กำลังแสดงผล 1 ถึง 4 จากทั้งหมด 4

หัวข้อ: มังกรทำให้เกิดสุริยคราสและจันทรคราส

  1. #1
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ auddy228
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    ที่อยู่
    THAILAND
    กระทู้
    1,176
    บล็อก
    1

    สว่างใจ มังกรทำให้เกิดสุริยคราสและจันทรคราส

    มังกร เป็นผู้ทำให้เกิดสุริยคราสและจันทรคราส


    มังกรทำให้เกิดสุริยคราสและจันทรคราส


    ชาวจีนโบราณ นิยมนำเอาหยกมาแกะเป็นแหวนรูปมังกรคาบแก้ว ใช้สวมนิ้วติดตัว ไปไหนก็ติดตัวไป

    เพราะเชื่อกันว่าเวลาเดินทางข้ามแม่น้ำหวงเหอ เขาก็จะจะถอดแหวนมังกรทิ้งลงในแม่น้ำ เพื่อเป็นการเซ่นสังเวยพญามังกร ถ้าทำเช่นนี้จะช่วยคุ้มภัยอันตรายได้

    จีนเขามีแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดสองสายคือ แม่น้ำหวงเหอ กับแม่น้ำหยางจื้อเจียง ทั้งหวงเหอ ทั้งหยางจื้อเจียงมีสายน้ำเชี่ยวมาก ทำให้คนตายเยอะเลย น้ำท่วมแต่ละปีเป็นหมื่นเลย ตายทุกปี ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน

    คนไทย เรามักจะเรียกง่าย ๆ ตามประสาจีนทางของเราว่าแม่น้ำฮวงโห และแม่น้ำแยงซีเกียง

    ความเชื่อเรื่องมีแหวน แหวนหยกเป็นรูปมังกร และทิ้งลงไปในน้ำ เราจะปลอดภัย มังกรจะคุ้มครองเรา ความเชื่อของจีน ไปตรงกับความเชื่อของคนญี่ปุ่นเหมือนกัน คนญี่ปุ่นเขาบอกว่าเมื่อเกิดลมพายุในทะเล พวกกะลาสีเรือจะพากันโยนเพชรนิลจินดาลงทะเลให้หมด เพื่อเซ่นสังเวยพญามังกร และเป็นการระงับความพิโรธของพญามังกร ซึ่งทำให้ทะเลมีคลื่นลมปั่นป่วน

    มังกรก็ชอบเพชรนิลจินดา คนญี่ปุ่นเขาถือว่าถ้าคลื่นลมในทะเลจัดเนี่ย กะลาสีจะต้องเอาเพชรนิลจินดาโยนลงไป เป็นการระงับความพิโรธของพระยามังกร

    มังกร เป็นผู้ทำให้เกิดสุริยคราสและจันทรคราส ซึ่งความเชื่อนี้ก็ตรงกับอียิปต์ ที่เชื่อว่างูซึ่งมีชื่อว่า อาเปปิ ของอียิปต์มีงูชื่อ อาเปปิ กลืนดวงอาทิตย์เข้าไป ส่วนทางอินเดียเรียกราหูว่าหัวมังกร และเรียกพระเกตุว่าหางมังกร ซึ่งก็ตรงกับฝรั่งที่เรียกราหูว่า Dragon?s head และเรียกพระเกตุว่า Dragon?s tail

    ฝรั่งเรียกราหูว่า Dragon?s head เรียกพระเกตุว่า Dragon?s tail พอ ๆ กับอินเดียเรียกราหูว่าหัวมังกร และเรียกพระเกตุว่าหางมังกร คือ ราหูมีรูปร่างเหมือนฝูซีกับหนวี่หวานั่นแหละ คือ ครึ่งคนครึ่งงู ท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างมีหางเป็นมังกร





  2. #2
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ auddy228
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    ที่อยู่
    THAILAND
    กระทู้
    1,176
    บล็อก
    1

    สว่างใจ วรรณกรรมของอินเดีย

    วรรณกรรมของอินเดีย



    มีวรรณกรรมของอินเดีย เขาบอกว่าราหูเป็นลูกของท้าวท้าววิประจิตติ หรือเวปจิตตีสูร พวกเรารู้จักกันในชื่อของเวปจิตรสูร

    วิประจิตติ เวปจิตตีแปลว่า มีสติไม่ค่อยจะดีนัก ที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะสมัยที่ยังเป็นอสูรสติดี ๆ ชอบแกล้งฤาษีที่เขาบำเพ็ญพรต ฤาษีท่านนั่งเข้าฌานอยู่ดี ๆ ก็เอามือไปตบหัวท่าน พอท่านตกใจตื่นขึ้นก็ดีอกดีใจ ฤาษีเลยสาปเลยว่า ขอให้เองนั้นนอน พอนอนตื่นขึ้นต้องลุกขึ้นมาร้องในตอนดึกด้วยความตกใจเสมอ จึงชื่อว่าเวปจิตตีสูร

    ท้าวเวปจิตตีกับนางสิงหิกา ก็มีลูกคือราหู แต่ในบางสำนวน บอกว่าพระเกตุเป็นอสูรนะ ชื่อว่า ไสญหิไกย หรือสิงหิไกย เป็นลูกของนางสิงหิกา

    ราหูหรือ พระเกตุนี่แหละ ตอนที่เทวดากับอสูรเขาช่วยกันกวนน้ำอมฤตกัน ไม่ได้ไป ไม่ได้ไปช่วยเขา แต่พอมีน้ำอมฤตออกมา ราหูก็ชุบมือเปิบ นั่นคือแปลงตัวเป็นเทวดา ไปกินน้ำอมฤต

    แต่ก็มิได้รอดพ้นสายตาของพระอาทิตย์กับ พระจันทร์ พระอาทิตย์กับพระจันทร์ก็นำความนี้ไปทูลฟ้องพระนารายณ์ ว่า บัดนี้ราหูได้แปลงตัวมากินน้ำอมฤตแล้ว พระนารายณ์ก็เอาจักรขว้างถูกตัวราหูขาดเป็นสองท่อน แต่ไม่ตาย เพราะดื่มน้ำอมฤตไปแล้ว ท่อนหัวก็กลายเป็นราหู ท่อนหางก็กลายเป็นพระเกตุ

    ด้วยเหตุนี้พระราหูจึงไม่ชอบ พระอาทิตย์และพระจันทร์ เพราะพระอาทิตย์กับพระจันทร์ ไปฟ้องพระนารายณ์ ราหูจึงถือว่าเมื่อไหร่ที่เจอกันเข้า ต้องจับมันกิน เพราะฉะนั้นเราจะได้ยินเรื่องของสุริยคราส จันทคราสเกิดขึ้น ก็คือราหูอมจันทร์ อมพระอาทิตย์นี่เอง

    บางตำนานมีการกล่าวถึงมังกรวัวตัวหนึ่ง มังกรวัวตัวหนึ่งมีนิสัยตะกละ ชอบกินคน เลยถูกสาปให้ตัวขาด ที่เรียกว่ามังกรวัวก็ เพราะว่าเป็นงูแต่มีสองเขา เลยเรียกว่ามังกรวัว นิทานอินเดียมีกล่าวถึงสัตว์ มีเรื่องกล่าวถึงสัตว์มีหัวเป็นวัว มีหางเป็นมังกรเหมือนกัน



  3. #3
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ auddy228
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    ที่อยู่
    THAILAND
    กระทู้
    1,176
    บล็อก
    1

    สว่างใจ นิทานปรัมปรา

    ด้วยเหตุนี้แหละ นิทานปรำปราหรือ myth ของชาติต่าง ๆ มักจะกล่าวว่า เผ่าพันธุ์ของตนเป็นเชื้อสายของมังกร เช่น คนจีนก็บอกว่าตัวนะมีเชื้อสายมังกร ถ้าคนล้านนาก็เชื้อสายพญานาค พญานาคทั้งล้านนา ทั้งอีสาน ทั้งพม่า ทั้งมอญ เชื้อสายนาคทั้งนั้น เพราะการสร้างโบสถ์สร้างวิหารนั้น เอานาคมาประกอบกัน ส่วนเขมรนั้นเชื่อว่าตัวมีเชื้อสายตะกวด

    ในเรื่องของนิทานปรัมปรา เช่น ปรัมปราของอาณาจักรน่านเจ้า ยกตัวอย่างของน่านเจ้า นี่ก็เล่าว่ามีชายคนหนึ่งชื่อมุงสือทู้ ชื่อเป็นคนจีน ที่จริงเป็นชื่อไทยอย่างหนึ่งก็ได้นะ มุงสือทู้ เขาไปหาปลาที่ทะเลสาป ยี่โล้ว แล้วก็ไปจมน้ำตายในทะเลสาปนั้น ขอแทรก คำว่าทะเลสาป ทะเลสาป คำว่า ทะเล แปลว่า
    แหล่งน้ำขนาดใหญ่ คำว่าสาป แปลว่า น้ำจืด ฉะนั้น ทะเลใช้เรียกแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำเค็ม ส่วนทะเลสาป จะใช้เรียกแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำจืด แต่ก็ไม่เสมอไป ทะเลสาบเดดซีนั่นน้ำเค็มจัดเลย และ สาป เขมรแปลว่า จืด นี่แทรกเข้ามา ตอนนี้ถึงตอนที่ว่า

    มุงสือทู้ไปหาปลาที่ทะเลสาบยี่โล้วแล้วจมน้ำตาย พอจมน้ำตายเนี่ย ภรรยาชื่อว่านางชาหู ภรรยาเห็นสามีจมน้ำตาย ก็มาร้องไห้ที่ทะเลสาบนั้น ร้องไห้ไปร้องไห้มา ขณะนั้นมีขอนไม้ขนาดใหญ่อันหนึ่ง ลอยมากระทบเท้าของนาง นางก็ตกใจวิ่งหนีมาพบลูกชายทั้งสิบของนาง ก็พากันมามุงดู มุงดูที่ที่มุงสือทู้จมน้ำตาย

    ทั้งหมดก็เห็นท่อนไม้นั้นกลายร่างเป็นมังกร และมังกรก็ร้องถามว่า "ลูกฉันอยู่ไหน ลูกฉันอยู่ไหน" มังกรถามอย่างนี้ พวกลูก ๆ ของนางเนี่ยทั้งเก้าคนเนี่ยมีสิบ เก้าคนนี่ ตกใจวิ่งหนีกันไปหมดเลย เหลือคนสุดท้องไม่กลัว ไม่กลัวเลยเดินเข้าไปหามังกร ไม่รู้ว่าตัวอะไรเลยเดินเข้าไปหามังกร และก็นั่งตรงนั้น ฝ่ายมังกรพอเห็นเด็กมานั่งใกล้ ก็เอาลิ้นเลียหลังเล่น

    มังกรเอ็นดูเด็ก เอาลิ้นเลียหลังเล่น คำว่า "หลัง" ภาษาพื้นเมืองเขาเรียกว่า "ซิ้ว" ส่วนคำว่า "นั่ง" ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า "ลุง" พวกนี้เขาเลยถือว่า เขามีตระกูลเป็น "ต้นตระกูลซิ้วลุง" ของอาณาจักรน่านเจ้า และพี่น้องทั้งสิบต่อมาก็แต่งงานกัน มีลูกมีหลานทุกคนในตระกูล และทุกคนในตระกูลก็จะสักรูปมังกรไว้บนร่างกาย มีลูกหลานสืบมาเป็นตระกูล ทุกคนก็จะสักรูปมังกรบนร่างกายเป็นเครื่องหมายประจำตระกูล


  4. #4
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ auddy228
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    ที่อยู่
    THAILAND
    กระทู้
    1,176
    บล็อก
    1

    สว่างใจ กำเนิดชนชาวอ้ายลาว

    เรื่องของพวกน่านเจ้ามันคล้ายกับนิทานปรำปราของกำเนิดชนชาวอ้ายลาว อันนี้ในหนังสือเรื่อง เรื่องของชาติไทย หนังสือชื่อ เรื่องของชนชาติไทย ซึ่งท่านเจ้าคุณอนุมานราชธนได้เขียนเล่าไว้ เล่าว่า หญิงคนหนึ่งชื่อว่าซ้ายัด ซ้ายัดนี่อาศัยอยู่แถบภูเขาอ้ายลาว

    มีอยู่วันหนึ่งนางไปจับปลาที่แม่น้ำไปถูกต้นไม้ที่จมอยู่ พอไปถูกต้นไม้ที่จมอยู่ ไปโดนต้นไม้เท่านั้น นางตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์เองอย่างประหลาด กำเนิดบุตรสิบคน

    วันหนึ่งต้นไม้นั้นกลายร่างเป็นมังกร ปรากฏขึ้นเหนือน้ำ ก็ถามนางว่า "คลอดบุตรแล้วใช่ไหม เวลานี้บุตรอยู่ไหน" ฝ่ายพวกลูกของนางทั้งสิบได้ยินก็ตกใจวิ่งหนี แต่ลูกคนเล็กหนีไม่ทัน ไปนั่งพิงอยู่ข้างหลังมังกรด้วยความตกตะลึง มังกรก็เลียเด็กนั้น นางซ้ายัดจึงตั้งชื่อเด็กชายคนนั้นว่า เก๋าหล่ง เก๋า แปลว่า พิง หล่ง แปลว่านั่งหรืออาศัย

    เมื่อเด็กทั้งสิบโตขึ้น พี่น้องทั้งเก้าเห็นน้องชายหรือเก๋าหล่งมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด จึงยกย่องให้เป็นหัวหน้า ต่อมาก็ได้แต่งงานแต่งการกัน มีลูกหลานมากมายแตกแยกเป็นสาขากว้างขวาง ล้วนแต่เรียกตัวเองว่าพวกอ้ายลาว ชาวอ้ายลาวโดยส่วนใหญ่ในยุคนั้นจะสักรูปมังกรไว้ที่ร่างกายเป็นสัญลักษณ์

    พวกอ้ายลาว จะสักรูปมังกรเป็นสัญลักษณ์ ถ้าสังเกตดี ๆ ว่าทางตอนใต้ของจีนจะนิยมสักรูปมังกร ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรน่านเจ้าหรืออย่างไรก็แล้วแต่ อาณาจักรน่านเจ้า ถ้าท่านสนใจจะศึกษาให้ละเอียดนะครับ ก็มีจารึกอยู่หลักหนึ่งนะท่านนะ ชื่อจารึกน่านเจ้า หรือ กิมเจียะซุ่ยผิ่น ซึ่งขุนนางชื่อหวางฉั่นเขาจัดการแต่งขึ้น

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •