เช่น a French film with English subtitles หนังฝรั่งเศสที่มีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาอังกฤษ

    หนังบางเรื่องจะมีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาเดียวกับที่นักแสดงพูดเรามีศัพท์เรียกเฉพาะว่า "closed-captioned films / คำหวงห้าม / television programs" หรือ อาจเขียนย่อๆ ว่า "CC"
    เช่น You should watch a closed-captioned film to improve your English. คุณควรจะดูหนังฝรั่งที่มีคำบรรยายภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ




    4) นักศึกษาปี 1 คนไทยมักเรียกว่า "freshy" ซึ่งฝรั่งไม่รู้เรื่องหรอกครับเพราะไม่มีการบัญญัติศัพท์คำนี้ในภาษาอังกฤษเค้าจะใช้คำว่า "fresher" หรือ "freshman" เช่น He is a fresher. หรือ He is a freshman. หรือ He is a first-year student. เขาเป็นนักศึกษาปี 1

    ส่วนปีอื่นๆ คนไทยเรียกถูกแล้วครับ คือ ปี 2 เราเรียก a sophomore, ปี 3 เรียกว่า a junior และ ปี 4 เรียกว่า a senior

    5) อัดหรือบันทึกคนไทยมักพูดทับศัพท์ว่าเร็คคอร์ด (record) คำๆ นี้สามารถเป็นได้ทั้งคำนามและคำกิริยาเพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่ง stress กล่าวคือ ถ้าจะใช้เป็นคำนามที่แปลว่า แผ่นเสียงหรือสถิติ ให้ขึ้นเสียงสูงที่พยางค์แรกคือ " เร็ค-คอร์ด " เช่น He wants to buy a record. เขาต้องการซื้อแผ่นเสียง , I broke my own record. ฉันทำลายสถิติของฉันเอง

    แต่ถ้าคุณจะหมายถึงคำกิริยาที่แปลว่าอัดหรือบันทึก ต้อง stress พยางค์หลังซึ่งจะอ่านว่า " รี-คอร์ด " เช่น I'll record the film and we can all watch it later. ฉันจะอัดหนังเราจะได้เก็บไว้ดูทีหลังได้

    ส่วนเครื่องบันทึกเราเรียกว่า "recorder" อ่านว่า รี-คอร์-เดอร์

    6) ต่างคนต่างจ่ายเรามักใช้ American share รับรองว่าฝรั่ง (ต่อให้เป็นชาวอเมริกันด้วยครับ) ได้ยินแล้ว งงแน่นอน ถ้าคุณจะหมายถึงต่างคนต่างจ่ายให้ใช้ว่า "Let's go Dutch." หรือ "Go Dutch (with somebody)."

    อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นธรรมเนียมของชาวดัตช์หรือเปล่า ? ที่ต่างคนต่างจ่ายเลยมีสำนวนอย่างนี้ หรือคุณอาจจะบอกตรงๆ เลยว่า "You pay for yourself." คือเป็นอันรู้กันว่าต่างคนต่างจ่าย

    แต่ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้ามือ (ไม่ใช่เล่นไพ่นะครับ) เลี้ยงมื้อนี้เอง คุณควรพูดว่า "It's my treat this time." หรือ "My treat." หรือ "It's on me. " หรือ "All is on
    me. " หรือ " I' ll pay for you this time." ทั้งหมดแปลว่า มื้อนี้ฉันจ่ายเอง
    ส่วนถ้าจะบอกเพื่อนว่า คราวหน้าแกค่อยเลี้ยงฉันคืนให้บอกว่า " It's your treat next time."


    7) ขอฉันแจม ( jam) ด้วยคน ในกรณีนี้คำว่า " แจม " น่าจะหมายถึง " ร่วมด้วย " เช่น We are going to eat outside. Do you want to jam? เรากำลังจะออกไปกินข้าวข้างนอกเธอจะไปด้วยมั้ย ? ในภาษาอังกฤษไม่ใช้คำว่า jam

    ในกรณีแบบนี้ ซึ่งควรจะใช้ว่า "Do you want to join us?", "Do you want to come with us?" หรือ "Do you want to come along?" จะดีกว่าครับ

    8) เขามีแบ็ค ( back) ดี "He has a good back." ฝรั่งคงงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับข้างหลังของเค้า เพราะ back แปลว่า หลัง (อวัยวะ) แต่คุณกำลังจะพูดถึงมีคนคอยสนับสนุน ซึ่งต้องใช้ "a backup" ซึ่งหมายถึง คนหรือสิ่งของที่ช่วยสนับสนุนช่วยเหลือ เกื้อกูล เป็นกำลังใจให้
    __________________

    ที่มา fwdmail.

  2. #2
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    ดาวไม่ค่อยมายกับอาหารการกินเท่าไหร่หรอกค่ะ

    ปลาร้าสับกับผักต้ม กับสติ๊กกี้ไรท์ แอนด์ ปาปาย่าสลัด

    ก็ถือว่ามีคุณค่าทางอาหารมากกว่าอาหารจั๊งฟู้ดอีก

    หลายคนอาจไม่เซ้นซิทีฟกับเรื่องเหล่านี้ เหมือนดาว

    แต่ที่มหาลัยดาว เค้าไม่แคร์กับเคสนี้

    บางคนกินสแน็ก (อาหารว่าง) ไปด้วย

    จึงอ้วนเอา ๆ ดาวไม่ชอบอ่ะ ดาวชอบหุ่นเพรียว

    เพราะดูเซ็กซี่ ๆ ดี ดาวจึงได้เป็นดาวมหาลัยไงคะ

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ:1- :1-

  3. #3
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ รินเมืองร้อยเกิน
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    ที่อยู่
    เกษตรวิสัย - ร้อยเอ็ด
    กระทู้
    368

  4. #4
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ไทสกลฯ
    วันที่สมัคร
    Jun 2009
    กระทู้
    217
    5555555 บู้ย..ย สมพอ ดาวจังสลิมบอดี้ บ่แฟ็ตตี้ คือผู้ลางคน อิอิ

  5. #5
    ศิลปิน นักร้อง นักแสดง
    มิสบ้านมหา 2011
    สัญลักษณ์ของ ผู้ก่อการรัก
    วันที่สมัคร
    Feb 2006
    ที่อยู่
    HappyLand ดินแดนแห่งความสุข, Thailand
    กระทู้
    3,161
    กินแต่ Food Floor House (อาหารพื้นบ้าน) เนาะ อ้ายพล เอิ๊กๆ
    ล้มแล้วฟื้นยืนสู้ชูช่อใหม่ เพราะต้นยังสดใสผลิใบเขียว
    ลุกขึ้นต้านลมฝนต้นเป็นเกลียว รากยึดเหนี่ยวซับซ้อนกับพื้นดิน



กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •