-
-
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
นิทานปรัมปรา
ด้วยเหตุนี้แหละ นิทานปรำปราหรือ myth ของชาติต่าง ๆ มักจะกล่าวว่า เผ่าพันธุ์ของตนเป็นเชื้อสายของมังกร เช่น คนจีนก็บอกว่าตัวนะมีเชื้อสายมังกร ถ้าคนล้านนาก็เชื้อสายพญานาค พญานาคทั้งล้านนา ทั้งอีสาน ทั้งพม่า ทั้งมอญ เชื้อสายนาคทั้งนั้น เพราะการสร้างโบสถ์สร้างวิหารนั้น เอานาคมาประกอบกัน ส่วนเขมรนั้นเชื่อว่าตัวมีเชื้อสายตะกวด
ในเรื่องของนิทานปรัมปรา เช่น ปรัมปราของอาณาจักรน่านเจ้า ยกตัวอย่างของน่านเจ้า นี่ก็เล่าว่ามีชายคนหนึ่งชื่อมุงสือทู้ ชื่อเป็นคนจีน ที่จริงเป็นชื่อไทยอย่างหนึ่งก็ได้นะ มุงสือทู้ เขาไปหาปลาที่ทะเลสาป ยี่โล้ว แล้วก็ไปจมน้ำตายในทะเลสาปนั้น ขอแทรก คำว่าทะเลสาป ทะเลสาป คำว่า ทะเล แปลว่า
แหล่งน้ำขนาดใหญ่ คำว่าสาป แปลว่า น้ำจืด ฉะนั้น ทะเลใช้เรียกแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำเค็ม ส่วนทะเลสาป จะใช้เรียกแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำจืด แต่ก็ไม่เสมอไป ทะเลสาบเดดซีนั่นน้ำเค็มจัดเลย และ สาป เขมรแปลว่า จืด นี่แทรกเข้ามา ตอนนี้ถึงตอนที่ว่า
มุงสือทู้ไปหาปลาที่ทะเลสาบยี่โล้วแล้วจมน้ำตาย พอจมน้ำตายเนี่ย ภรรยาชื่อว่านางชาหู ภรรยาเห็นสามีจมน้ำตาย ก็มาร้องไห้ที่ทะเลสาบนั้น ร้องไห้ไปร้องไห้มา ขณะนั้นมีขอนไม้ขนาดใหญ่อันหนึ่ง ลอยมากระทบเท้าของนาง นางก็ตกใจวิ่งหนีมาพบลูกชายทั้งสิบของนาง ก็พากันมามุงดู มุงดูที่ที่มุงสือทู้จมน้ำตาย
ทั้งหมดก็เห็นท่อนไม้นั้นกลายร่างเป็นมังกร และมังกรก็ร้องถามว่า "ลูกฉันอยู่ไหน ลูกฉันอยู่ไหน" มังกรถามอย่างนี้ พวกลูก ๆ ของนางเนี่ยทั้งเก้าคนเนี่ยมีสิบ เก้าคนนี่ ตกใจวิ่งหนีกันไปหมดเลย เหลือคนสุดท้องไม่กลัว ไม่กลัวเลยเดินเข้าไปหามังกร ไม่รู้ว่าตัวอะไรเลยเดินเข้าไปหามังกร และก็นั่งตรงนั้น ฝ่ายมังกรพอเห็นเด็กมานั่งใกล้ ก็เอาลิ้นเลียหลังเล่น
มังกรเอ็นดูเด็ก เอาลิ้นเลียหลังเล่น คำว่า "หลัง" ภาษาพื้นเมืองเขาเรียกว่า "ซิ้ว" ส่วนคำว่า "นั่ง" ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า "ลุง" พวกนี้เขาเลยถือว่า เขามีตระกูลเป็น "ต้นตระกูลซิ้วลุง" ของอาณาจักรน่านเจ้า และพี่น้องทั้งสิบต่อมาก็แต่งงานกัน มีลูกมีหลานทุกคนในตระกูล และทุกคนในตระกูลก็จะสักรูปมังกรไว้บนร่างกาย มีลูกหลานสืบมาเป็นตระกูล ทุกคนก็จะสักรูปมังกรบนร่างกายเป็นเครื่องหมายประจำตระกูล
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
กำเนิดชนชาวอ้ายลาว
เรื่องของพวกน่านเจ้ามันคล้ายกับนิทานปรำปราของกำเนิดชนชาวอ้ายลาว อันนี้ในหนังสือเรื่อง เรื่องของชาติไทย หนังสือชื่อ เรื่องของชนชาติไทย ซึ่งท่านเจ้าคุณอนุมานราชธนได้เขียนเล่าไว้ เล่าว่า หญิงคนหนึ่งชื่อว่าซ้ายัด ซ้ายัดนี่อาศัยอยู่แถบภูเขาอ้ายลาว
มีอยู่วันหนึ่งนางไปจับปลาที่แม่น้ำไปถูกต้นไม้ที่จมอยู่ พอไปถูกต้นไม้ที่จมอยู่ ไปโดนต้นไม้เท่านั้น นางตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์เองอย่างประหลาด กำเนิดบุตรสิบคน
วันหนึ่งต้นไม้นั้นกลายร่างเป็นมังกร ปรากฏขึ้นเหนือน้ำ ก็ถามนางว่า "คลอดบุตรแล้วใช่ไหม เวลานี้บุตรอยู่ไหน" ฝ่ายพวกลูกของนางทั้งสิบได้ยินก็ตกใจวิ่งหนี แต่ลูกคนเล็กหนีไม่ทัน ไปนั่งพิงอยู่ข้างหลังมังกรด้วยความตกตะลึง มังกรก็เลียเด็กนั้น นางซ้ายัดจึงตั้งชื่อเด็กชายคนนั้นว่า เก๋าหล่ง เก๋า แปลว่า พิง หล่ง แปลว่านั่งหรืออาศัย
เมื่อเด็กทั้งสิบโตขึ้น พี่น้องทั้งเก้าเห็นน้องชายหรือเก๋าหล่งมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด จึงยกย่องให้เป็นหัวหน้า ต่อมาก็ได้แต่งงานแต่งการกัน มีลูกหลานมากมายแตกแยกเป็นสาขากว้างขวาง ล้วนแต่เรียกตัวเองว่าพวกอ้ายลาว ชาวอ้ายลาวโดยส่วนใหญ่ในยุคนั้นจะสักรูปมังกรไว้ที่ร่างกายเป็นสัญลักษณ์
พวกอ้ายลาว จะสักรูปมังกรเป็นสัญลักษณ์ ถ้าสังเกตดี ๆ ว่าทางตอนใต้ของจีนจะนิยมสักรูปมังกร ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรน่านเจ้าหรืออย่างไรก็แล้วแต่ อาณาจักรน่านเจ้า ถ้าท่านสนใจจะศึกษาให้ละเอียดนะครับ ก็มีจารึกอยู่หลักหนึ่งนะท่านนะ ชื่อจารึกน่านเจ้า หรือ กิมเจียะซุ่ยผิ่น ซึ่งขุนนางชื่อหวางฉั่นเขาจัดการแต่งขึ้น
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks